โฆษก ศบค. ชี้ ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่เป็น 0 เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่มีตัวเลขจากศูนย์กักกัน 18 ราย ดีใจที่ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำ เบาใจได้แต่อย่าวางใจ ถึงไม่ติดเชื้อวันนี้ก็ติดเชื้อพรุ่งนี้ ยกอู่ฮั่น-เกาหลีใต้ ระบาดระลอกใหม่ แนะ 5 ข้อปฏิบัติสู่ชีวิตวิถีใหม่ ล้างมือ ใส่หน้ากาก เวันระยะ ทำความสะอาด และอย่าให้แออัด
วันนี้ (13 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวัน ระบุว่า ผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ 0 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,017 ราย หายป่วยสะสม 2,844 ราย (เพิ่มขึ้น 46 ราย) รักษาอยู่ 117 ราย เสียชีวิต 0 ราย สะสมรวม 56 ราย อายุน้อยสุด 1 เดือน อายุเฉลี่ย 39 ปี อายุมากที่สุด 97 ปี ภาพรวมกรุงเทพฯ และนนทบุรี ยังสูงสุด รองลงมาคือภาคใต้ ดีใจกับประชาชนที่ปฏิบัติตามหลายวัน
ย้อนกลับไปที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ป่วย 0 รายเคยเกิดขึ้นวันที่ 4 พ.ค. เป็นวันแรก แต่มีตัวเลขผู้ป่วย 18 รายมาจากศูนย์กักกัน อีกทั้งมีตัวเลขผู้ป่วยหลักเดียวมานานถึง 17 วัน ขอให้ภาคภูมิใจในความสามัคคี ทำให้ตัวเลขนี้เกิดขึ้นจริง แต่ขอให้ช่วยกันทำต่อ เพราะในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มาจากศูนย์กักกัน การค้นหาเชิงรุก และสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า เกิดขึ้นที่ กทม. และนราธิวาส 1 ราย ถึงไม่ติดเชื้อวันนี้แต่มีอาการพรุ่งนี้ เบาใจได้แต่อย่าวางใจ ถ้าไม่ได้ปฏิบัติการตามมาตรการหลัก 5 ข้อ หรือ 3 ข้อหลักคือ ล้างมือ เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย
จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยในช่วง 28 วันที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 50 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ป่วยเลยมี 9 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยมี 18 จังหวัด กรุงเทพมหานครยังมีผู้ป่วยมากที่สุด แต่ความชุกต่อประชากรยังอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันการคัดกรองได้เพิ่มเกณฑ์ไปยังอาการน้อยๆ เช่น อาการคัดจมูกหรือความรู้สึกในการดมกลิ่นลดลง สัมผัสกับกลุ่มเสี่ยงหรือพื้นที่ชุมชน ตั้งแต่ 1 พ.ค. มีการตรวจเพิ่มเป็น 34,444 ราย พบผู้ติดเชื้อ 63 ราย คิดเป็น 0.18%
กรมควบคุมโรควิเคราะห์ผู้ป่วยในสถานที่กักกันของรัฐ พบผู้ป่วย 90 ราย ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง อายุเฉลี่ย 41 ปี ต่ำสุด 15 ปี สูงสุด 77 ปี พบสัญชาติไทย 98% อเมริกา 1% อังกฤษ 1% จังหวัดที่รับรักษาได้แก่ สงขลา สตูล กทม. ปัตตานี ยะลา ประเทศต้นทางมาจากอินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย คาซัคสถาน ญ๊่ปุ่น ปากีสถาน สหราชอาณาจักร ส่วนศูนย์กักกันแรงงานต่างด้าว ตม.สะเดา จ.สงขลา พบสัญชาติเมียนมามากที่สุด รองลงมาคือต่างด้าวอื่น เวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา เยเมน และอินเดีย
สถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,342,345 ราย รักษาตัว 46,342 ราย รักษาหายแล้ว 1,601,847 ราย เสียชีวิต 292,893 ราย ผู้ป่วยสะสมสหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา สเปน รัสเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 66 ผู้ป่วยรายใหม่พบสหรัฐอเมริกามากที่สุด รองลงมาคือ รัสเซีย บราซิล อินเดีย และ สหราชอาณาจักร ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่พบสหรัฐอเมริกามากที่สุด รองลงมาคือ บราซิล สหราชอาณาจักร เม็กซิโก และ ฝรั่งเศส ผู้ป่วยสะสมในกลุ่มอาเซียนและเอเชีย พบอินเดียมากที่สุด รองลงมาปากีสถานและสิงคโปร์ บังกลาเทศ และญี่ปุ่น ไทยยังอยู่อันดับ 10 ดูจากกราฟ สหรัฐอเมริกาลดลง แต่รัสเซียเพิ่มขึ้น บราซิล และ อังกฤษ ยังทรงตัว อินเดียแนวโน้มยังสูงอยู่ ปากีสถานทรงตัวมีแนวโน้มลดลง บังกลาเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สิงคโปร์ยังทรงตัวอยู่
ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ ทางการจีนพบผู้ติดเชื้อ 6 ราย ในเมืองอู่ฮั่น และกรณีนำเข้าจากต่างประเทศ 7 ราย ตัดสินใจตรวจประชาชนในอู่ฮั่นทุกคน 11.08 ล้านคน ส่วนเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อ 102 คน จากสถานบันเทิงย่านอิแทวอน เร่งตามตัวกลุ่มเสี่ยงอีก 2,000 คน และได้เลื่อนเปิดเทอมจากวันที่ 20 พ.ค. ค่อยเริ่มกลับมาเรียนในเดือน มิ.ย. ส่วนประเทศเยอรมนี มีการผ่อนคลายทั่วประเทศ เปิดธุรกิจขนาดเล็กและโรงเรียน แต่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 933 ราย รัฐบาลท้องถิ่นกำลังพิจารณากลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครี้ง หากตัวเลขการระบาดสูงขึ้น เหตุการณ์แบบนี้ไทยจะเทียบเคียงกับประเทศไหนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประชาชนต้องช่วยกัน
เที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทย วันนี้จากยูเครน ฟิลิปปินส์ อินเดีย พรุ่งนี้จากเยอรมนีและอิตาลี มีการจัดเตรียมหลายเที่ยวบิน ให้คนไทยที่จะกลับบ้านประสานสถานทูตเพื่ออำนวยความสะดวกกลับเข้ามา ส่วนการเดินทางเข้าจุดผ่านแดนทางบกพบมาเลเซีย 328 ราย เมียนมา 4 ราย สปป.ลาว 6 ราย กัมพูชา 6 ราย เข้าใจว่าทางมาเลเซียมาตรการเบาขึ้น ทำให้คนไทยกลับไปทำงานที่มาเลเซีย ส่วนมาตรการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พบการชุมนุมมั่วสุมลดลง มากที่สุด ดื่มสุรา เล่นการพนัน และยาเสพติด แต่ออกนอกเคหะสถานยังเยอะอยู่ ส่วนการตรวจกิจการ/กิจกรรม ปฏิบัติไม่ครบตามคำแนะนำเป็น 0 ยืนยันว่าบางร้านไปตรวจซ้ำ ขอบคุณที่เรียนรู้ นำไปสู่ชีวิตวิถีใหม่
ช่วงตอบคำถาม เมื่อถามว่า ตัวเลขคนไทยเป็น 0 สรุปว่าคนไทยปลอดภัยใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือไม่ ชี้แจงว่า ยังไม่ได้ เพราะถ้าดูแลกันไม่ดีจะเป็นแบบเกาหลี จาก 1 คน ติดเชื้อไปแล้ว 100 คน ขณะนี้ยังมีการผู้สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน กรมควบคุมโรคและท้องถิ่นรวมทั้งครอบครัวช่วยกันดูแล เพราะการแสดงอาการไม่ได้เพียงแค่ 14 วัน จึงเบาใจได้แต่วางใจไม่ได้
การติดตั้งตู้ปันสุขจะกลายเป็นการเสี่ยงต่อการติดโรคหรือไม่ เพราะมีการหยิบสิ่งของ ชี้แจงว่า เป็นเหตุการณ์ชุลมุนในช่วงที่มีคนนำสิ่งของมาวาง ย้ำว่า ต้องอยู่ในชีวิตวิถีใหม่มาโดยตลอด เช่น ล้างมือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ก่อนหยิบสิ่งของ ส่วนคนที่ดูแลให้ทำความสะอาด ใช้น้ำยาหรือแอลกอฮอล์เช็ด และอย่าให้แออัด ถ้ามีคนมุงกันก็ไปที่อื่น ขอให้ดูแลสุขภาพด้วย เพราะวัยหนุ่มสาวถือเป็นแหล่งรังโรค
นพ.ทวีศิลป์ ยังทิ้งท้ายว่า ชื่นชมตัวเลข 0 ร่วมกันแล้ว ขอให้ทำตัวเองในชีวิตวิถีใหม่ เพื่อให้เห็นตัวเลขที่น่าพอใจต่อไปเรื่อยๆ และจะเป็นประเทศแรกที่ผ่านความทุกข์โรคนี้ก่อนคนอื่น