โฆษกรองนายกฯ เผย "บิ๊กป้อม" ประชุมตรวจความพร้อมดูแลความปลอดภัยช่วงปีใหม่ น้อมรับพระราชกระแสห่วงใยประชาชน
วันนี้ (24ธ.ค.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกฯ เปิดเผยว่า เมื่อ 1430 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบความพร้อมมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 63 ณ ห้องประชุมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ที่ประชุมรับทราบภาพรวมสถิติอุบัติเหตุจราจรปีใหม่ 62 ( 29 ธ.ค.61 - 1 ม.ค.62 ) พบการเกิดอุบัติเหตุ 3,791 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 3,892 คน ผู้เสียชีวิต 463 ราย สาเหตุหลักเกิดจาก การดื่มแล้วขับและการขับรถเร็ว ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในทางตรงและเกิดมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ โดยการบังคับใช้กฎหมายยังไม่สอดคล้องกับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ตัวเลขสถิติการจับกุมข้อหาหลักในช่วง 7 วันอันตรายในแต่ละปีมีมากขึ้น แต่จำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมิได้น้อยลง สาเหตุหลักจากการละเลยวินัยจราจรของผู้ขับขี่
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังร่วม VTC รับทราบความพร้อมของจังหวัดที่เป็นปมคมนาคมสำคัญ ได้แก่ นครราชสีมา นครสวรรค์และประจวบคีรีขันธ์ และความพร้อมของจังหวัดที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่นครศรีธรรมราช เชียงใหม่และสุพรรณบุรี พร้อมทั้งรับทราบมติครม.เห็นชอบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการในลักษณะยึดพื้นที่ใน 7 มาตรการหลัก ทั้งจากคน ยานพาหนะ ถนนและสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยทางน้ำและการดูแลนักท่องเที่ยว รวมทั้งการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด
พล.อ.ประวิตร’ กล่าวย้ำว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสห่วงใยประชาชนในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงขอกำชับให้ทุกส่วนราชการเตรียมความพร้อมและให้ความสำคัญกับการกวดขันวินัยจราจรอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เน้นบังคับใช้กฎหมายเข้มกับสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ การขับรถเร็วและการเมาสุราขณะขับขี่ โดยขอให้จุดบริการประชาชน ด่านตรวจและด่านชุมชนตามเส้นทางหลักและรอง มีมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่ ยานพาหนะ กรณีตรวจพบผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด นอกจากดำเนินคดีกับผู้ขับขี่แล้วให้ สอบสวนขยายผลมาตรการทางกฎหมายไปถึงสถานที่จำหน่ายสุราให้ผู้ขับขี่ด้วย เช่น การพักใช้ใบอนุญาตจำหน่ายสุรา หรือการสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดต่อไป สำหรับพื้นที่ที่จัดกิจกรรมปีใหม่ ขอให้มีมาตรการควบคุมการจำหน่ายสุราในบริเวณงานอย่างจริงจัง และให้มีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์รอบพื้นที่จัดงาน โดยให้เข้มกับการสวมหมวกกันน็อคและการเมาแล้วขับ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนโดยรอบ
ขณะเดียวกัน ขอให้หน่วยทหารในพื้นที่ สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่ และเน้นย้ำขอให้ทุกส่วนราชการทำงานร่วมกับจิตอาสาพระราชทานอย่างใกล้ชิดในทุกระดับ โดยเฉพาะท้องถิ่น ทั้งการประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรู้ การลดความเสี่ยงจากการขับรถเร็วและการเมาแล้วขับ การเสริมสร้างและรณรงค์รักษาวินัยจราจร การส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายจราจร การส่งกลับและรักษาพยาบาล การการอำนวยความสะดวกประชาชน รวมทั้งการบริการอาหารเครื่องดื่ม พร้อมทั้งขอให้เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมสาธารณะ กิจกรรมทางศาสนา เพื่อดึงกันเองให้ห่างจากอบายมุข โดยเฉพาะความสำคัญของด่านชุมชนและด่านครอบครัว เพื่อให้สมาชิกชุมชนและครอบครัวได้มีส่วนร่วมเฝ้าระวังดูแลกันเองมากขึ้น ทั้งนี้ขอให้หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ทุ่มเทเสียสละช่วงปีใหม่ ลงพื้นที่ร่วมขับเคลื่อนการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและเป็นแบบอย่างที่ดีกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง