โฆษก ศบค.แถลงย้ำผ่อนคลายแต่ก็ต้องไม่ผิดกฎหมาย ไม่แพร่เชื้อ ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว-ผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามลดลง ชี้ทำไม่ดีก็ปิด ระบุข้อเสนอ “เสี่ยหนู” ถอนจีน-เกาหลีใต้เขตโรคติดต่ออันตราย ยังไม่อนุมัติ ยันเข้มเข้าประเทศเหมือนเดิม
วันนี้ (8 พ.ค.) เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่าสถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 8 ราย ในจำนวนนี้เป็นการค้นหาเชิงรุกใน จ.ยะลา 3 ราย เป็นชายไทยทั้งหมด มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยที่เคยสัมผัสกับผู้เดินทางกลับมาจากมาเลเซีย ถือเป็นรุ่นที่ 3 ส่วนอีก 5 ราย เป็นแรงงานต่างด้าว เพศหญิงทั้งหมด อายุ 19-30 ปี ที่อยู่ในศูนย์กักกันผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,000 ราย หายป่วยสะสม 2,784 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 161 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม และในรอบ 28 วันที่ผ่านมามี 43 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่เลย ขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก มี 3,916,338 ราย เสียชีวิต 270,711 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในวันที่ 8 พ.ค.จะมีคนไทยกลับจากอียิปต์ 199 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 100 ราย ส่วนในวันที่ 9 พ.ค.จากเวียดนาม 35 ราย ญี่ปุ่น 212 ราย เนเธอร์แลนด์ 50 ราย มียอดสะสมผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ ตั้งแต่ 3 เม.ย. - 7 พ.ค. 14,372 ราย กลับบ้านแล้ว 5,080 ราย ส่วนผลการปฏิบัติการงานด้านความมั่นคงในช่วงเคอร์ฟิวคืนวันที่ 7 พ.ค.ต่อเนื่องเช้าวันที่ 8 พ.ค. มีผู้กระทำผิดชุมนุม มั่วสุม 126 ราย เพิ่มจากคืนก่อน 28 ราย โดยดื่มสุรายังเป็นอันดับหนึ่ง ออกนอกเคหสถาน 610 ราย ลดลงจากคืนก่อน 73 ราย ขอเน้นย้ำว่า แม้จะมีการผ่อนคลายแต่ก็ต้องมีการจำกัดพฤติกรรมในบางส่วน ต้องไม่ผิดกฎหมาย ไม่แพร่กระจายเชื้อ ขณะที่ผลการตรวจกิจการ กิจกรรมที่ได้รับการผ่อนปรนประจำวันที่ 7 พ.ค. ตรวจ 15,414 แห่ง ปฏิบัติตาม 14,993 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 421 แห่ง คิดเป็น 2.73 เปอร์เซ็นต์ถือว่าลดลงกว่าวันที่ผ่านมา ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือมากขึ้น ย้ำว่าเราไม่ต้องการลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืน แต่ต้องการทำให้เกิดความปลอดภัย ถ้าทำดีแล้วก็ให้ทำต่อ ถ้าทำไม่ดีก็ปิด เพื่อให้ปรับปรุงให้ดีแล้วมาเปิดใหม่
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการถอนจีนและเกาหลีใต้ออกจากประกาศเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การเสนอถอนออกจากลิสต์ยังไม่ได้เสร็จสิ้นตอนนี้ เป็นข้อเสนอของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุขต่อที่ประชุม ศบค. ตอนนี้ยังไม่ได้อนุมัติเพราะต้องมีขั้นตอน และต้องนำเข้าคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพื่อพิจารณานำชื่อออก ส่วนที่คนไทยกังวลว่าจะเปิดให้คนจีนเข้าประเทศไทยได้อีกครั้งนั้นยังไม่ต้องกังวล เนื่องจากมาตรการต่างๆ เรายังเหมือนเดิม ทั้งการจำกัดเที่ยวบิน ต้องมีใบรับรองแพทย์ ถ้าเข้าตอนนี้ต้องอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 14 วัน หากเป็นนักท่องเที่ยวเจอมาตรการนี้ก็ไม่อยากเข้ามา เพราะวันนี้ไม่ใช่สถานะการเดินทางโดยเสรี ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจได้
เมื่อถามต่อว่า คนจีนมีความกังวลว่าหากเปิดประเทศแล้วการเดินทางเข้ามาไทยจะมีความปลอดภัยจริงหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เราพยายามกลับไปเป็นเหมือนเดิม ที่ผ่านมาเราดูแลคนไทยอย่างไรก็ดูแลคนต่างชาติอย่างนั้น จึงมั่นใจได้ ส่วนที่มีความไม่มั่นใจระบบการตรวจหาผู้ป่วยรายใหม่ ทั้งกรณี 40 คนที่ จ.ยะลา และกรณีทหารเรือที่ต้องตรวจซ้ำนั้น เป็นเรื่องของการทดสอบตามมาตรฐานโดยปกติ เพราะถ้าไม่มั่นใจจะให้ตรวจซ้ำ กรณีที่ จ.ยะลาเกิดขึ้นจากการพัฒนาศูนย์แล็บ ส่วนกรณีทหารเรือ ทราบข้อมูลว่าตรวจครั้งแรกเป็นบวก และตรวจอีกครั้งเป็นลบ เป็นการตรวจซ้ำเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้สูงมาก จะไม่ปล่อยกรณีที่มีข้อสงสัยออกไปแน่นอน