xs
xsm
sm
md
lg

รณรงค์ปีใหม่ กลับบ้านปลอดภัย ชี้ดื่มแล้วขับโอกาสตายเพิ่ม 2 เท่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สสส. จับมือ สตช. เหยื่ออุบัติเหตุ และภาคีเครือข่าย รณรงค์รับมือปีใหม่ ชูแนวคิด “กลับบ้านปลอดภัย มีวินัย มีน้ำใจ ไม่ดื่ม ไม่ซิ่ง” ย้ำดื่มแล้วขับโอกาสตายเพิ่ม 2 เท่า เชื่อมาตรการตรวจจับ บังคับใช้กฎหมาย ช่วยลดสูญเสียได้

วันนี้ (22 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เหยื่ออุบัติเหตุ เครือข่ายองค์กรงดเหล้าเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายสามล้อ เครือข่ายจักรยานยนต์รับจ้าง เครือข่ายแท็กซี่ กว่า 100 คน จัดกิจกรรมรับมืออุบัติเหตุปีใหม่ ภายใต้แนวคิด “กลับบ้านปลอดภัย มีวินัย มีน้ำใจ ไม่ดื่ม ไม่ซิ่ง” ในงานมีการจำลองสถานการณ์ “เหยื่ออุบัติเหตุ ร้องขอถนนปลอดภัย” จากนั้นร่วมกันปล่อยขบวนรถสามล้อ แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ บริเวณแยกไฟแดง และแจกสื่อประชาสัมพันธ์ ให้กับผู้ใช้รถและประชาชนที่ผ่านไปมา

น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงวันหยุดยาวที่ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นกิจกรรมนี้จึงหวังกระตุ้นเตือนให้สัญจรด้วยความระมัดระวัง หยุดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สำคัญคือ การมีน้ำใจ มีวินัย เคารพกฎจราจร ไม่ดื่มสุรา ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ฝืนขับรถขณะง่วงเพลีย และควรใช้อุปกรณ์นิรภัยตลอดการเดินทางทั้งการคาดเข็มขัดและสวมหมวกนิรภัย เพื่อช่วยรักษาชีวิตได้หากเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ช่วงปีใหม่ 7 วัน ย้อนหลัง 3 ปี พบว่า มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 52 ราย บาดเจ็บวันละ 474 ราย โดยในปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 380 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ไม่เคารพกฎหมาย ขาดวินัยและพฤติกรรมเสี่ยงสำคัญ คือ การใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด รวมถึงหากดื่มสุราขณะขับขี่จะเพิ่มโอกาสเสียชีวิตถึง 2 เท่า ที่น่าห่วงคือ ในคืนสิ้นปีที่นิยมดื่มสุราเฉลิมฉลองหนัก มักนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียได้ง่ายมาก

“มาตรการที่เข้มงวด ตรวจจับ บังคับใช้กฎหมาย จะเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุ ความสูญเสีย ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ ส่วนการสื่อสารรณรงค์เป็นมาตรการหนุนเสริมเพื่อย้ำเตือนให้ระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม สสส. และภาคีได้ร่วมกันทำงานที่หลากหลาย ทั้งงานวิชาการ งานผลักดันนโยบาย ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้เครือข่ายในทุกจังหวัด และเชื่อมประสานร่วมกันระหว่างหน่วยงานองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และเป็นที่น่ายินดีว่าปัจจุบันได้มีหลายหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนออกมาสนับสนุนการสื่อสารรณรงค์ในสื่อต่างๆ มากขึ้น สำหรับช่วงเทศกาลหยุดยาวนี้ คาดว่า ประชาชนจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาร่วมถวายความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นการเดินทางที่มีความแตกต่างจากทุกปี” น.ส.รุ่งอรุณ กล่าว

พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธ์ รักษาราชการผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลด้านการจราจร กล่าวว่า ปกติแต่ละวันจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน 30 ราย ยิ่งถ้าเป็นช่วงปีใหม่จะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเส้นทางสายรองมักเกิดอุบัติเหตุมากกว่าเส้นทางสายหลัก เนื่องจาก 70% ขับด้วยความเร็วสูง และรถจักรยานยนต์จะเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด สำหรับมาตรการรับมือช่วงปีใหม่ ล่าสุด ได้ประชุมฝ่ายอำนวยการงานจราจร ตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธร ด่านชุมชน และฝ่ายต่างๆ เน้นย้ำ 2 ส่วน คือ อำนวยความสะดวกในการจราจร จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงทางโค้ง ทางลาดชัน ทั่วประเทศ 2,602 จุด ประชาสัมพันธ์ทางเลี่ยงเพื่อบรรเทารถติดสะสม อีกทั้งกำชับกวดขันวินัยจราจร การใช้ความเร็ว การขับรถย้อนศร แซงในที่คับขัน มาตรการเมาแล้วขับจับยึดรถ ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะมีจุดตรวจทั้งหมด 3 พันกว่าแห่งทั่วประเทศ มีกล้อง CCTV เก็บข้อมูล และได้สั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขสภาพเส้นทาง ป้ายเตือน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนให้เข้าใจเวลาที่ตำรวจตั้งด่าน และมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น ไม่ละเมิดกฎหมาย เช็กสภาพรถก่อนออกเดินทาง มีความพร้อมพักผ่อนให้เพียงพอ หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัว หันไปใช้รถสาธารณะ เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากคนหันไปใช้รถส่วนตัว

นายสุวีระ บุญรอด หรือ คิว ศิลปินวงฟลัวร์ กล่าวว่า จากอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์ ชนขณะเดินข้ามถนนเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ต้องนอนห้อง ไอ.ซี.ยู. รักษาอาการเลือดคั่งในสมอง กระดูกไหปลาร้าหัก กระดูกขาขวาหัก เดินไม่ได้นานกว่า 3 เดือน เหตุการณ์ครั้งนั้นหมอสั่งให้งดดื่มสุราเด็ดขาด อีกทั้งตั้งใจอยู่แล้วว่าจะเลิกดื่มตลอดชีวิต เพราะรู้สึกว่าชีวิตเรามีค่า หันมารักชีวิต มีสติมากขึ้นดีกว่า จากเมื่อก่อนเวลาดื่มสุราจะกลายเป็นคนอารมณ์ร้อน หงุดหงิด โมโหร้าย ทะเลาะวิวาท ใช้คำพูดไม่ดี ช่วงที่ผ่านมาดื่มหนักมาก ไม่รักษาสุขภาพ เอาสิ่งที่ไม่ดีเข้าสู่ร่างกาย ดื่มทุกวัน ไม่เมาไม่เลิก หมดเงินไปกับสุราวันละ 1 - 2 พันบาท แต่วันนี้กลับมาเป็นคนใหม่ ฟื้นฟูตัวเอง หลุดพ้นจากสุรามาได้หลายเดือนแล้ว อยากฝากว่าปีใหม่นี้ว่า ควรลดละเลิก ฉลองอย่างมีสติ อย่าให้เทศกาลแห่งความสุขต้องกลายเป็นเทศกาลเจ็บตายพิการ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ที่คนไทยอยากทำสิ่งดีๆ ถวายในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นโอกาสอันดี ที่จะปฏิบัติบูชาด้วยการตั้งใจเลิกดื่มน้ำเมาตลอดชีวิต ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ถวายพระองค์ท่าน




กำลังโหลดความคิดเห็น