MGR Online - “พล.ต.อ.วิระชัย” ควงเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม กรมศุลกากร ลงพื้นที่ตรวจคอนเทนเนอร์ย่านลาดกระบัง หลังใช้ใบสำแดงนำเข้าเท็จ พบขนขยะพลาสติกจาก 35 ประเทศทั่วโลก หนักกว่า 58 ตัน เข้ามากองในประเทศไทย
วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยนายธาดา ชุมไชโย ผอ.สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง นายชยกร คชเสนีย์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ กรมโรงงาน และเจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากร เดินทางไปยังนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เพื่อตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ที่ลักลอบนำเข้าขยะพลาสติกมาแปรรูป โดยวิธีการสำแดงเท็จว่าเป็นเศษพลาสติก สืบเนื่องมาจากการตรวจค้นตู้สินค้าร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมศุลกากร ที่ท่าเรือแหลมฉบังเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบพบเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต จำนวน 4 ตู้ ของบริษัท ลองลัค พลาสติก แอนด์ เมทัล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 77/7 ม.2 ต.กาหลง อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ได้นำเข้าเศษพลาสติกดังกล่าวจากสหรัฐอเมริกา เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบเป็นขยะถุงพลาสติกอัดเป็นแท่งขนาดใหญ่ ทั้งหมดมีน้ำหนัก 58 ตัน
พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลของกรมโรงงานพบว่ามีการนำเข้าพลาสติกในลักษณะนี้มาจากหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรีย เยอรมนี เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย จีน ไนจีเรีย อิหร่าน สเปน เวียดนาม ตุรกี ฝรั่งเศส ปากีสถาน ดูใบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่นๆ รวม 35 ประเทศ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบว่าพลาสติกจากประเทศดังกล่าวจัดอยู่ในประเภทใด สำหรับประกาศการนำสินค้าประเภทพลาสติกจะต้องได้รับอนุญาตจาก รมต.กระทรวงพานิชย์ หรือทาง รมต.กระทรวงพานิชย์ มอบหมายมาเอง แต่ในกรณีนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้ออกใบอนุญาต คุณสมบัติพลาสติกดังกล่าวจะต้องแยกประเภท โดยไม่ผ่านการทำความสะอาดอีกและไม่ปะปนกัน แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นตนมั่นใจว่ากองพลาสติกนี้เป็นขยะพลาสติก มีความสกปรก มีกลิ่นเหม็นเน่า ซึ่งการล้างทำความสะอาดขยะขนาด 54 ตัน จะต้องใช้น้ำจำนวนมาก น้ำที่ล้างจะสร้างความเสียหายทางมลพิษให้แก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก
พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวอีกว่า จากการตรวจของกรมโรงงานเป็นขยะพลาสติกไม่สะอาด ผิดตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ปี 2522 ว่าด้วยการนำเข้าพลาสติกไม่สะอาด มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 5 เท่าของสินค้า และ พ.ร.บ.ศุลกากร สำแดงเท็จว่าเป็นวัตถุดิบ มีโทษปรับ 500,000 บาท และจะตรวจสอบภาษีนำเข้าด้วย ทั้งนี้เป็นมาตราการหยุดยั้งการนำขยะพิษทั่วโลกมาทิ้งประเทศไทย ไม่ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางขยะโลก
ด้านนายชยกรกล่าวว่า จากการตรวจสอบในฐานข้อมูลยังไม่พบปรากฏชื่อว่าขอจัดตั้งโรงงานเนื่องจากข้อมูลยังไม่อัปเดต แต่จากการตรวจสอบเอกสารที่ปรากฏในจังหวัดสมุทรสาครได้แจ้งประกอบกิจการแล้ว โดยหลังจากนี้ทางกรมโรงจะต้องไปตรวจสอบเครื่องจักรที่โรงงานว่าสามารถนำพลาสติกที่ไม่สะอาดระดับนี้เข้าเครื่องจักรแปรรูปได้เลยหรือไม่ เพราะเงื่อนไขการนำเข้าพลาสติกจะต้องสะอาดโดยไม่ต้องผ่านการล้าง แต่จากการตรวจเบื้องต้นพบว่าพลาสติกที่อัดกันมามีหลายชนิดปะปนกันซึ่งก็ผิดเพราะจริงแล้วจะต้องเป็นพลาสติกเนื้อเดียวกัน หรือชนิดเดียวกัน
ด้านนายธาดากล่าวว่า ในส่วนศุลกากรมีหน้าที่ตรวจสอบว่าสินค้าที่นำเข้ามาจะต้องมีใบอนุญาต และจะต้องตรวจสอบสิ่งที่นำเข้ามาตรงกันกับใบอนุญาตหรือไม่ ในกรณีนี้โรงงานสำแดงรายละเอียดสินค้าว่านำเข้าเศษพลาสติกหลายชนิด จากการตรวจสอบของกรมโรงงานพบว่าเป็นขยะพลาสติก เบื้องต้นทางกรมศุลกากรจะเข้าแจ้งความเอาผิดบริษัทในข้อหาสำแดงเท็จต่อไป