“หมอทวีศิลป์” ไหว้ขอโทษให้ข้อมูลไม่ครบ จากนี้จะทำให้ดียิ่งขึ้น เผยขีดวงเสี่ยงสูง “ทหารอียิปต์-ลูกทูต” ชัดแล้ว ยังไม่พบติดเชื้อ

“หมอทวีศิลป์” ยกมือไหว้ขอโทษ ปชช. ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ลั่นจะทำหน้าที่ให้หนักขึ้น หาข้อมูลละเอียดให้ ปชช. เผยเคสลูกทูตซูดาน เสี่ยงสูง 6 คน กักตัวทั้งหมดแล้ว ส่วนทหารอียิปต์ขีดวงแค่ รร.ดีวารี-ห้างแหลมทอง เสี่ยงสูง 12 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด ส่วนเสี่ยงต่ำทั้ง 2 เคส ทยอยตรวจ ยังไม่พบติดเชื้อ ยังไม่ยกเลิกเมดิคัล ทัวริสซึม

วันนี้ (16 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวกรณีทหารอียิปต์ และลูกสาวอุปทูตซูดาน ว่า ต้องขอกราบขอโทษพี่น้องประชาชน และคนในจังหวัดระยอง และ กทม.บางส่วน จากการรายงานสถานการณ์ไป ทำให้เกิดความไม่สบายใจและวิ่งหาข้อมูล จึงต้องมาทบทวนหน้าที่ของตัวเองที่ต้องหาข้อมูลให้ประชาชนโดยละเอียด และดึงความเชื่อมั่นทุกอย่างกลับมา จะขอทำหน้าที่ตัวเองให้หนักยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อสภาวการณ์ และสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา โดยจะรายงานเช่นนี้ไปอีกสักระยะ จนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตอียิปต์ประจำประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ โดยขอแสดงความเสียใจ และเห็นอกเห็นใจด้วยความจริงใจต่อทุกคนที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุนี้ โดยให้ความมั่นใจแก่คนไทย ว่า สถานเอกอัครราชทูตอียิปต์ จะสกัดกั้นบรรเทาภัยคุกคามใดๆ ต่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับกรณีลูกสาวอุปทูตซูดานวัย 9 ขวบ เราระบุขอบเขตได้ชัดเจน คือ สัมผัสเสี่ยงสูง 6 ราย คือ สมาชิกในครอบครัว 5 ราย และพนักงานขับรถสถานทูต 1 ราย ได้เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อแล้ว และติดตามอาการ 14 วัน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 18 ราย คือ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ 2 ราย ถูกกักตัว 14 วัน และผู้สัมผัสอาศัยในคอนโดเดียวกัน 16 ราย ซึ่งจากนี้จะนำมารายงานมีอาการ ไม่มีอาการหรือไม่อย่างไร เพื่อให้สบายใจ ส่วนการตรวจคนในคอนโด 267 คน ไม่พบเชื้อ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนกรณีทหารอียิปต์ชัดเจนมีติดเชื้อ 1 ราย จาก 31 ราย จากการตรวจสอบ 3 ระบบ คือ การสอบสวน กล้องวงจรปิดโดยเดินตามดูทุกที่ และไทยชนะ เราตีวงขอบเขตเพียงเฉพาะโรงแรมดีวารี และห้างแพชชั่น (แหลมทอง) ในระยะทางเดิน 250 เมตรเท่านั้น บริเวณอื่นไม่เกี่ยวข้อง โดยคนที่สัมผัสเสี่ยงสูงมีทั้งหมด 12 ราย คือ พนักงานขับรถตู้รับส่งไปโรงแรม 4 ราย พนักงานโรงแรมดีวารี 7 ราย คือ ผู้จัดการ พนักงานขาย และแม่บ้านชั้น 7-8 และคนขับแท็กซี่ 1 ราย แม้ผู้ติดเชื้อไม่ได้นั่งรถโดยสาร เพราะเดินไปห้างแหลมทอง แต่แท็กซี่บอกว่า พูดคุยกับผู้ติดเชื้อนาน 5 นาที จึงเข้าข่ายสอบสวนโรคจึงขอดึงมาเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มอีก 1 ราย โดยจากการตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด แต่ต้องติดตามให้ครบ 14 วัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนสัมผัสเสี่ยงต่ำ จากการติดตามจากไทยชนะกรณีห้างแพชชั่น มี 394 คน ก็จะนำมาตรวจทุกคน โดยส่ง SMS ไปยังเบอร์โทร.แล้ว ใครได้รับ SMS ขอให้เข้ามาตรวจ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ระยอง หรือกลับภูมลำเนาแล้วก็ตาม ให้ไปรับบริการตรวจได้ ซึ่งขณะนี้มาตรวจแล้ว 40 กว่าคน ส่วนคนที่ไปห้างแพชชั่นในช่วงเวลาเดียวกัน และเข้ามาขอรับการตรวจวันที่ 14 ก.ค. รวม 886 คน ผลเป็นลบ ส่วนห้างเซ็นทรัลที่ทยอยเข้ามาตรวจช่วงที่ข้อมูลยังไม่ชัดเจน 447 คน ผลเป็นลบเช่นกัน สำหรับการตรวจวันที่ 15 ก.ค. มีเข้ามาตรวจ 1,252 ราย ผลน่าจะออกวันนี้

“สิ่งที่เกิดขึ้นถูกจำกัดวงได้ดี อย่างไรก็ตาม การใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เป็นอาภรณ์เครื่องป้องกันส่วนตัวที่ดีที่สุด ถ้ามั่นใจอยู่ในห้างแหลมทองเวลานั้น แต่ด้วยอาภรณ์นี้ก็สบายใจได้มาก ถ้าล้างมือ รักษาระยะห่าง ก็ยิ่งมั่นใจสูง แม้ไม่ใช่กลุ่มนี้ เพราะไปสัมผัสอะไรมา ก็ไม่ต้องกังวล มารับการตรวจ และดูแลสุขภาพร่างกายตนเองให้ดี โรคนี้เรามีทรัพยากรเพียงพอ แม้จะมีการติดเชื้อ ซึ่งอยากสื่อสารว่า ถ้ามีติดเชื้อเป็นเรื่องธรรมดา เราจะยอมรับตัวเลขติดเชื้อขึ้นได้ และศักยภาพสาธารณสุขเราดูแลได้ ก่อนหน้านี้เราก็ดูแลมาก่อนอย่างดี ขอให้ความมั่นใจ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

เมื่อถามว่าพื้นที่ จ.ระยอง ยังใช้ชีวิตตามปกติได้หรือไม่ ห้างแหลมทองกลับมาเปิดบริการก็ยังใช้บริการได้ปกติหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ได้ เพราะการทำความสะอาดแล้วก็ปราศจากเชื้อ ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น ยังใช้พื้นที่ได้ปกติเหมือนเดิม ส่วนที่ถามว่าทั้งสองเคสเชื้อโควิดเป็นสายพันธุ์ใด ใช่สายพันธุ์ G หรือไม่ ต้องใช้เวลาในการทดสอบ ถ้าผลออกมาจะรายงานต่อไป

ถามต่อว่าหลายแห่งใช้มาตรการโอเวอร์รีแอคชันหรือไม่ จากกรณีทหารอียิปต์ จนมีการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นปฏิกิริยาสังคมที่เกิดขึ้น ด้านหนึ่งจะมองผลบวกว่าสร้างความตื่นตัว แต่ภาษาไทยมีบอกว่า ตื่นตัวแต่อย่าตื่นตูม จึงต้องมาวางสมดุล ตื่นตัว คือ ระมัดระวังได้ดี จัดการได้ดี แต่ตื่นตูมอาจทำมากเกินไป และทำให้เสียหายทางเศรษฐกิจได้ โรคนี้ต้องใช้เวลาสอบสวนโรค ซึ่งขณะนี้ข้อมูลชัดเจนแล้ว ว่าเฉพาะโรงแรมดีวารีและห้างแหลมทองเท่านั้น ดังนั้น ช่วงแรกที่ยังไม่ชัดเจน พอทราบว่ามีคนไปในสถานที่ก็ไม่สบายใจ จนมีการปิดไป 200 กว่าโรงเรียน ดังนั้น ผู้ว่าฯ ระยอง ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะมีการพิจารณาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องจริงๆ จากการตีวงให้แคบลง เมื่อข้อมูลชัดเจนขึ้นการตัดสินใจก็จะดีขึ้น

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการอุดช่องโหว่ต่างๆ ศบค.ชุดเล็กได้ให้หน่วยงานที่เป็นผู้รับผิดชอบแต่ละกิจการกิจกรรม แจกแจงขั้นตอนปฏิบัติในแต่ละมาตรการ และใส่เจ้าภาพหลักผู้รับผิดชอบหลักเข้าไป เดิมที่มอบหลักการกว้างๆ ปรากฏว่า บางงานมีผู้รับผิดชอบกรณีนี้มากมาย เช่น เครื่องบินทางทหารมาลงประเทศไทย เชื่อมโยงหลายหน่วยงานมากๆ ผู้รับผิดชอบหลากหลายท่าน วันนี้แจกแจงรายละเอียดมอบผู้รับผิดชอบเพื่อชี้ชัดถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ

เมื่อถามถึงกรณีสายการบินเช่าเหมาลำ 2 สายการบิน แวะจอดที่ไทยก่อนไปจีน แต่จีนพบว่าแต่ละลำมีคนติดเชื้อโควิด 5-6 คน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เครื่องบินนี้มาแวะที่สนามบินไทยเท่านั้น เพื่อขอใช้เส้นทางที่อนุญาตเข้าไปประเทศจีน โดยผู้โดยสารไม่ได้ลงจากเครื่อง คนติดเชื้อทั้งหมดนั่งในเครื่องบิน ไม่ได้มีโอกาสลงมา คนไทยถือว่าปลอดภัย เพราะไม่ได้รับคนต่างชาติเข้ามาจากสองเที่ยวบินนี้

ถามต่อว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นต้องทบทวนเมดิคัล ทัวริสซึม หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กลุ่มเมดิคัลยังคงดำเนินการตามปกติ แต่ต้องเข้มผู้ติดตาม การจัดหาที่พัก ไม่อนุญาตให้ออกมาในพื้นที่สาธารณะ แต่วันนี้ยังไม่มีใครเข้ามาด้วยวิธีนี้ จะต้องออกมาตรการต่างๆ ซักซ้อมเข้าใจอีก อย่างเร็วอาจเป็นปลายเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งข้อห่วงใยที่เกิดขึ้นจากกรณีระยองหรือคอนโด กทม. ก็ต้องมาสู่มาตรการเข้มข้นในกลุ่มนี้ด้วย

ถามถึงกรณีผู้ป่วยหญิงย่านราษฎร์บูรณะ สงสัยติดเชื้อโควิด นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่ใช่ ผลออกมาแล้วไม่พบเชื้อ