ปลัด ศธ. แจ้งความเอาผิดเจ้าของ 22 บัญชี รับโอนเงินกองทุนเสมาฯ 88 ล้านบาท มั่นใจกระทำความผิดร่วมตลอด 10 ปี เตรียมเสนอ อ.ก.พ.สป. ฟันโทษวินัยข้าราชการซี 8 ที่รับสารภาพ
วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมเจ้าหน้าที่นิติกร เดินทางไปยังยังสถานีตำรวจนครบาลดุสิต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของบัญชีส่วนบุคคลจำนวน 22 บัญชี ที่รับโอนเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต จำนวนกว่า 88 ล้านบาท ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นเครือญาติกับข้าราชการผู้รับผิดชอบกองทุนฯ ที่รับสารภาพไปก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากเป็นบัญชีส่วนบุคคลไม่ใช่สถานที่ศึกษา จึงเข้าข่ายแอบอ้างสวมรอยเพื่อขออนุมัติเงินจากกองทุนฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอายัดทรัพย์สินและบัญชีของบุคคลดังกล่าวต่อไป
นายการุณ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการกระทำความผิดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มั่นใจว่า เจ้าของบัญชี 22 บัญชีมีส่วนร่วมในการกระทำผิด โดยเงินจะถูกโอนไปเข้าบัญชีบุคคลเป็นประจำทุกปี และจะถูกโอนไปเข้าบัญชีเดิมๆ รวม 22 บัญชี ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาก็ได้สารภาพว่า หลังจากที่โอนเงินให้ญาติไปแล้ว ญาติก็โอนเงินกลับมาให้ผู้ถูกกล่าวหา จากนั้นก็นำเงินไปทำธุรกิจต่างๆ โดยแบ่งเงินขวัญถุงให้กับเจ้าของบัญชีไปบ้าง ซึ่งเจ้าของบัญชีก็ได้ประโยชน์ด้วยเนื่องจากเป็นญาติกับผู้ถูกกล่าวหา
“ส่วนข้าราชการระดับซี 8 ที่สารภาพก็ได้มอบหมายในสำนักนิติการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นำเรื่องเสนอต่อคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สป. เพื่อพิจารณาโทษแล้ว ส่วนอีก 4 รายอยู่ในระหว่างการตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง” นายการุณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 หากผู้กระทำผิดมีการสารภาพต่อผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาก็สามารถดำเนินการทางวินัยได้โดยไม่ต้องสอบสวนวินัย ซึ่งกรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป้นการทำผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งมีโทษ 2 อย่าง คือ ไล่ออกหรือปลดออก