MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยเตรียมคืนผิวจราจรเส้นทางหลักรองรับ ปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนา 25 ธ.ค.นี้ ยืนยันไม่ตั้งด่านบนเส้นทางหลัก เน้นอำนวยความสะดวกจราจร
วันนี้( 23 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวกจราจรแก่ประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ จะมีการคืนพื้นผิวการจราจรที่มีการก่อสร้างบนถนนสายหลักได้ทั้งหมด ส่วนที่เป็นจุดเสี่ยงตามถนนสายต่างๆ เช่นจุดชะลอความเร็ว ก็จะวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแล
"ยืนยันว่าบนถนนสายหลักวันที่ประชาชนเดินทางไปและกลับ จะไม่มีการตั้งด่าน แต่จะเน้นอำนวยความสะดวกจราจร เมื่อรถเริ่มมีความหนาแน่น เช่น บนถนนมิตรภาพ ก็จะมีตำรวจทางหลวงที่คอยดูแลเปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่ง และตำรวจท้องที่คอยสนับสนุนการทำงานควบคุมสัญญาณไฟตามทางแยกต่างๆ รวมถึงดูแลถนนสายรองและกวดขันวินัยจราจรให้ดี ส่วนการตั้งด่านตรวจในต่างจังหวัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจะร่วมกับอาสาสมัครตำรวจบ้านคอยช่วยอำนวยความสะดวก และประชาสัมพันธ์แนะนำเส้นทาง อย่างไรก็ตามในวันที่ 27-28 ธค.และวันที่ 1-2 ม.ค.ในถนนสายรองบางจุด อาจจะต้องมีการตั้งด่านคอยกวดขันกรณีตรวจวัดแอลกอฮอลล์ จุดชะลอความเร็วในเวลากลางคืน"ผู้ช่วยผบ.ตร.ระบุ
พล.ต.ท.ดำรงค์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยข้อมูลการตั้งด่านทั่วประเทศ ในช่วง 7 วันอันตราย ว่าจะมีจุดตรวจ จุดสกัดจำนวน 2,530 จุด ชุดเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 1,869 ชุด และจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ จำนวน 1,909 จุด ทั้งนี้ จุดต่างๆ อาจเพิ่มหรือลด ตามความจำเป็นและเหมาะสมของแต่ละพื้นที่สำหรับกรณีตรวจพบผู้ที่ขับรถในขณะเมาสุรา หากปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุม มีอำนาจยึดรถเป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่แล้ว ตามป.วิอาญา ม.85 และระเบียบการยึดของกลาง เพราะรถดังกล่าวถือว่าเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด
ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าวว่า ในปีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นหนักการบังคับใช้กฎหมายตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เป็นพิเศษ หากเป็นกรณีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ขับขี่เมาสุรา จะมีการขยายผลดำเนินคดีไปยังร้านจำหน่ายสุรา และหากเป็นกรณีเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี จะเข้าข่ายความผิดจำหน่าย แลกเปลี่ยนหรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก และ ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำผิด ดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และนโยบายเน้นหนักเพิ่มเติมโดยการกำหนดจุดตรวจ จุดสกัดและเพิ่มชุดเคลื่อนที่เร็วให้มากที่สุดในแต่ละพื้นที่ เพื่อกวดขันวินัยการจราจรบริเวณจุดเสี่ยง และหากพื้นที่ใดจัดงานเลี้ยงรื่นเริงให้บังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้กวดขันจับกุมการจำหน่ายแอลกอฮอล์ในเวลาห้าม และสถานที่ห้ามจำหน่าย และตั้งจุดตรวจบริเวณใกล้ๆ สถานที่จัดงานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ
ด้านพล.ต.ท. ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุม ก.ตร.ให้ตำรวจทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศปฎิบัติตามแผนมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ เคาทน์ดาวน์และกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี โดยให้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
สำหรับโครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยประชาชน หรือ โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562 - 2 มกราคม 2563 โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการนี้เพราะเป็นโครงการที่ดีและสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนหากไม่อยู่บ้านให้ตำรวจช่วยดูแลความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (24 ธค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมทุกฝ่าย ทั้ง ตำรวจ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำชับมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่