โฆษก ศบค.แจงเหตุผลปลด “จีน-เกาหลีใต้” พ้นเขตติดโรคโควิด-19 เหตุประกาศตั้งแต่เป็นประเทศที่ติดโรคแรกๆ แต่ตอนนี้ระบาดทั่วโลก แต่ 2 ประเทศนี้คุมโรคได้ ก็ต้องปลดออกเพื่อความยุติธรรม ยันไม่ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เหตุมีมาตรการป้องกันคนเข้า ใครเข้ามาต้องอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 14 วัน
วันนี้ (16 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) พ.ศ. 2563 โดยการยกเลิกจีน และเกาหลีใต้ จากประเทศเขตติดโรคโควิด-19 ว่า และเกาหลีใต้เป็นประเทศแรกๆ ที่เกิดการระบาดโรคโควิด-19 และไทยมีการใช้กฎหมายตั้งแต่แรก ในการประกาศเขาเป็นเขตติดโรค แต่นี่ผ่านมาหลายเดือนแล้ว สถิติการเกิดโรคก็ต่ำลงหลักหน่วย มีระบบการควบคุมการระบาดอย่างดี เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่สูงกว่านี้ การไม่ประกาศเขตติดโรคก็ดูไม่ยุติธรรม จึงเป็นเหตุผลในการเอาออก
“ตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรคงค้างไว้ แต่ยังคงอยู่บางประเทศที่มีตัวเลขสูง เช่น อิตาลี อิหร่าน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้าน ที่การนำโรคเข้าเมืองไทย แต่ 2 ประเทศนี้คุมได้ดี พอเอาออกทำให้เสี่ยงหรือไม่ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาหรือไม่ ขอชี้แจงว่า การเอาออกจากรายชื่อเขตติดโรคเป็นเรื่องหนึ่ง การกำกับติดตามป้องกันไม่ให้คนเข้าประเทศเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนเข้าประเทศไทยต้องมีใบรับรองแพทย์ การตรวจฟิตทูฟลาย มีการประกัน มาเมืองไทยอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 14 วัน นักท่องเที่ยวที่ไหนจะมา มาตรการเหล่านี้ยังอยู่ แม้ปลดชื่อลงไป สนามบินก็ยังตรึงไว้ไม่ได้ให้เข้า ยกเว้นไม่กี่คน เช่น นักการทูต แต่ก็ต้องกักตัวในสถานทูต 14 วัน คนไทยที่กลับมาอยู่ในสถานกักกัน คนมีใบอนุญาตทำงาน มาดูแลธุรกิจเขา ก็ต้องกักตัวในพื้นที่ เรียกว่าด้านนอกเราซีลไว้แน่ๆ แต่ข้างในประเทศที่ต้องทำให้ดีด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว