สธ.- ม.จีน คาดทดลองวัคซีนครึ่งปีหลัง

สธ. เอ็มโอยู มหาวิทยาลัยจีน คาดทดลองวัคซีนในคนครึ่งปีหลัง แย้มเจรจาอีกหลายประเทศ ส่วนการพัฒนาของไทย รอผลทดลองในสัตว์ แจงต่อยอดโรงงานเดิมผลิตวัคซีน เติมเทคโนโลยีทันสมัย สู้โควิด-19 ยันโรคติดต่ออุบัติใหม่

วันนี้ (1 พ.ค.) นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ว่า ขณะนี้ได้ทำร่างรายละเอียดเสนอ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทราบแล้ว เหลือลงรายละเอียดให้ชัดเจนภายใน 3 เดือน โดยรายละเอียดหลักๆ มี 3 ข้อ คือ 1. ทำอย่างไรให้ประเทศไทยได้รับวัคซีนเร็วใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ 2. ร่วมมือวิจัย รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อผลิตในประเทศ 3. การวิจัยพัฒนาวัคซีนภายในประเทศเอง ก่อนขออนุมัติงบประมาณที่ชัดเจนสำหรับการมีวัคซีนใช้ ภายใต้กรอบงบประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ที่ได้รับมาก่อนหน้านี้เพื่อสู้กับโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และการรับมือกับโรคโควิด-19 และโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นในข้างหน้าด้วย

สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนในประเทศไทยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการทดลองในสัตว์ทดลอง ของคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ไบโอเนท-เอเชีย คาดว่า กลางเดือน พ.ค. น่าจะเห็นความคืบหน้าตรงนี้ รวมถึงรายอื่นที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ที่ให้ทุนนักวิจัยในไทยรายอื่นๆ ในการศึกษาวิจัยด้วย เพื่อให้เรามีทางเลือกหลากหลาย ส่วนความร่วมมือกับต่างประเทศนั้น มีการทำสัญญากับมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของจีนแล้ว มีเงื่อนไข 3 ข้อหลักเรื่องการร่วมวิจัย การได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี การได้รับวัคซีนให้เร็ว อย่างการร่วมทดลองวัคซีนในคนในไทยน่าจะภายในครึ่งปีหลัง ส่วนจะเอาวัคซีนตัวไหนมาทดลองนั้นยังไม่ได้ทำสัญญากัน แต่มหาวิทยาลัยดังกล่าวได้พัฒนาอยู่หลายแบบอาทิ RNA, DNA, หรือเชื้อตาย เป็นต้น ส่วนเจ้าอื่นๆ ทั้งในประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา รวมถึงเยอรมนี อยู่ระหว่างการเจรจา ความร่วมมือกันในการพัฒนาวัคซีน

นพ.นคร กล่าวว่า ส่วนเรื่องการตั้งโรงงานวัคซีนนั้น รมว.สาธารณสุข มีนโยบายชัดเจนในการตั้งโรงงานผลิตวัคซีนให้เป็นรูปธรรมโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ใหม่ เพื่อรองรับการเกิดโรคอุบัติใหม่อื่นๆ ด้วย หลักๆ ไม่ใช่ว่าเป็นการสร้างโรงงานใหม่เลย แต่เรามีพื้นฐานโรงงานอยู่หลายแห่ง ดังนั้น จะมีการพัฒนาเพิ่มเติมในส่วนของการผลิตที่รองรับการผลิตวัคซีนป้องกันโรคที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ รูปแบบต่างๆ ได้ นับเป็นการพัฒนาต่อยอดการผลิตจากโรงงานที่มีอยู่ ซึ่งยังไม่ได้สรุปว่าจะเป็นโรงงานใด ของผู้ผลิตใด อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด ตอนนี้มีคนเข้ามาช่วยกันเยอะ เพื่อแข่งกับเวลา แต่ต้องทำอย่างรอบคอบ เป็นทีมประเทศไทยที่ต้องก้าวข้ามอุปสรรคนี้ให้ได้ วันนี้เราอยู่บนพื้นฐานที่ต้องขวนขวาย และพัฒนาให้ต่อสู้กับมันให้ได้ ถ้าคิดแค่ว่าสู้ไม่ได้หรอก รอบนี้ก็สู้ไม่ได้ ปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่วันข้างหน้าเราก็จะสู้ไม่ได้