สคล. จี้ “ตำรวจทางหลวง” เข้มบังคับใช้กฎหมายห้ามดื่มเหล้าบนรถ และห้ามขายเหล้าบนถนนและไหล่ทาง หวังช่วยลดอุบัติเหตุปีใหม่ วอนเข้มเมาขับจับยึดรถ ด้าน ผบก.ทางหลวง ย้ำ ตรวจจับห้ามดื่มบนรถ - ขายไหล่ทาง
วันนี้ (23 ธ.ค.) ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) พร้อมด้วย เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กว่า 30 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อเข้มงวด ตรวจจับ กำชับทุกพื้นที่ บังคับใช้กฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถขณะอยู่บนทาง และห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนถนน และไหล่ทาง และขอสนับสนุนมาตรการเมาขับ จับยึดรถและใบขับขี่ตามนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้ เครือข่ายฯได้มอบสื่อรณรงค์ปีใหม่ “กลับบ้านปลอดภัย มีวินัย มีน้ำใจ ไม่ดื่ม ไม่ซิ่ง” เป็นแผ่นป้ายไวนิล จำนวน 400 ผืน และสติกเกอร์รณรงค์ อีกกว่า 20,000 ชิ้น ให้ตำรวจทางหลวงด้วย
ภก.สงกรานต์ กล่าวว่า ปีใหม่นี้ประชาชนส่วนใหญ่ออกเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้จำนวนรถที่สัญจรบนท้องถนนเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเกี่ยวข้องในการเดินทาง และการเฉลิมฉลอง ทำให้เกิดอุบัติเหตุเจ็บตาย สะท้อนจากสถิติการเสียชีวิตบนถนนของไทยเป็นอันดับ 2 ของโลก อีกทั้งสถิติช่วง 7 วันอันตรายในปี 2558 มีผู้บาดเจ็บ 3,117 ราย เสียชีวิต 341 ราย ขณะที่ปีใหม่ 2559 มีผู้บาดเจ็บ 3,505 เสียชีวิต 380 ราย สาเหตุสำคัญมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
“ทุกปีรัฐบาลและทุกภาคส่วนจะร่วมรณรงค์ พยายามบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ แต่สถิติอุบัติเหตุ ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แม้ปัจจุบันมีกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่ก้าวหน้าในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น การห้ามดื่มบนรถขณะรถอยู่บนทาง การห้ามขายบนทาง บนถนน ริมทาง ไหล่ทาง ฟุตปาท แต่ก็พบว่ายังขาดการบังคับใช้อย่างจริงจัง และทุกๆ ปี เครือข่ายฯจะได้รับแจ้งจากพื้นที่ว่ามีพ่อค้าหัวหมอตั้งโต๊ะขายริมถนนใกล้ทางเข้าออกปั๊มน้ำมัน บนถนนสายหลักที่การจราจรแออัด ซึ่งแม้มีกฎหมายห้ามแต่กลับไม่มีผลในทางปฏิบัติ” ภก.สงกรานต์ กล่าว
ภก.สงกรานต์ กล่าวว่า เพื่อป้องกันความสูญเสียจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง เครือข่ายฯจึงมีขอเสนอต้อกองบังคับการตำรวจทางหลวง ดังนี้ 1. นอกเหนือจากการทำผิดกฎหมาย เมาแล้วขับแล้ว โปรดให้ความสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายลูกซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่มีผลบังคับใช้ เช่น ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถขณะอยู่บนทาง ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ไหล่ทาง ริมถนน ฟุตปาท ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. เครือข่ายสนับสนุนมาตรการของรัฐบาล และ คสช. ที่ให้เข้มงวดเรื่องปัญหาเมาแล้วขับโดยมีนโยบายการยึดรถ ยึดใบขับขี่ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า ทำให้ผู้ที่จะขับรถ มีความตระหนักเพิ่มขึ้น ถ้ามีการบังคับใช้อย่างจริงจัง และประชาสัมพันธ์ให้ทราบในวงกว้าง จะลดจำนวนอุบัติเหตุได้มากขึ้น 3. เครือข่ายขอขอบคุณ กองบัญชาการตำรวจทางหลวง ที่สนับสนุนการรณรงค์ “กลับบ้านปลอดภัย มีวินัย มีน้ำใจ ไม่ดื่มไม่ซิ่ง” และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติภารกิจเพื่อความสุขความปลอดภัยของประชาชนช่วงปีใหม่ในปีนี้ด้วย
ด้าน พล.ต.ต.สมชาย กล่าวภายหลังจากรับหนังสือจากเครือข่ายฯ ว่า ตำรวจทางหลวงเตรียมกำลังและสั่งกำชับเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือปีใหม่ไว้แล้ว ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้เคารพกฎหมาย โดยเฉพาะการห้ามดื่มบนรถ บนถนน ห้ามขายสุราตามไหล่ทาง ปั๊มน้ำมัน อย่าแอบขาย อย่าลืมว่าสุราไม่สามารถดื่มขายในที่สาธารณะได้ นอกจากนี้ เราจะสร้างการรับรู้กับสังคมเพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างเต็มที่