คนไทยกลับจากต่างประเทศติดเชื้อโควิดอีก 8 ราย มาจากยูเออี 5 ราย คูเวต 2 ราย และอินเดีย 1 ราย ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ไม่พบติดเชื้อในประเทศเป็นวันที่ 13 แจงต้องไม่มีติดเชื้อนาน 28 วัน ถึงเข้าสู่ระยะเสี่ยงต่ำ ยังต้องสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ส่วนกิจการสีแดงเฟส 4 ต้องรอเคาะมาตรการหลักมาตรการรองก่อน
วันนี้ (7 มิ.ย.) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 8 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 3,112 ราย กลับบ้านรวม 2,972 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย และยังรักษาใน รพ. 82 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ทั้งหมดเดินทางกลับมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกันของรัฐ (State Quarantine) ดังนั้น จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเป็น 0 ติดต่อกันเป็นวันที่ 13 สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 8 ราย แบ่งเป็น
1. มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จำนวน 5 ราย เดินทางถึงไทยวันที่ 2 มิ.ย. ทุกคนเคยได้รับการตรวจเชื้อที่ประเทศต้นทางมาแล้ว แต่ไม่พบเชื้อ โดยกลับมาถึงไทยก็ตรวจพบเชื้อทุกราย แต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาใน รพ. ใน กทม. โดยรายที่ 1 เป็นหญิงอายุ 38 ปี อาชีพพนักงานบริษัท รายที่ 2 เพศชายอายุ 37 ปี เป็นนักท่องเที่ยว รายที่ 3 เพศหญิง อายุ 38 ปี อาชีพพนักงานสปา รายที่ 4 อายุ 23 ปี อาชีพพนักงานนวด และรายที่ 5 เพศหญิง อายุ 24 ปี อาชีพพนักงานขายอาหาร
2. มาจากคูเวต 2 ราย เป็นเพศชาย อายุ 46 ปี และ 37 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยวันที่ 24 พ.ค. โดยตรวจเชื้อวันแรกวันที่ 27 พ.ค. ไม่พบเชื้อ และตรวจอีกครั้งวันที่ 6 มิ.ย. ตรวจเจอเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารักษาใน รพ. ใน จ.สมุทรปราการ
3. มาจากอินเดีย 1 ราย เพศชาย อายุ 52 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 5 มิ.ย. จากการคัดกรองที่สนามบินแล้วพบเชื้อ โดยมีอาการไข้และไอ เข้ารับการรักษาตัวใน รพ. ใน จ.สมุทรปราการ
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยที่กลับมาจากต่างประเทศมี 175 ราย ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คือ กลับมาจากต่างประเทศ 71 ราย คิดเป็น 98.61% มีเพียง 1 ราย ที่พบในประเทศ คือ สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายก่อนหน้า แยกเป็นอาชีพพบว่าสูงสุด คือ นักเรียน นักศึกษา พนักงานนวด รับจ้างทั่วไป พนักงานบริษัท หรือโรงงาน
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกเคยประกาศก่อนหน้านี้ ระบุว่า ให้สวมหน้ากากอนามัยเฉพาะผู้ป่วย หรือบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แต่วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ประกาศคำแนะนำใหม่ว่า ให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ก่อนออกนอกเคหสถาน ล้างมือถูกวิธี และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ส่วนประเทศจีน เมืองอู่ฮั่น มีงานวิจัยผู้ป่วยโควิด 2,866 ราย โดยพบว่า ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว คือ โรคความดันโลหิตสูง จะมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าคนไม่มีโรคร่วมด้วยมากถึง 4 เท่า ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ประกาศปิดเมืองเจดดาห์อีกครั้ง หลังมีการแพร่โรคอย่างหนัก
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า ส่วนการผ่อนคลายระยะ 4 ที่เป็นกิจการเสี่ยงสูง เช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก กองถ่าย ผับบาร์ เป็นต้น เนื่องจากมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง มีการรวมตัวคนจำนวนมาก หรือเป็นสถานที่ปิด ก็จะเสี่ยงการระบาดเชื้อได้มาก ก็ต้องรอมาตรการในการเปิดสถานบริการเหล่านี้ ว่า ต้องมีมาตรการหลักมาตรการรองอย่างไรบ้าง แต่ละกิจการก็จะมีมาตรการแตกต่างกันไป ก็ต้องรอการสรุปจาก ศบค.อีกครั้ง
เมื่อถามถึงการไม่มีผู้ป่วยในประเทศครบ 14 วัน ถือว่าปลอดภัยหรือไม่ พญ.พรรณประภา กล่าวว่า ตามหลักการระบาดวิทยาและการสอบสวนโรค ปกติระยะฟักตัวของโรคอยู่ที่ 14 วัน แต่ระยะเสี่ยงต่ำ คือ 2 เท่าของระยะฟักตัวของโรค คือ 28 วัน หมายความว่า 28 วันนี้ จะบอกว่า มีความเสี่ยงต่ำที่จะมีโอกาสแพร่ระบาดของเชื้อ ช่วงนี้ครบ 13 วันแล้ว ก็ให้ประชาชนคงการปฏิบัติการป้องกันแพร่ระบาดเชื้ออยู่ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ออกไปไหน ไปในพื้นที่คนน้อย