ศบค.เผย ลุยตรวจเชื้อโควิดเชิงรุกเพิ่มขึ้น ใน 4 กลุ่ม บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ต้องขังแรกรับ อาชีพพบปะผู้คนจำนวนมาก และกลุ่มอื่นๆ ทั้ง จนท.ตม. ชุมชนแออัด ศูนย์พักพิง จนท.เรือนจำ บุคคลในร้านอาหาร และในโรงเรียน ขอให้ความร่วมมือรับการตรวจฟรี ย้ ำกลุ่มประวัติเสี่ยงไปที่ชุมชน มีอาการเล็กน้อยไปตรวจได้เลย
วันนี้ (28 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศเกาหลีใต้ พุ่งสูงสุดใน 2 เดือน พบผู้ป่วยรายใหม่ 79 ราย ส่วนการติดเชื้อจากศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทอี-คอมเมิร์ซคูปัง ทางตะวันตกของกรุงโซล มีแล้ว 69 ราย ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดโรงเรียนเกือบ 600 แห่ง ทั่วประเทศออกไปอีก โดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด เพราะศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ ไม่ได้ทำตามมาตรการป้องกันโรค คือ การไม่ใส่หน้ากาก การไม่ลาหยุดเมื่อป่วย และการไม่เว้นระยะห่างขณะกินอาหารในโรงอาหารของศูนย์
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การนำคนไทยกลับมาจากต่างประเทศ วันที่ 28 พ.ค. มาจากออสเตรเลีย 260 คน สหรัฐอเมริกา 100 คน และ เวียดนาม 40 คน วันที่ 29 พ.ค. กลับมาอีก 5 เที่ยวบิน จาก 6 ประเทศ คือ ตุรกี/จอร์เจีย 217 คน ฝรั่งเศส 27 คน สิงคโปร์ 35 คน เมียนมา 65 คน และ เกาหลีใต้ 55 คน วันที่ 30 พ.ค. มา 3 เที่ยวบิน คือ เกาหลีใต้ และ สหรัฐอเมริกา (ผ่านเกาหลีใต้) ญี่ปุ่น และ ฟิลิปปินส์ วันที่ 31 พ.ค. 2 เที่ยวบิน จากสหราชอาณาจักร และ อินโดนีเซีย วันที่ 1 มิ.ย. 3 เที่ยวบิน จาก มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และ รัสเซีย วันที่ 2 มิ.ย. 2 เที่ยวบิน จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ญี่ปุ่น วันที่ 3 มิ.ย. 3 เที่ยวบิน จากเนเธอร์แลนด์ มาดากัสการ์ และ อินเดีย วันที่ 4 มิ.ย. 2 เที่ยวบิน จากสหรัฐอเมริกา และ อินเดีย
ถามต่อว่า ผู้ป่วยระยะหลังมาจากต่างประเทศ สบายใจได้หรือยังว่าประเทศไทยไม่มีคนติดเชื้อ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เราภูมิใจกับตัวเลข 0 แต่คนกลับมาจากต่างประเทศ มาตรวจถึงเจอ แต่ไม่มีอาการ มาตรการนี้ก็มีการพูดคุยกันว่า จะทำให้มั่นใจต้องเข้าไปตรวจเพิ่มเติมขึ้น แม้เราจะตรวจไป 3 แสนกว่าแล้ว ก็ยังไม่พอใจ เราต้องเฝ้าระวังโรคและค้นหาการติดเชื้อในประชาชนกลุ่มเสี่ยงและสถานที่เส่ยง แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. บุคลากรทางการแพทย์ 2. ผู้ต้องขังแรกรับ 3. กลุ่มอาชีพพบปะผู้คนจำนวนมาก 4. กลุ่มอื่นๆ ตามคณะกรรมการควบคุมโรคิตดต่อจังหวัดพิจารณา ตั้งเป้าไว้เกือบแสนคนทั่วประเทศ โดยกลุ่มอื่นๆ ได้แก่ 1. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) 2. บุคคลในกลุ่มชุมชนแออัด 3. บุคคลในศูนย์พักพิง 4. เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ 5. บุคคลในร้านอาหาร 6. บุคคลในโรงเรียน
“ขอให้มั่นใจ สาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจ แม้ตัวเลขเป็น 0 เราจะทำให้มั่นใจได้อย่างไรว่าเป็น 0 จริงๆ ขอให้กลุ่มต่างๆ ให้ความร่วมมือรับการตรวจ ตรวจฟรีทุกอย่าง ไม่มีอันตรายใดๆ ผลเป็นอย่างไรก็จะแจ้งท่าน เป็นมาตรการป้องกันโรคและให้มั่นใจว่าตัวเลข 0 เป็น 0 จริงๆ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ถามถึงกรณีจมูกไม่รับกลิ่น ลิ้นไม่รับรส ลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่ จะแยกอย่างไร ควรไปตรวจหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ไปตรวจได้เลย มาตรการผ่อนคลายของเกณฑ์ผู้ป่วยสอบสวนโรคก็ผ่อนลงมา ไข้ก็แค่มีประวัติว่าเคยมีไข้ก็ได้ จมูกไม่ได้กลิ่นอย่างเดียวก็ได้ เคยไปสถานที่ชุมชน ก็ไปตรวจได้เลย เรายินดีเต็มที่ที่ดูแลให้
ประชาชนกักตัวในสถานกักตัว คนแจ้งความประสงค์กลับมามากน้อยแค่ไหน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรารับรองได้ประมาณ 400 คนต่อวัน คนไทยแจ้งความประสงค์กลับมาทางอากาศวันที่ 27 พ.ค.- 30 มิ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศสอบถามทั่วโลก พบว่า มีประมาณ 10,878 คน ภายใน 1 เดือนนี้ ทุกอย่างพร้อมดูแล แต่อยู่ที่เกณฑ์ความเร่งด่วน คือ ด่วนที่สุด เช่น ผู้ป่วย ตกค้างสนามบิน วีซ่าหมดอายุ กลุ่มด่วนมาก เช่น พระสงฆ์ นักเรียน นักศึกษา คนตกงาน