ศธ. เปลี่ยนประธานสอบข้อเท็จจริง โกงเงินกองทุนเสมาฯ ตั้ง “อรรคพล” ผู้ตรวจราชการเป็นประธานแทน เหตุต้องสืบสวนเชิงลึก จึงต้องอาศัยคนมีประสบการณ์ ย้ำสัปดาห์นี้ฟันโทษวินัยซี 8 แน่นอน เล็งนำเงินกองทุนเสมาฯ มาใช้เยียวยา “นร.พยาบาล - ครู” ก่อน
ความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ตั้งแต่ปี 2551 - 2561 เป็นเงิน 88 ล้านบาท โดยเตรียมดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการระดับ 8 ที่รับสารภาพ 1 ราย และสืบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการที่เกี่ยวข้องอีก 4 ราย
วันนี้ (19 มี.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานจาก นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. ว่า ได้มีการเปลี่ยนประธานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง โดยแต่งตั้ง นายอรรคพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ. เป็นประธานสืบสวนข้อเท็จจริงแทน จากเดิมที่เป็นผู้อำนวยการสำนัก เนื่องจากต้องมีการสืบสวนเชิงลึกและมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ส่วนที่พบว่ามีการโอนเงินกองทุนเสมาฯ ปี 2551 และ 2553 กว่า 30 ล้านบาท แต่ไม่ปรากฏเอกสารว่าผู้รับปลายทางเป็นใคร ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ใครเป็นคนดู ใครเป็นเจ้าของบัญชีก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งการที่เงินหายไม่ได้แปลว่าไม่มีคนรับผิดชอบ เพราะฉะนั้น ก็ต้องไปตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็ขอให้แจ้งเข้ามาได้
“ผมตั้งข้อสังเกตและพูดตั้งแต่วันแรกว่าไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นคนๆ เดียว ซึ่งถ้าไม่ใช่คนเดียว เรื่องนี้จะจงใจหรือประมาทเลินเล่อก็ต้องไปตรวจสอบ ซึ่งการเปลี่ยนตัวประธานคณะกรรมการสืบฯ ก็เพื่อความเข้มข้นในการทำงาน ไม่มีเหตุผลอื่น เนื่องจากเดิมคิดว่าเรื่องจะอยู่ในวงแคบ แต่เมื่อเรื่องดูจะขยายวงกว้างขึ้นและจะมีการเชิญอดีตข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลด้วย จึงให้ซี 10 เข้ามาดูแล อีกทั้งการสอบสวนเหล่านี้ต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า นอกจากนี้ ปลัด ศธ. รายงานว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนสำนักงานปลัด ศธ. (อ.ก.พ.) ซึ่งจะมีการพิจารณาโทษทางวินัย 1 รายคือ ข้าราชการซี 8 ซึ่งมีความผิดชัดแจ้ง โทษมีปลดออก หรือ ไล่ออก ส่วนอีก 4 รายกำลังอยู่ในกระบวนการสืบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ศธ.ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเอาจริงเอาจัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ปปง.ก็แถลงชัดเจนว่าจะเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงิน และจะดำเนินการอายัดทรัพย์ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก็จะเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ส่วนการเยียวยาเด็กและครูที่รับเงินจากกองทุนเสมาฯ ในระหว่างที่ยังไม่สามารถติดตามทรัพย์คืนมาได้ ก็อาจจะนำเงินส่วนอื่นมาแทน เบื้องต้นอาจจะนำเงินในกองทุนเสมาฯ มาเยียวยาให้แทน แต่จะต้องหารือในที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตก่อน