โฆษก ศบค. เผยไทยไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม แจงเหตุปลด “จีน-เกาหลี” ออกจากเขตติดโรค แต่ไม่ได้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างเสรี
วันนี้ (16 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้เป็นวันที่เรามีข่าวดีอีกวันหนึ่ง ซึ่งเรามีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นศูนย์ ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือมาตลอด ซึ่งวันที่ 17 พ.ค.จะเป็นวันแรกที่เราจะเข้าสู่มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 สำหรับวันนี้ผู้เสียชีวิตใหม่เป็นศูนย์เช่นกัน ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเป็นตัวเลขเดิมที่ 56 คน ส่วนผู้ป่วยที่หายแล้วเพิ่มขึ้น 1 ราย รวม 2,855 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,025 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 11 4ราย ต้องขอบคุณคนไทยทุกคนที่ร่วมมือกันทำทั้งประเทศ ที่ต้องร่วมมือกันทั้ง 90-100 เปอร์เซ็นต์ นี่คือ พลังชัยชนะของคนไทยต่อโรคร้ายโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราว่ายังมีผู้ที่ติดเชื้ออยู่ แต่ว่าไม่แสดงอาการอยู่วนเวียนอยู่ใกล้ๆ ตัวเรา แต่ไม่รู้อยู่ตรงไหน ถ้ามีอาการให้มาตรวจเพื่อรักษา หรือมีกระบวนการของทางกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปตรวจเชิงรุก ขอให้ต่างคนต่างช่วยกัน เราจะเดินผ่านพ้นมันไปได้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับในการกระจายของทั้งประเทศ จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยใน 28 วันที่ผ่านมา มี 18 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วัน มี 50 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน 9 จังหวัดยังคงเดิม จึงขอย้ำเรายังต้องไม่ประมาท การ์ดอย่าตก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในส่วนสถานการณ์โลกพบผู้ป่วย 4,628,356 ราย เสียชีวิต 308,645 ราย ส่วนการนำคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศ วันที่ 16 พ.ค. มี 2 เที่ยวบิน จากสหรัฐอเมริกา เที่ยวแรก 204 ราย และอีกเที่ยวบิน 187 ราย ส่วนวันที่ 17 พ.ค. มี 3 เที่ยวบิน จากมัลดีฟส์ 150 ราย แคนาดา 80 ราย และ อินเดีย 80 ราย สำหรับสถิติคนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบก มีผู้ประสงเดินทางกลับเข้ามาจากเมียนมา 14 ราย มาเลเซีย 273 ราย สปป.ลาว 15 ราย และ กัมพูชา 6 ราย ขณะที่ยอดผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องเข้ากักกันในสถานที่ของรัฐและส่วนภูมิภาค สะสม 19,428 ราย ยังกักตัวอยู่ในปัจจุบัน 9,527 ราย กลับบ้านแล้ว 9,901 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงที่ตรวจเรื่องเคอร์ฟิว พบมี 40 รายกระทำผิดในการมั่วสุมชุมนุม อันดับ 1 ยาเสพติด 2. ดื่มสุรา และ 3. อื่นๆ ส่วนการตรวจร้านค้า กิจการ กิจกรรมวันที่ 15 พ.ค. 23,289 แห่ง ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามได้ดี มีปฏิบัติไม่ครบ 162 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 1 แห่ง
เมื่อถามถึงการยกเลิกจีนและเกาหลีใต้ออกจากเขตโรคติดต่ออันตราย อยากให้อธิบายเหตุผลของการถอดพื้นที่ดังกล่าวออก และการถอดพื้นที่ดังกล่าวออกมาจะส่งผลต่อการควบคุมโรคในประเทศหรือไม่ เพราะประชาชนกังวลว่าอาจจะกลายเป็นช่องโหว่ที่ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทั้งสองประเทศนี้เป็นประเทศแรกๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวในการที่เกิดการระบาด ผ่านมาหลายเดือนสถิติการเกิดโรคของเขาเป็นหลักหน่วยแล้ว และมีระบบควบคุมการระบาดได้อย่างดี เมื่อเทียบกับทั่วโลกที่ติดเชื้อสูงกว่านี้ แต่ไม่ปรากฏว่าถูกประกาศให้เป็นเขตติดโรคอย่างสองประเทศนี้ จึงดูว่าไม่ยุติธรรม จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องคงค้างไว้ เพราะว่าการระบาดของเขาก็ผ่านมาพอสมควร และระบบของเขาก็ดี นี่คือ เหตุผลที่ต้องเอาออก ส่วนที่เกรงว่าคนจีนเป็นนักท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดจะเข้ามาจำนวนมากๆ หรือเปล่านั้น ไม่เกี่ยวกัน การเอาออกจากการรายชื่อของเขตติดโรคก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การกำกับติดตาม ป้องกัน ไม่ให้คนเข้าประเทศเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“จำได้หรือไม่ที่เราพูดว่าคนจะเข้าประเทศไทยจะต้องมีใบรับรองแพทย์ ต้องมีการตรวจเรื่อง Fit To Fly จะต้องมีเรื่องของประกัน เราใช้มาตรการพวกนั้นเป็นตัวจัดการแทน แถมถ้ามาเมืองไทยจะต้องอยู่ในสถานที่ที่รัฐจัดให้อีก 14 วัน นักท่องเที่ยวที่ไหนอยากจะมา มาตรการเหล่านี้ยังไม่ยกเลิก มาตรการที่ตรึงไว้ สนามบินยังไม่ได้เปิดทุกที่ เครื่องบินยังไม่ได้ลงแบบเสรี ฉะนั้น มั่นใจได้เลยระบบของเรายังควบคุมได้อย่างดี แล้วไม่ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามา ยกเว้นนักการทูต คนไทยเราเองอย่างนี้ให้กลับมา หรือเป็นต่างชาติที่ต้องเข้ามาดูธุรกิจใหญ่ๆ ของเขาที่ต้องมีการคัดกรองก่อนเข้ามา คนกลุ่มนี้จะต้องมีระบบของการดูแล เราสามารถติดตามได้ในพื้นที่ มั่นใจเราออกแบบระบบมา 3-4 เดือน เข้าสู่เดือนที่ 5 ทำมาอย่างดี ก็สามารถทำให้มั่นใจหรือการันตีได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
เมื่อถามว่า อยากให้อธิบายการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอให้เรียกว่าแพลตฟอร์ม เพราะเป็นระบบใหญ่กว่าแอปพลิเคชัน โดยในวันที่ 17 พ.ค.มีการเปิดห้างสรรพสินค้า และการคลายล็อกในระยะที่ 2 ขอเน้นย้ำเรื่องที่จะให้ผู้ให้บริการ ห้างร้านไปดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” จากเว็บไซต์ http://www.xn--b3czh8ayeuf.com/ ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันที่ 17 พ.ค. หากมีเหตุขัดข้องโทร.ได้ที่ 1119 โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวผู้ให้บริการต้องปรินต์คิวอาร์โค้ดติดหน้าร้าน เพื่อให้ผู้รับบริการสแกนเพื่อเช็กอิน เช็กเอาต์ ตรวจสอบความแออัดของร้านค้า ร้านอาหาร รวมทั้งติดตามตัวผู้ใช้บริการหากมีความจำเป็น ดังนั้น วันที่ 17 พ.ค.เราจะได้เห็นปรากฏการณ์ใหม่ของเมืองไทยเรา จะไปสู่แพลตฟอร์มไทยชนะ เป็นการปกป้องระบบของคนในประเทศไทย ฝากทุกท่านให้ความร่วมมือด้วย ทั้งนี้ หากไม่มีโทรศัพท์มือถือผู้ประกอบการอาจจะต้องจดข้อมูลได้