ศบค.แนะวันหยุดไปเที่ยวในที่ไม่แออัด ย้ำสวมหน้ากากอนามัย เตือนพบผู้ป่วยไม่แสดงอาการ

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 2 ราย มาจาก State Quarantine แต่ไม่แสดงอาการ ชี้ เกาหลีใต้มีมากถึง 25-35% แนะการไปเที่ยวช่วงคลายล็อกเว้นระยะห่าง เลือกที่ไม่แออัด หรือรอให้คนอื่นไปก่อนก็ได้ ถ้าไปย้ำสวมหน้ากาก ล้างมือ ไม่เอามือสัมผัสใบหน้า อย่าลืมเช็กอิน-เช็กเอาต์ไทยชนะ

วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวัน ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 2 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,104 ราย ป่วยหายแล้วสะสม 3,971 ราย เพิ่มขึ้น 0 ราย รักษาอยู่ 75 ราย เสียชีวิต 0 ราย สะสมรวม 58 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ประเทศไทย เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักใน State Quarantine จากรัสเซีย 1 ราย เป็นนักศึกษาชายอายุ 22 ปี พักที่ SQ ใน จ.ชลบุรี พบเชื้อเมื่อ 4 มิ.ย. และคูเวต 1 ราย เป็นพนักงานโรงงานชาย อายุ 39 ปี พักที่ SQ ใน กทม. ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 พบเชื้อ ทั้งสองรายไม่มีอาการ

ผู้ป่วยสะสมจำแนกเพศชายมากกว่าเพศหญิง จำแนกตามพื้นที่มากที่สุดกรุงเทพฯ และ นนทบุรี ตามมาด้วยภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ อายุเฉลี่ย 39 ปี กลุ่มผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ อายุ 20-29 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน ผู้ป่วยยืนยัน 2 สัปดาห์ล่าสุด อาชีพส่วนใหญ่คือ นักเรียน/นักศึกษา รองลงมาคือ รับจ้างทั่วไป พนักงานนวด พนักงานโรงงานและบริษัท

สถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 6,844,797 ราย เพิ่มขึ้นเกือบ 1.5 แสนราย รักษาตัว 53,502 ราย รักษาหายแล้ว 3,348,860 ราย เสียชีวิต 398,146 ราย เพิ่มขึ้น 5 พันคน ประเทศที่มีผู้ป่วยยืนยันสะสมมากที่สุด สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 4.1 หมื่นราย รองลงมาคือ บราซิล และ รัสเซีย ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 80 ประเทศอินเดียอยู่ในอันดับที่ 6 มากที่สุดในเอเชีย โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ 9,471 ราย สะสม 236,184 ราย รองลงมาคือ ปากีสถาน บังกลาเทศ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

เมื่อดูจากกราฟพบว่า บราซิลมีผู้ป่วยรายใหม่จาก 1 หมื่นราย เป็น 3 หมื่นราย ใน 1 เดือน ยังควบคุมโรคไม่ได้ ส่วนสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ แต่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ส่วนฝั่งเอเชีย ผู้ป่วยรายใหม่ประเทศอินเดียเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. เกือบ 1 หมื่นรายต่อวัน ประเทศไทยมากที่สุดเพียง 188 ราย เช่นเดียวกับปากีสถาน และ บังกลาเทศ ส่วนอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่อยู่แต่ไม่เพิ่มขึ้นสูงมาก

ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ บราซิลไฟเขียวทดสอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในประเทศ พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศเกาหลีใต้ยังพบปัญหาโควิดจากคลัสเตอร์ และผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการมากถึง 25-35% โดยเน้นย้ำป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะสวมหน้ากากอนามัย เพราะเราหรือคนอื่นต่างก็ไม่ทราบว่าติดเชื้อ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ติดคนอื่น และไม่ให้เรารับเชื้อ

ช่วงตอบคำถาม เมื่อถามว่า จุดท่องเที่ยวมีคนหนาแน่นค่อนข้างมาก อยากฝากอะไรถึงประชาชน ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ มีมาตรการล็อกดาวน์ สร้างความเครียดให้ประชาชน แต่หลังจากมาตรการผ่อนคลายก็มีสถานที่ท่องเที่ยวเปิดมากขึ้น เป็นเรื่องดีที่ครอบครัวใช้เวลาร่วมกัน และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แต่ต้องคำนึงถึงจำนวนคนที่มาเที่ยวด้วย การเว้นระยะห่างหรือเลือกสถานที่ไม่แออัด หรือรอให้คนอื่นเที่ยวไปก่อนแล้วค่อยไป ถ้าหากจะไปจริงๆ สิ่งสำคัญคือ สวมหน้ากากอนามัย งดสัมผัสใบหน้า ล้างมือบ่อยๆ และงดไปในสถานที่แออัด

เมื่อถามถึงความสำคัญในการเช็กอินและเช็กเอาต์แพลตฟอร์มไทยชนะ ชี้แจงว่า ช่วงแรกอาจยังไม่ชิน แต่จะช่วยประเมินความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่นั้นเพื่อตัดสินใจได้ และการเช็กอินจะบ่งบอกว่าเราไปใช้บริการในเวลาไหน และหากมีผู้ป่วยกรมควบคุมสามารถควบคุมโรคและรักษาได้อย่างทันท่วงที ส่วนการเช็กเอาต์ก็สำคัญ ถ้าไม่เช็กเอาต์พื้นที่นั้นจะหนาแน่นตลอดเวลา ซึ่งการเช็กเอาต์จะช่วยแสดงผลความหนาแน่นในอัตราที่แท้จริง ช่วยให้เราไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และเป็นตัวจดจำให้เรา ทั้งนี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ก่อนออกจากบ้านไปท่องเที่ยว ไปสถานที่ท่องเที่ยว ให้เน้นมาตรการควบคุมหลัก และสแกนคิวอาร์โคดผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ