โฆษก ศบค.แถลงผู้ติดเชื้อรายใหม่ 0 ราย เสียชีวิต 0 ราย แต่คาดการณ์ผู้ป่วยจากสถานที่ชุมชนและทำงานอาชีพเสี่ยงเพิ่มขึ้น พรุ่งนี้เตรียมพร้อมแพลตฟอร์มไทยชนะ ร้านค้าพิมพ์คิวอาร์โค้ด ให้ลูกค้าใช้มือถือสแกนเข้า-ออก ย้ำสุขอนามัย 5 ข้อ ฝากวลี “แยกกันเราอยู่ รวมหมู่เพื่อไปต่อ”
วันนี้ (16 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ 0 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,025 ราย หายป่วยสะสม 2,855 ราย รักษาอยู่ 114 ราย เสียชีวิต 0 ราย สะสมรวม 56 ราย ขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนที่ร่วมมือกัน จากวันที่ 22 มี.ค. ที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 188 ราย ก็ลดลง จังหวัดที่มีรายงานในช่วง 28 วันที่ผ่านมา 18 จังหวัด ไม่มีรายงานในช่วง 28 วันที่ผ่านมามี 50 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนมี 9 จังหวัด ผู้ป่วยสะสมต่อแสนประชากรสูงสุด ยังเป็นกรุงเทพมหานคร
จำแนกตามปัจจัยเสี่ยงในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้สะสมมากที่สุด รองลงมาคือ ศูนย์กักกัน ผู้ต้องกัก และการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกและผู้ติดเชื้อในชุมชน ผ่าน อสม. ซึ่ง 80% อยู่ในวัยทำงานและไม่แสดงอาการ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว และอาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด แสดงว่า ยังมีผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการวนเวียนอยู่ใกล้ตัว แต่การนำมารักษามาจากกระทรวงสาธารณสุข และกลุ่มเสี่ยงเข้ามาตรวจ
สถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,628,356 ราย เพิ่มขึ้น 102,973 ราย รักษาตัว 45,006 ราย รักษาหายแล้ว 1,757,445 ราย เสียชีวิต 308,645 ราย สหรัฐอเมริกาอัตราการตายยังเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาบราซิล และสหราชอาณาจักร ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ สหรัฐอเมริกาวันเดียวกว่า 2.6 หมื่นราย รองลงมาคือ บราซิล และรัสเซีย ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 69 ส่วนกลุ่มประเทศอาเซียน-เอเชีย พบอินเดียพบมากที่สุด รายใหม่เพิ่มขึ้น 3.7 พันราย สะสมกว่า 8 หมื่นราย รองลงมาปากีสถาน เพิ่มขึ้น 3 พันราย ขณะที่สิงคโปร์เพิ่มขึ้น 793 ราย บังกลาเทศเพิ่มขึ้น 1,202 ราย อินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 490 ราย ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 83 ราย ฟิลิปปินส์ 215 ราย เกาหลีใต้ 19 ราย
ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ กาตาร์บังคับสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้าน ฝ่าฝืนจำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับสูงสุด 200,000 รียัด หรือ 1.76 ล้านบาท / เกาหลีใต้ สายการบินโคเรียนแอร์ กำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัยระหว่างบินในประเทศ ส่วนเคสที่อิแทวอน ล่าสุดเพิ่มขึ้น 161 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อ 11,037 ราย และพบผู้ติดเชื้อจากอิเทวอน 5 รายไปเที่ยวในย่านฮงแด
เที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทย วันนี้มาจากเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา พรุ่งนี้มาจากมัลดีฟส์ แคนาดา อินเดีย ส่วนสัปดาห์หน้า 18 พ.ค. มาจากสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ 19 พ.ค. มาจากสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ 20 พ.ค. มาจากรัสเซีย อาร์เจนตินา อินเดีย 21 พ.ค. มาจากจีน ออสเตรเลีย เวียดนาม 22 พ.ค. มาจากสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ กาตาร์ และ 23 พ.ค. มาจากเยอรมนี อินโดนีเซีย และบังกลาเทศ ส่วนคนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบก พบมาจากมาเลเซีย 273 คน สปป.ลาว 15 คน เมียนมา 14 คน และกัมพูชา 6 คน ผู้เข้ากักกันสะสม 19,428 คน ผู้เข้ากักกันปัจจุบัน 9,527 คน ผู้กลับบ้านสะสม 9,901 คน ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลสะสม 97 คน
มาตรการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พบการชุมนุมมั่วสุมเพิ่มขึ้น 40 คน 3 อันดับแรก คือ เสพยาเสพติด ดื่มสุรา และอื่นๆ การตรวจร้านค้ากิจการ/กิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลาย 2.3 หมื่นราย ส่วนใหญ่ปฆิบัติตามได้ดี มีปฏิบัติตามไม่ครบ 0.70%
ช่วงตอบคำถาม เมื่อถามว่า แอปพลิเคชันไทยชนะมีการเปิดใช้งานหรือไม่ ประชาชนและผู้ประกอบการต้องทำอย่างไร ชี้แจงว่า ยืนยันว่าเป็นแพลตฟอร์ม ไม่ใช่แอปพลิเคชัน วางไว้ที่ www.ไทยชนะ.com มีการให้ลงทะเบียนและเอกสาร แบ่งเป็นส่วนของผู้ประกอบการ กิจการ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เปิดให้ลงทะเบียน 06.00 น. 17 พ.ย. นี้ เพื่อรับคิวอาร์โค้ด นำมาพิมพ์และติดที่หน้าร้าน ส่วนผู้รับบริการ เปิดกล้องมือถือ สแกนคิวอาร์โค้ดทั้งเข้าและออก ผู้ประกอบการไม่ต้องทำระบบเพิ่มเติมใดๆ และสามารถแสดงข้อมูลความหนาแน่นของผู้ใช้บริการเพื่อตัดสินใจได้ หากมีคำถามสอบถามเพิ่มเติม โทร. 1119 ข้อมูลจะส่งต่อไปยังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามผู้ป่วย และไม่เสียความเป็นส่วนตัว สำหรับคนที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ช่วงแรกอาจจะให้ลงทะเบียนด้วยมือควบคู่กัน แต่สำหรับผู้สูงอายุและเด็กไม่ควรออกจากบ้านเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง
ส่วนราชกิจจานุเบกษา ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ยกเลิกเขตติดต่ออันตราย คือ ประเทศจีน และเกาหลี ชี้แจงว่า ไม่ใช่เขตโรคติดต่ออันตราย แต่ใช้เป็นเขตติดโรคเท่านั้น ทั้งเกาหลีและจีนเป็นประเทศแรกๆ ที่เกิดการระบาด เหตุที่เอาออกเพราะผ่านมาหลายเดือนสถิติผู้ติดเชื้อต่ำกว่า และมีระบบควบคุมการระบาดได้ดี แต่มีการคงอยู่บางประเทศที่มีผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ ส่วนความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดนั้นไม่เกี่ยวกัน เพราะการกำกับติดตามไม่ให้คนเข้าประเทศอีกเรื่องหนึ่ง ปัจจุบันคนที่จะเข้าประเทศไทยต้องมีมาตรการใบรับรองแพทย์ ผ่านการตรวจ Fit to Fly ทำประกัน ใช้มาตรการนั้นจัดการแทน และต้องกักตัว 14 วัน นักท่องเที่ยวไหนจะมา สนามบินยังไม่เปิดให้ขึ้นลงได้เสรี มั่นใจว่าระบบยังควบคุมอย่างดี และยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ยกเว้นคนไทยจากต่างประเทศ นักการทูต หรือคนที่มีใบอนุญาตทำงาน จะมีระบบการดูแลย่อยไปอีก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเข้าสู่มาตรการผ่อนปรน การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล 5 ข้อ เช่น หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง ส่วนห้างร้านต้องทำความสะอาดพื้นผิวและดูแลไม่ให้แออัด ยังมีระยะที่ 3 และ 4 รออยู่ ทุกคนต้องช่วยกัน แยกกันเราอยู่ รวมหมู่เพื่อไปต่อ