xs
xsm
sm
md
lg

โค้งสุดท้าย 6 วันปีใหม่ เกิดอุบัติเหตุตาย 317 ราย เจ็บ 3,160 คน ดูแลคนเดินทางกลับ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โค้งสุดท้าย 6 วันปีใหม่ เกิดอุบัติเหตุรวม 3,076 ครั้ง ดับ 317 ราย บาดเจ็บ 3,160 คน เร่งดูแลความปลอดภัยคนเดินทางกลับ คุมเข้มขับรถเร็ว ง่วงหลับใน กำชับจังหวัดวิเคราะห์ข้อมูลสาเหตุอุบัติเหตุในพื้นที่

วันนี้ (2 ม.ค.) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) แถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ว่า วันที่ 1 ม.ค. 2563 ซึ่งเป็นวันที่หกของช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ และการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 547 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 55 ราย ผู้บาดเจ็บ 577 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 39.31 ขับรถเร็ว ร้อยละ 28.34 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.35 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 65.81 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.75 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 35.83 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 00.01 - 04.00 น. ร้อยละ 30.71


นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า จากการจัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,036 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,989 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 1,014,405 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 246,328 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 61,416 ราย ไม่มีใบขับขี่ 55,467 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สงขลา 32 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ราชบุรี และอุดรธานี จังหวัดละ 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สงขลา 35 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2562 - 1 ม.ค.2563 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,076 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 317 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 3,160 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือตายเป็นศูนย์ มี 7 จังหวัด ได้แก่ ตราด พะเยา ภูเก็ต แม่ฮ่องสอน ยะลา ลำพูน และสตูล จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สงขลา 95 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 14 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สงขลา 100 คน

"ประชาชนบางส่วนยังคงอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) จึงได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง เปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ และปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ ตั้งกรวยริมไหล่ทาง ปิดจุดกลับรถ เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนที่ยังคงตกค้างบริเวณสถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ท่าเทียบเรือ และสถานีรถไฟทุกแห่งให้เดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย" นายทรงศักดิ์ กล่าว

นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัด มท. กล่าวว่า ขอให้จังหวัดวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยให้ความสำคัญกับประเด็นที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะอำเภอที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง พื้นที่สีแดงและสีส้ม เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน สำหรับในวันนี้คาดว่ามีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับ จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนต่อเนื่อง จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณเส้นทางที่มีการจราจรแออัด โดยให้เข้มข้นเส้นทางสายรอง ทางเลี่ยง ทางลัด ซึ่งเป็นถนนทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง ผู้ขับขี่มักใช้ความเร็วสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ขอให้กวดขันการจอดรถริมทาง และร้านค้าที่วางสิ่งของล้ำช่องทาง เพื่ออำนวยการจราจรให้คล่องตัวและป้องกันอุบัติเหตุจากการแซงริมไหล่ทาง

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการ ศปถ. กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว จึงขอฝากเตือนประชาชนให้เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนขับรถ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มไม่ขับ เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่ตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้ทุกคนเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย


กำลังโหลดความคิดเห็น