รองโฆษก คสช. เผย ประชุมอำนวยความสะดวก ปชช. รักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่ คงมาตรการเดิมแบบปีก่อน ร่วมกับทุกภาคส่วนดูแลความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ เพิ่มจุดตรวจเมายึดรถ ยัน จนท. ดำเนินการด้วยความรอบคอบ เข้มเข้าออกชายแดน ทร. ขนช่างทหารเรือ - นร.จ่าทหารเรือ จัดโครงการตรวจสภาพรถยนต์ฟรีก่อนปีใหม่ 19 - 23 ธ.ค. ก่อนออกเดินทางไกล สร้างความมั่นใจบนถนน
วันนี้ (19 ธ.ค.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รองเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดยได้กำชับให้ทุกส่วนเร่งดำเนินการตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในการอำนวยความสะดวกประชาชน และการรักษาความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งประชาชนจะมีการเดินทางกลับภูมิลำเนา เดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในห้วงเวลาดังกล่าวด้วย โดยให้ดำเนินการตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด ได้แก่ การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีของทุกศาสนา กิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ กิจกรรมแสดงความจงรักภักดี และการถวายพระพร เพื่อให้ประชาชนได้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างมีความสุขและปลอดภัย
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ในส่วน คสช. จะยังคงใช้มาตรการเดิมในการดูแลประชาชนในห้วงเทศกาลปีใหม่นี้ ได้แก่ ดื่มไม่ขับจับยึดรถ, การป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย, การอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และการสนับสนุนการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในทุกพื้นที่ โดยในช่วง 7 วัน ระหว่าง 29 ธ.ค.59 - 4 ม.ค.60 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จะดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนในการรักษาความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุทางถนน มีการเตรียมพร้อมในเรื่องเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย ความพร้อมทางด้านการแพทย์หากเกิดอุบัติเหตุขนาดใหญ่ จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วสำหรับเข้าคลี่คลายในสถานการณ์ต่างๆ ควบคู่ไปกับการตั้งจุดบริการประชาชน พักรถ พักคน ในเส้นทางต่างๆ ทั่วประเทศ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” จะมีการเพิ่มจุดตรวจ ด่านตรวจในเส้นทางหลักโดยเฉพาะทางตรงระยะยาว เพื่อให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะชะลอความเร็ว และมีการตั้งจุดตรวจร่วมในเส้นทางรอง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางหลัก หรือจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมที่มีสถิติเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่อให้การป้องกันอุบัติเหตุมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่วนการยึดรถยนต์และใบขับขี่ของผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้น เจ้าหน้าที่จะดำเนินการด้วยความรอบคอบเหมาะสม รวมทั้งจะมีมาตรการอื่นๆ ที่จะเพิ่มความระมัดระวังการขับขี่ยิ่งขึ้นมาเสริมการปฏิบัติอีกด้วย
สำหรับในพื้นที่ชายแดน เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลผ่านเข้า - ออก ประเทศ และป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายด้วย โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนได้ร่วมกันเตรียมการ ทั้งการจัดตั้งกองอำนวยการร่วม การทดสอบสถานการณ์ การตรวจสอบอุปกรณ์ อาทิ กล้องวงจรปิด ไฟฟ้าส่องสว่าง การตรวจสอบและจัดเตรียมพื้นที่ที่จะใช้ในการจัดกิจกรรมให้มีความสะดวกสบาย รองรับจำนวนประชาชนที่จะเข้ามาร่วมกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม คสช. ขอความร่วมมือประชาชนเตรียมความพร้อมส่วนบุคคล ตรวจสอบยานพาหนะ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในการเดินทางและร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยกันสร้างสังคมให้มีความปลอดภัยและเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุข
ขณะที่บริเวณลานจอดรถนันทอุทยานสโมสร ฐานทัพเรือกรุงเทพ พล.ร.ต.สุชา เคี่ยมทองคำ เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเทศกาลปีใหม่ 2560 ซึ่งจัดโดยกรมการขนส่งทหารเรือ กองทัพเรือ เพื่อบริการให้กับข้าราชการกองทัพเรือ และประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 19 - 23 ธ.ค. 2559 เวลา 09.00 - 16.30 น. ที่บริเวณลานจอดรถนันทอุทยานสโมสร ฐานทัพเรือกรุงเทพ ถ.อิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กทม.
ทั้งนี้ พล.ร.ต.สุชา กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือออกไปท่องเที่ยว ทางกองทัพเรือโดยกรมการขนส่งทหารเรือมีแนวความคิดให้บริการประชาชนเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ยานพาหนะรถยนต์เดินทางได้อย่างปลอดภัย โดยเข้ารับการตรวจสภาพรถ ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ตั้งแต่วันที่ 19 - 23 ธ.ค. 59 โดยกรมการขนส่งทหารเรือมีช่างทหารเรือที่มีความรู้ความสามารถ รวมทั้งนักเรียนโรงเรียนจ่าทหารเรือ เหล่าขนส่ง ที่ได้รับการฝึกดูแลรถยนต์อยู่แล้ว จึงถือโอกาสนี้มาให้บริการประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่าสภาพรถของตนเองเหมาะสมที่จะเดินทางไกลหรือไม่ หรือมีอะไรที่ควรแก้ไข เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนออกเดินทาง จึงอยากเชิญชวนประชาชนนำรถยนต์เข้ามาตรวจสภาพรถได้ที่บริเวณลานจอดรถ นันทอุทยานสโมสร ฐานทัพเรือกรุงเทพ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ดำเนินการโครงการดังกล่าวมาทุกปี และปีนี้ตั้งปณิธานว่าจะทำความดีเพื่อในหลวง ร.๙ ด้วย นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวมีการใช้รถบนท้องถนนมาก ขอให้ทุกคนขับขี่ด้วยความระมัดระวังและรักษาความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งมีน้ำใจต่อกัน เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน