xs
xsm
sm
md
lg

วันแรกเทศกาลปีใหม่ 63 เกิดอุบัติเหตุ 464 ครั้ง ดับ 43 ราย "สุราษฎร์ธานี" เกิดเหตุสูงสุด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันแรก 7 วันอันตรายปีใหม่ 63 เกิดอุบัติเหตุ 464 ครั้ง ดับ 43 ราย เจ็บ 466 คน สุราษฎร์ธานี เกิดเหตุและเจ็บสูงสุด ส่วนเชียงราย ประจวบคีรัขันธ์ เสียชีวิตสูงสุด สั่งเข้มเรียกตรวจยานพาหนะ ความพร้อมผู้ขับขี่ เน้นดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว

วันนี้ (28 ธ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ว่า วันที่ 27 ธ.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” หรือวันแรกของ 7 วันอันตรายปีใหม่ เกิดอุบัติเหตุ 464 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 43 ราย ผู้บาดเจ็บ 466 คน สาเหตุคือ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 30.39 ขับรถเร็ว ร้อยละ 24.78 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.08 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.22 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.60 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ร้อยละ 30.39 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.27

จากการจัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,026 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 63,961 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 731,933 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 158,453 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 42,912 ราย ไม่มีใบขับขี่ 39,584 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 20 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 22 คน

"วันนี้เป็นวันแรกของช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2563 ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว บางส่วนยังอยู่ระหว่างเดินทาง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้เน้นย้ำจังหวัดดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการเดินทาง ทั้งถนนสายหลักสายรอง เปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางลักผ่าน ทางแยก ทางร่วม บริเวณที่มีการก่อสร้างถนน ดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว คุมเข้มขับรถเร็วเกินกำหนด เพิ่มความถี่เรียกตรวจความพร้อมผู้ขับขี่ทุกประเภท บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เน้นตรวจแอลกอฮอล์ในกลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี และกรณีเกิดอุบัติเหตุทุกราย" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า สธ.ประสานให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ จัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย รวมถึงยานพาหนะให้พร้อมเข้าถึงจุดเกิดเหตุทันที หากประชาชนพบเห็นหรือประสบอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุ ได้ทางสายด่วน 1669 ซึ่งมีทีมแพทย์ พยาบาล และเครื่องมือฉุกเฉินพร้อมให้บริการอย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนอำนวยความสะดวกแก่รถพยาบาลและรถฉุกเฉิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุ และนำส่งผู้ประสบเหตุได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน

นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง เปิดเผยว่า ศปถ.ได้เน้นย้ำให้จังหวัดและอำเภอบูรณาการตามแผนปฏิบัติการอย่างเข้มข้น ใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จิตอาสาในการป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน โดยเพิ่มความเข้มข้นในการจัดตั้งด่านชุมชน ด่านครอบครัว ในการเรียกตรวจยานพาหนะ และความพร้อมของผู้ขับขี่ รวมถึงประสานเคลื่อนย้ายรถที่เกิดอุบัติเหตุออกจากจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และให้การจราจรมีความคล่องตัว นอกจากนี้ ให้ดูแลความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ พนักงานต้องมีสภาพร่างกาย ที่พร้อมขับรถอย่างปลอดภัยและมีระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง






กำลังโหลดความคิดเห็น