ปปง. เตรียมถก ศธ. เส้นทางอมเงินกองทุนเสมาฯ วันพรุ่งนี้ พร้อมช่วยดูเรื่องอายัดทรัพย์ ตามเงิน 88 ล้านบาท กลับคืนกองทุน “การุณ” จี้ขอข้อมูลครู - นร. ทุนเสมาฯแบบละเอียดยิบ หาทางเยียวยา เตรียมข้อมูลส่ง อ.ก.พ.สป. ฟันวินัยร้ายแรงข้าราชการซี 8 ด้าน สอศ. เด้งรับใบสั่งตรวจสอบกองทุน เบื้องต้นไม่มีการจัดตั้งกองทุน
วันนี้ (14 มี.ค.) นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนได้ส่งหนังสือสั่งการถึงฝ่ายตรวจสอบภายในของสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ให้ตรวจสอบทุกบัญชี ทุกกองทุนฯ ส่วนมีกี่กองทุนฯ นั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมด ส่วนที่ตรวจสอบแล้วพบความผิดปกติของบัญชีก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีบุคคล 22 ราย ในฐานะสนับสนุนผู้กระทำความผิด ในการโอนเงินจากสำนักงานปลัด ศธ. แล้วกระบวนการอย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม รมว.ศึกษาธิการ ได้กำชับให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมทั้งประสานกับทุกหน่วยงานดำเนินการตรวจสอบกองทุนต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่า ศธ. เอาจริงกับการแก้ไขปัญหาทุจริต
ปลัด ศธ. กล่าวว่า พรุ่งนี้ (15 มี.ค.) ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาประชุมร่วมกับตน เพื่อขอข้อมูลรายละเอียดต่างๆของกองทุนเสมาฯ โดยเฉพาะกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณที่ผ่านมาเป็นแบบใด รวมถึงกรณีที่ ศธ.ไปแจ้งความกับทั้ง 22 ราย ปปง. ก็จะเข้ามาช่วยดูเรื่องดำเนินการอายัดทรัพย์ เพื่อนำทรัพย์กลับคืนมายังกองทุน สำหรับการดำเนินการทางวินัยข้าราชการซี 8 ทางนิติกรอยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดทั้งหมดเพื่อเสนอให้ อ.ก.พ.สป. ซึ่งมีปลัด ศธ. เป็นประธาน พิจารณาโทษทางวินัย ซึ่งกรณีนี้มีโทษวินัยร้ายแรง ไล่ออก หรือ ปลดออก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ซี 8 ยังปฏิบัติงานอยู่ที่สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สป.ศธ.ส่วนกระบวนการสืบสวนข้อเท็จจริงอีก 4 รายยังดำเนินการต่อไป
พร้อมกันนี้ จะดูเรื่องมาตรการเยียวยา โดยขอให้กลุ่มโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และกลุ่มโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นำหลักฐานมาแสดงว่าได้รับเงินหรือไม่ เบื้องต้นเฉพาะปี 2560 พบว่า มีครู 53 รายที่ใช้เงินกองทุนเสมาฯจ้าง ซึ่งครูอาจทำการสอน ซึ่งอาจจะไม่ได้รับเงินหรือได้รับเงินล่าช้า โดยจะจัดทำแบบฟอร์มให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปตรวจสอบ รวมถึงประสานงานกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี 31 แห่งขอข้อมูลว่ามีเด็กทุนเสมาฯจำนวนกี่ราย ได้รับเงินครบทุกปีหรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบข้อเท็จจริงและเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนเสมาฯเพื่อพิจารณาหามาตรการเยียวยาทั้ง 2 กลุ่มต่อไป
“คงต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูล เพราะเรื่องนี้ทำมานานนับ 10 ปี ส่วนข้อมูลที่มีขณะนี้เป็นของปี 2560 ที่มีการสุ่มตรวจสอบเจอ ที่ผ่านมาทุกปี ศธ.มีการตรวจสอบทุกกองทุนเพียงจะใช้วิธีการสุ่มตรวจบัญชี เช่น กองทุนมี 100 บัญชี สุ่มตรวจ 10 บัญชี เป็นต้น แต่ปีนี้กองทุนเสมาฯสุ่มตรวจสอบพบข้อผิดปกติ ว่า มีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่น จึงทำการตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง 100% ทำให้พบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น ในเบื้องต้นมีผู้เกี่ยวข้อง 5 ราย สำหรับปีอื่นๆ จะมีผู้เกี่ยวข้องอีกกี่ราย ทางคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต้องลงไปขยายผลลงต่อไป” นายการุณ กล่าว
ด้าน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบโดยละเอียดว่าสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีกองทุนที่อยู่ในการดูแลหรือไม่ เพื่อรวบรวมรายงานต่อ รมว.ศธ. ตามที่ได้สั่งการ ในเบื้องต้นทราบว่า สอศ. ไม่การจัดตั้งกองทุน รวมถึงให้ตรวจสอบเรื่องกระบวนการโอนเงินงบประมาณจากส่วนกลางไปยังวิทยาลัยด้วย เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างโปร่งใส