xs
xsm
sm
md
lg

“Self Control” ทักษะสำคัญที่อย่าลืมสอนเด็ก/ดร.แพง ชินพงศ์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คงมีคุณพ่อคุณแม่น้อยคนนักที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์การเรียกร้องและเอาแต่ใจตัวเองของลูกๆ ทั้งงอแงอยากได้ของเล่นใหม่อยู่เรื่อยๆ หรือรบเร้าจะกินลูกอมที่ชื่นชอบ หากไม่ได้ดั่งใจก็มักจะหงุดหงิด อารมณ์เสียหรือร้องไห้ไม่พอใจ จนคุณพ่อคุณแม่ทนไม่ได้และรู้สึกว่าตามใจสักหน่อยคงไม่เป็นไร คิดเสียว่าเมื่อลูกโตขึ้นอีกหน่อยจะสามารถเรียนรู้ได้เอง แต่บ่อยครั้งเข้าพฤติกรรมที่ว่ากลับไม่หมดไปเสียที ซ้ำร้ายยิ่งโตก็ยิ่งดูจะหนักข้อขึ้นทุกวัน หรือว่ามีอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่านะ?

ความคิดที่ว่าเมื่อเด็กโตขึ้นจะจัดการกับอารมณ์และความต้องการของตัวเองได้ดีขึ้นอาจไม่ผิดเสียทีเดียว เนื่องจากความสามารถในการใช้ความคิดและเหตุผลมักพัฒนาควบคู่ไปกับประสบการณ์การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นที่มีเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ยังต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆ อาทิ วิธีการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมที่เด็กเติบโตมา ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญร่วมด้วย จึงไม่มีหลักประกันที่ทำให้มั่นใจได้ว่าเด็กทุกคนจะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทิศทางที่ครอบครัวและสังคมคาดหวังได้ด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว

การส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในการ “ควบคุมตัวเอง” (Self Control) หรือความสามารถในการจัดการและรับมือกับอารมณ์และความต้องการของตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องไม่ละเลยที่จะให้การดูแลบ่มเพาะ ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกล่อมเกลาความคิดและจิตใจของเด็กให้มีความหนักแน่นและมั่นคง สามารถรับรู้และรับมือกับสภาวะอารมณ์และความรู้สึกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆได้อย่างเหมาะสม โดยเด็กที่มีทักษะในการควบคุมตัวเองจะมีลักษณะที่สำคัญ ดังนี้

1.มีความคิดไตร่ตรอง รู้จักควบคุมความคิดให้สามารถพิจารณาเหตุและผลที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ รู้จักตั้งเป้าหมายและวางแผนก่อนการลงมือทำ เพื่อบังคับควบคุมการแสดงออกให้เป็นไปอย่างเหมาะสม

2.รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ปล่อยให้อารมณ์และความต้องการก้าวนำความคิดและเหตุผล มีความอดทนและรู้จักรอคอยเวลาที่เหมาะสม สามารถชะลอหรือลดทอนความต้องการลงจนไม่มีผลต่อการกำหนดพฤติกรรม

3.มีสมาธิจดจ่อ รับรู้และเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึกและความต้องการของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามแรงกระตุ้นจากทั้งภายในและภายนอก ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำสิ่งต่างๆได้สำเร็จตามเป้าหมาย

4.รู้จักปรับตัว มีการผลักดันตัวเองให้มุ่งไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจำเป็นที่จะต้องรู้จักยืดหยุ่นและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ตลอดจนสามารถหาทางออกเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนต่างๆได้

ด้วยเหตุนี้ เด็กที่ขาดการฝึกฝนทักษะในการควบคุมตัวเองจึงมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจแต่ความต้องการของตัวเองและขาดความยับยั้งชั่งใจในการแสดงออกถึงอารมณ์ไม่พอใจหรือมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความบกพร่องในการพัฒนากระบวนการคิดและการความมั่นคงทางอารมณ์ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาทักษะความสามารถในด้านอื่นๆและการปรับตัวใช้ชีวิตในสังคมตามมา อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการถูกชักจูงไปในทางที่ไม่เหมาะสมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

เมื่อเป็นดังนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรมองข้ามความสำคัญของการพัฒนาทักษะในการควบคุมตัวเอง โดยไม่หวังเพียงว่าเด็กจะสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง หากแต่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้สอนที่ดีที่ทำให้เด็กมีความสามารถในการจัดการกับอารมณ์และความต้องการของตัวเองได้ด้วยแนวทางดังต่อไปนี้

1.สร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว ความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัวเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับอารมณ์และจิตใจของเด็กๆ ก่อนที่จะต้องออกไปเผชิญกับความไม่แน่นอนหรือสิ่งที่ผิดไปจากความคาดหวังในสังคมภายนอก คุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องจัดสรรเวลาในการทำกิจกรรมร่วมกับลูกอยู่เสมอเพื่อสร้างความผูกพันและความไว้วางใจที่มีต่อกัน ให้ความใส่ใจรับฟังปัญหา เปิดพื้นที่ให้กับการให้คำแนะนำและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนการเป็นแบบอย่างที่ดีในการควบคุมตัวเองให้เด็กได้ซึมซับและเรียนรู้ที่จะทำตาม

2.จัดการสภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมนั้นหมายรวมถึงทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเด็กซึ่งสามารถเป็นแหล่งในการฝึกฝนและกระตุ้นให้เรียนรู้ทักษะในการควบคุมตัวเองได้ตลอดเวลา เช่น เลือกโรงเรียนใกล้บ้านที่สามารถดูแลเด็กได้อย่างใกล้ชิด หรือร่วมกับสมาชิกในหมู่บ้านจัดกิจกรรมต่อเนื่องสำหรับเด็ก สิ่งสำคัญคือการหลีกเลี่ยงและออกห่างจากสิ่งยั่วยุที่จะทำให้เด็กเกิดความไขว้เขว อาทิ ความขัดแย้งภายในครอบครัว การข่มขู่คุกคามในโรงเรียน หรือที่พักอยู่ใกล้แหล่งอบายมุข ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องจัดการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว

3.เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ สิ่งสำคัญสำหรับพัฒนาทักษะในการควบคุมตัวเองคือ การฝึกฝนและลงมือทำอยู่เสมอ ซึ่งเด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการเล่นกีฬาและดนตรี งานศิลปะและการประดิษฐ์ เข้ากลุ่มการแสดงหรือทำงานเพื่อสังคม และกิจกรรมอื่นๆที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย โดยนอกจากจะได้เรียนรู้การเข้าสังคมและปรับตัวใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นแล้ว ยังได้ฝึกฝนการเคารพในกฎกติกา ความอดทนและรับผิดชอบ ตลอดจนส่งเสริมกระบวนการคิดและการทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

4.สร้างทางเลือกให้เสมอ การแนะนำให้เด็กรับรู้และเข้าใจถึงสภาวะอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองถือเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ถึงวิธีการรับมือกับตัวเอง ในขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ก็ควรให้ความช่วยเหลือด้วยการสร้างทางเลือกและแรงจูงใจในการรับมือกับอารมณ์และความต้องการอย่างเหมาะสม รวมทั้งร่วมกันกำหนดเป้าหมายในเรื่องต่างๆและวางแผนที่จะลงมือปฏิบัติให้เกิดผลได้ตามที่ตั้งใจ ซึ่งนอกจากเด็กจะมีโอกาสได้ใช้ความคิดไตร่ตรองแล้ว ยังทำให้เกิดความรู้สึกว่าสามารถตัดสินใจและจัดการสิ่งต่างๆได้ด้วยตัวเองอีกด้วย

โดยปกติแล้วเด็กทุกคนมีพัฒนาการและความสามารถในการเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แต่หากไม่ได้รับความใส่ใจหรือไม่ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมก็อาจทำให้เด็กเติบโตไปในทิศทางที่ไม่พึงประสงค์ คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรละเลยความสำคัญในจุดนี้ โดยเฉพาะการฝึกฝนทักษะการจัดการและรับมือกับอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งเป็นรากฐานในการพัฒนาความคิดและจิตใจที่จะส่งเสริมให้เด็กสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น