“อนุทิน” ขีดเส้นแผนพัฒนาวัคซีนโควิดต้องชัดเจนใน 3 เดือน เผยไทยคุมโรคได้ดี รักษาได้ แต่ยังขาดแค่วัคซีน กำชับระดมสมองพัฒนาให้ได้ หวังไทยต้องเป็นพระเอกเรื่องนี้ด้วย ด้านบอร์ดวัคซีนเห็นชอบเอ็มโอยูร่วมต่างประเทศพัฒนาวัคซีน ย้ำดูสัญญาให้ดี อย่าให้เสียเปรียบเข้าถึงวัคซีนหลังชาวบ้าน
วันนี้ (22 เม.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ว่าในที่ประชุม ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้เสนอพิมพ์เขียวแผนการทำวัคซีนเพื่อต่อสู้ป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติก็มีมติเอกฉันท์สนับสนุนให้ทำแผนการทดลองและการเซ็นเอ็มโอยูกับประเทศที่ผลิตวัคซีนเพื่อพัฒนาวัคซีนนี้ขึ้นด้วยกัน ซึ่งสถาบันวัคซีนฯ ได้มีการไปติดต่อกับสถาบันวิทยาศาสตร์ต่างๆ ทั้งต่างประเทศและในไทย ทั้งนี้ ตนได้กำชับไปหลายรอบ คือ เรื่องของสัญญาต่างๆ ต้องดูให้ดีและละเอียด อย่าให้มีข้อใดที่เป็นการถูกเอาเปรียบทำให้ไทยเข้าถึงวัคซีนได้ช้ากว่าคนอื่น คู่สัญญาก็ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เขาเข้าถึงก่อน เรารอทีหลัง เป็นน้ำใต้ศอกหรือไก่รองบ่อน
นายอนุทินกล่าวว่า การดำเนินงานนั้นจะมีงบประมาณที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติ ในส่วนของสาธารณสุขมีทั้งหมด 4.5 หมื่นล้านบาท ก็จะมีในหมวดที่ต้องนำงบประมาณส่วนหนึ่งมาพัฒนาวิจัยและจัดหาวัคซีนด้วยเพื่อรับกับสถานการณ์โควิดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งคณะกรรมการวัคซีนฯ ก็มีความพึงพอใจที่รัฐบาลสนับสนุน เพราะถ้าไม่ได้มีสถานการณ์ระบาดมักไม่ได้รับการเหลียวแล อย่างไรก็ตาม โควิดจะเลิกรังควานผู้คนได้ก็ต่อเมื่อมีวัคซีน ซึ่งวันนี้เราควบคุมโรคได้มีการติดตามเฝ้าระวัง กักตัว ใช้ทุกมาตรการอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาให้หายได้ มียามาบรรเทาอาการ แต่หมายความว่าต้องป่วยก่อน เราเหลืออย่างเดียว คือ วัคซีน ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม (อว.) สถาบันวิจัยต่างๆ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค เป็นต้น จะต้องมาสุมหัวกัน ใช้ทุกเครือข่ายและองค์ความรู้ที่มีพัฒนาขึ้นมาให้ได้ ต้องขอเป็นพระเอกให้ได้เรื่องของการพัฒนาวัคซีน
“มีการระบุว่ากว่าจะมีวัคซีน คือ 18 เดือน ซึ่ง ผอ.สถาบันวัคซีนเสนอกรอบการพัฒนา 6 เดือน แต่คณะกรรมการและผมขอให้เร็วกว่านั้น ผมก็พูดไปว่าต้องไม่เกิน 3 เดือน แต่ไม่ใช่ 3 เดือนต้องมีวัคซีน แต่ 3 เดือนคือมีทิศทางที่ชัดเจน ว่าทำอะไรจะได้ผลอะไร” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่าหากทั่วโลกมีวัคซีนแล้ว แต่เรายังผลิตไม่ได้ จะสูญเปล่าหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มี ความสำคัญของรัฐบาลไทย และสธ.คือความปลอดภัยของประชาชน เราไม่เอาเรื่องของศักดิ์ศรีมาต่อรองกับชีวิตประชาชน สมมติพรุ่งนี้มีวัคซีน เราต้องเข้าถึงก่อนคนอื่นให้ได้ นั่นคือเป้าหมาย ซึ่งงบประมาณเรามีแล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องบอกว่าเท่าไหร่ คือจนกว่าประชาชนจะปลอดภัย เรามีตัวเลขแล้วว่าต้องให้วัคซีนกี่คนถึงหยุดการแพร่ระบาดได้