วานนี้ (29 ธ.ค.) นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ว่า วันที่ 28 ธ.ค.62 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของช่วง 7 วันอันตราย และการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 510 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 66 ราย ผู้บาดเจ็บ 527 คน ดื่มแล้วขับยังเป็นสาเหตุสูงสุดร้อยละ 35.49 ตามด้วยขับรถเร็ว ร้อยละ 30.00 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 74.57 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 65.10 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,023 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,388 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 877,714 คัน ดำเนินคดี รวม 194,549 ราย ผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 53,072 ราย ไม่มีใบขับขี่ 48,249 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 21 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 5 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 26 คน
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วัน คือ วันที่ 27 - 28 ธ.ค.62 เกิดอุบัติเหตุรวม 974 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 109 ราย ผู้บาดเจ็บ 993 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ตายเป็นศูนย์ มี 28 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 33 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.เชียงราย นครสวรรค์ จังหวัดละ 6 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 37 คน
"วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้เน้นย้ำจังหวัด ให้ดูแลความปลอดภัยในการเดินทางทั้งถนนสายหลัก สายรอง อบต.และหมู่บ้าน เน้นเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุทั้งหมด การจอดรถบนไหล่ทางที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจผู้ขับขี่ในเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อป้องกันการขับรถเร็ว และง่วงหลับใน กำชับจุดตรวจ ด่านตรวจ บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เน้นรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย ดื่มแล้วขับและขับรถเร็ว ดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ทั้งท่าเทียบเรือ โป๊ะเรือ และสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ " นายอานนท์ กล่าว
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ได้เน้นย้ำให้จังหวัดปรับกลยุทธ์การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอที่มีความระดับความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุสีแดงและสีส้ม ให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจิตอาสา เข้มงวดการป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทุกด้าน ท้ายนี้ ขอฝากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้เทศกาลปีใหม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย
นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า นโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 กรมคุมประพฤติ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการคุมเข้ม สำหรับผู้กระทำผิดเมาแล้วขับ ซึ่งสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มเติมเพียง 8 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 5 คดี และคดีขับเสพ 3 คดี จึงทำให้มียอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติระหว่าง วันที่ 27-28 ธ.ค. 62 มีจำนวนทั้งสิ้น 707 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 572 คดี คิดเป็นร้อยละ 80.91 , คดีขับเสพ 124 คดี คิดเป็นร้อยละ 17.54 , คดีขับซิ่ง แข่งรถ 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.14 , คดีขับรถประมาท 10 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.41 เบื้องต้น กรมคุมประพฤติ ได้มีการตรวจสอบประวัติการกระทำผิดในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราแล้ว 307 คดี พบมีผู้กระทำผิดซ้ำ 11 คดี ซึ่งกรมคุมประพฤติ ได้กำหนดมาตรการแก้ไขฟื้นฟูเฉพาะในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อเนื่อง 3 วัน ร่วมกับการทำงานบริการสังคม เช่น การดูแลเหยื่ออุบัติเหตุและผู้ป่วย การเยี่ยมชมห้องดับจิต การช่วยเหลืองานในโรงพยาบาล เป็นต้น และการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของการดื่มสุรา และการลด ละ เลิกการดื่มสุรา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความตระหนักถึงผลกระทบของการขับรถในขณะเมาสุรา
นายวิตถวัลย์ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่มีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมากนี้ กรมคุมประพฤติ โดยสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ นำผู้ถูกคุมความประพฤติเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น จำนวน 109 จุด อย่างเช่น สำนักงานคุมประพฤติ จ.สุโขทัย สาขาสวรรคโลก ร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ จ.สุโขทัย นำผู้ถูกคุมความประพฤติ 22 คน รณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดอุบัติเหตุทางถนน และทำงานบริการสังคม โดยทำความสะอาดห้องน้ำภายในบริเวณจุดบริการประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึกให้ผู้ถูกคุมความประพฤติมีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นและสังคม ณ จุดตรวจ ต.คลองตาล อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วัน คือ วันที่ 27 - 28 ธ.ค.62 เกิดอุบัติเหตุรวม 974 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 109 ราย ผู้บาดเจ็บ 993 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ตายเป็นศูนย์ มี 28 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 33 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.เชียงราย นครสวรรค์ จังหวัดละ 6 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 37 คน
"วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้เน้นย้ำจังหวัด ให้ดูแลความปลอดภัยในการเดินทางทั้งถนนสายหลัก สายรอง อบต.และหมู่บ้าน เน้นเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุทั้งหมด การจอดรถบนไหล่ทางที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจผู้ขับขี่ในเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อป้องกันการขับรถเร็ว และง่วงหลับใน กำชับจุดตรวจ ด่านตรวจ บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เน้นรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย ดื่มแล้วขับและขับรถเร็ว ดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ทั้งท่าเทียบเรือ โป๊ะเรือ และสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ " นายอานนท์ กล่าว
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ได้เน้นย้ำให้จังหวัดปรับกลยุทธ์การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอที่มีความระดับความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุสีแดงและสีส้ม ให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจิตอาสา เข้มงวดการป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทุกด้าน ท้ายนี้ ขอฝากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้เทศกาลปีใหม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย
นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า นโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 กรมคุมประพฤติ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการคุมเข้ม สำหรับผู้กระทำผิดเมาแล้วขับ ซึ่งสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มเติมเพียง 8 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 5 คดี และคดีขับเสพ 3 คดี จึงทำให้มียอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติระหว่าง วันที่ 27-28 ธ.ค. 62 มีจำนวนทั้งสิ้น 707 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 572 คดี คิดเป็นร้อยละ 80.91 , คดีขับเสพ 124 คดี คิดเป็นร้อยละ 17.54 , คดีขับซิ่ง แข่งรถ 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.14 , คดีขับรถประมาท 10 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.41 เบื้องต้น กรมคุมประพฤติ ได้มีการตรวจสอบประวัติการกระทำผิดในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราแล้ว 307 คดี พบมีผู้กระทำผิดซ้ำ 11 คดี ซึ่งกรมคุมประพฤติ ได้กำหนดมาตรการแก้ไขฟื้นฟูเฉพาะในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อเนื่อง 3 วัน ร่วมกับการทำงานบริการสังคม เช่น การดูแลเหยื่ออุบัติเหตุและผู้ป่วย การเยี่ยมชมห้องดับจิต การช่วยเหลืองานในโรงพยาบาล เป็นต้น และการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของการดื่มสุรา และการลด ละ เลิกการดื่มสุรา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความตระหนักถึงผลกระทบของการขับรถในขณะเมาสุรา
นายวิตถวัลย์ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่มีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมากนี้ กรมคุมประพฤติ โดยสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ นำผู้ถูกคุมความประพฤติเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น จำนวน 109 จุด อย่างเช่น สำนักงานคุมประพฤติ จ.สุโขทัย สาขาสวรรคโลก ร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ จ.สุโขทัย นำผู้ถูกคุมความประพฤติ 22 คน รณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดอุบัติเหตุทางถนน และทำงานบริการสังคม โดยทำความสะอาดห้องน้ำภายในบริเวณจุดบริการประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึกให้ผู้ถูกคุมความประพฤติมีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นและสังคม ณ จุดตรวจ ต.คลองตาล อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย