กทม. เร่งรื้อแผงค้ารุกทางเท้า - ถนนบริเวณทางโค้งข้างเซ็นทรัลลาดพร้าว พร้อมรื้อย้ายผู้ค้าหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค ให้แล้วเสร็จใน 1 สัปดาห์ เผยแปลนค้าใหม่รองรับได้ 84 แผง
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการจัดระเบียบผู้ค้าหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว และศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค ว่า ขณะนี้เหลือผู้ค้าบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค และบริเวณทางโค้ง ถ.พหลโยธิน ที่จะลัดออก ถ.วิภาวดี บางส่วน ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด โดยจะทำการรื้อส่วนที่รุกล้ำมาบนทางเท้าหรือผิวจราจรทั้งหมด แต่มีผู้ค้าบางส่วนขอเวลา 2 - 3 วันเพื่อที่จะทำการรื้อเองก็อนุโลมให้
นายสกลธี กล่าวว่า ส่วนผู้ค้าที่อยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค ได้มีการพูดคุยและให้เวลาทางศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค 1 สัปดาห์ในการหาทางดำเนินการรื้อย้ายผู้ค้าออกทั้งหมด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นแนวร่นจากขอบทาง ไม่ใช่จุดที่สามารถทำการค้าได้ การให้ผู้ค้าเข้ามาทำการค้าถือเป็นการทำผิดวัตถุประสงค์หรือข้อตกลง ซึ่งในวันจันทร์ที่ 11 มิ.ย. 61 จะต้องไม่มีผู้ค้าบริเวณหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค
“การจัดระเบียบผู้ค้าบริเวณดังกล่าว กทม. เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สำหรับการจัดพื้นที่รองรับผู้ค้านั้นเป็นพื้นที่ของ ร.ฟ.ท. ซึ่ง กทม. จะเร่งรัดให้ทาง ร.ฟ.ท. ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะหากล่าช้าก็จะทำให้ผู้ค้าเสียประโยชน์ กทม. เพียงแค่จัดระเบียบเท่านั้นไม่มีส่วนได้เสียเรื่องเก็บค่าเช่าใดๆ เพราะเป็นเรื่องของ ร.ฟ.ท. ที่จะตกลงกับผู้เช่าเอง ขณะนี้ทางสำนักงานเขตจตุจักรได้ทำแบบแปลนในพื้นที่ของ ร.ฟ.ท. พบว่า สามารถรองรับผู้ค้าได้ 84 แผง ซึ่งจะต้องมีการสอบถามความสมัครใจของผู้ค้าว่าประสงค์เข้าทำการค้าในพื้นที่ดังกล่าวมากน้อยเพียงใด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีผู้ค้าเดิมอยู่ด้วย และผู้ค้าที่ต้องรื้อย้ายบางส่วนก็ไม่ประสงค์เข้าทำการค้าในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ ซึ่งเมื่อทำการจัดระเบียบแล้วหากมีผู้ใดฝ่าฝืนเข้ามาตั้งวางหรือทำการค้าในบริเวณดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายสกลธี กล่าว
นายสกลธี กล่าวว่า สำหรับกรณีมีรถตู้เข้ามาจอดในบริเวณดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้เพียงจอดรับ - ส่งผู้โดยสารเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นวินรถตู้ รวมถึงไม่อนุญาตให้รถแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารด้วย เนื่องจากเมื่อมีรถตู้ หรือรถแท็กซี่จอดจะทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดและรถเมล์ก็ไม่สามารถเข้าป้ายได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารที่จะขึ้นหรือลงรถเมล์ได้ จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตจตุจักรปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนช่วงเวลาเร่งด่วน รวมถึงจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดพื้นที่เป็นจุดจอดหรือขึ้น - ลงรถตู้ประจำทางต่อไป
