เครือข่ายชุมชนริมคลองลาดพร้าว เขตห้วยขวาง โวยสำนักการระบายน้ำ ไม่ส่งผู้บริหารมาชี้แจงแนวก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมให้ชัดเจนว่ามีขนาดกว้างกี่เมตร เพื่อชาวบ้านจะได้เตรียมพร้อมที่จะรื้อย้ายและสร้างบ้านใหม่ ยืนยันไม่ขัดขวางนโยบายจัดระเบียบคูคลองของรัฐบาล พร้อมสนับสนุนและพัฒนาชุมชน แต่ขอให้ลดแนวสร้างเขื่อนเพื่อเพิ่มพื้นที่สร้างบ้านมากกว่า 12 เมตร หากไม่เป็นผลเตรียมระดมชาวบ้านเข้าพบ พลเอก ประวิตร รองนายกฯ ด้านอดีต ส.ก. เขตห้วยขวางอัด กทม. ไม่ดูแลชาวบ้าน
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานเขตห้วยขวาง เครือข่ายชุมชนริมคลองลาดพร้าว เขตห้วยขวาง ประชาคมห้วยขวาง และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ได้จัดให้มีการประชุมหารือร่วมกันเพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมของ กทม. และแผนการเตรียมการรื้อย้ายบ้านเรือนริมคลองออกจากแนวก่อสร้างเขื่อน โดยมีตัวแทนชาวบ้าน หน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักการระบายน้ำ กทม. กรมธนารักษ์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตำรวจและทหารในพื้นที่ เข้าร่วมประชุมประมาณ 200 คน อย่างไรก็ตาม ทางสำนักการระบายน้ำ โดยกองระบบคลองซึ่งรับผิดชอบในการก่อสร้างเขื่อนไม่ได้ส่งผู้บริหารเข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด มีเพียงเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการในพื้นที่เข้าร่วมประชุมแทน
นายจำรัส กลิ่นอุบล ประธานเครือข่ายชุมชนริมคลองลาดพร้าว กล่าวว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมของ กทม. ในคลองลาดพร้าว มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง คือ สำนักการระบายน้ำ กทม. โดยเฉพาะกองระบบคลองที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ระดับผู้บริหารหรือผู้อำนวยการก็ไม่เคยลงมาประชุมหรือชี้แจงสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมา เครือข่ายฯ และหน่วยงานต่าง ๆ ได้เคยจัดประชุมกันหลายครั้งแล้ว แต่ทางสำนักการระบายน้ำได้ แต่ส่งเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการมาร่วมประชุม ทำให้ไม่สามารถชี้แจง หรือให้ความกระจ่างชัดกับชาวบ้านได้ว่าแนวเขื่อนที่จะสร้างในคลองลาดพร้าวเขตห้วยขวางมีความกว้างกี่เมตร เพื่อที่ชาวบ้านจะได้เตรียมตัวที่จะรื้อย้ายบ้านออกจากแนวเขื่อนและสร้างบ้านใหม่
ประธานเครือข่ายฯ กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ผู้บัญชาการทหารบกได้ลงมาสำรวจชุมชนริมคลองลาดพร้าวเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แล้วสั่งการให้ทาง กทม. และทหารช่วยกันปักธงแสดงแนวเขื่อนในชุมชนต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านเห็นแนวเขื่อนที่ชัดเจนนั้น ปรากฏว่า แนวเขื่อนที่จะสร้างในคลองลาดพร้าวเขตห้วยขวางเหลือพื้นที่ความกว้างให้ชาวบ้านได้อยู่อาศัยสร้างบ้านใหม่เพียง 12 เมตรเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอที่จะรองรับชาวบ้านได้ทั้งหมด นอกจากนี้จะต้องมีการใช้พื้นที่เพื่อก่อสร้าง สาธารณูปโภคต่าง ๆ ด้วย เช่น ทางเดินเลียบคลอง สวนหย่อม ศูนย์เด็กเล็ก บ่อบำบัดน้ำเสียด้วย
“แนวสร้างเขื่อนที่สำนักการระบายน้ำมาปักธงในชุมชนคลองลาดพร้าวเฉลี่ยแล้วกว้าง 35 เมตร และเหลือพื้นที่ให้ชาวบ้านสร้างบ้านใหม่มีความกว้างเฉลี่ยเพียง 12 เมตรตลอดแนวคลอง ซึ่งไม่เพียงพอที่จะสร้างชุมชนใหม่ได้ นอกจากนี้แนวเขื่อนที่ทางสำนักการระบายน้ำเคยเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ก็เสนอแนวเขื่อนคลองลาดพร้าวในเขตห้วยขวางต่อที่ประชุมว่ามีความกว้างประมาณ 17 - 28 เมตรเท่านั้น ไม่ใช่กว้าง 35 เมตร” ประธานเครือข่ายกล่าว
นายจำรัส กล่าวในตอนท้ายว่า ชาวบ้านไม่ได้ขัดขวางนโยบายของรัฐบาลในการก่อสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำท่วม และยินดีที่จะเข้าร่วมและสนับสนุนการพัฒนาชุมชนริมคลอง เช่น การเดินเรือเชื่อมเส้นทางรถไฟฟ้า ไบค์เลนเลียบคลอง ฯลฯ แต่ทางราชการก็ต้องเหลือพื้นที่เพื่อให้ชุมชนสามารถอยู่ในที่ดินเดิมได้ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจนอาจขัดขวางหรือไม่ให้ความร่วมมือกับโครงการได้ ซึ่งตามแผนงานของทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ จะให้ชุมชนที่มีความพร้อมรื้อย้ายและเริ่มสร้างบ้านใหม่ในเดือนเมษายนนี้ แต่หากเรื่องแนวเขื่อนและเรื่องที่ดินเพื่อสร้างบ้านยังไม่มีความชัดเจน ตนก็คิดว่าแผนงานนี้คงจะเป็นไปไม่ได้
นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตห้วยขวาง กล่าวว่า แนวธงแดงสร้างเขื่อนที่เหลือพื้นที่ให้ชุมชนอยู่เพียง 12 เมตรนั้นไม่พอสร้างที่อยู่อาศัยรองรับชาวบ้านแน่ หรือหากจะสร้างเป็นแฟลตหรืออาคารสูงก็คงจะไม่เพียงพออีกเช่นกัน ทั้งยังขัดกับสภาพแวดล้อมและด้านกายภาพของชุมชน ซึ่งมีทั้งผู้สูงอายุ มีอาชีพค้าขาย นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ตนยังไม่เคยได้ยินว่ากรุงเทพมหานครจะให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้ต้องรื้อย้ายหรือได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเยียวยา การรื้อถอน หรือการสร้างบ้านใหม่ ดังนั้นจึงขอให้ทางกทม.ช่วยดูแลชาวบ้านในส่วนนี้ด้วย
ในตอนท้ายของการประชุม ตัวแทนเครือข่ายชุมชนริมคลองลาดพร้าว ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องของเครือข่ายฯ ผ่านตัวแทนของสำนักการระบายน้ำ โดยมีประเด็นสำคัญ คือ ขอให้ลดความกว้างของเขื่อนในคลองลาดพร้าวเขตห้วยขวางจาก 35 เมตร เหลือ 25 เมตร ซึ่งจะทำให้ชุมชนต่างๆ มีพื้นที่เหลือเป็นแนวกว้างตลอดลำคลองตั้งแต่ 22 เมตรขึ้นไปเพื่อสร้างบ้านใหม่ในชุมชนเดิม ส่วนชุมชนที่มีพื้นที่คับแคบและไม่เพียงพอที่จะสร้างบ้านใหม่ก็จะขอเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์หรือสำนักงานทรัพย์สินเพื่อสร้างบ้านใหม่ต่อไป ทั้งนี้ เครือข่ายฯ จะติดตามความคืบหน้าในการยื่นข้อเรียกร้องจากสำนักการระบายน้ำและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หากไม่มีความคืบหน้าทางเครือข่ายฯ จะระดมชาวบ้านเพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลรับผิดชอบโครงการนี้ต่อไป
สำหรับชุมชนริมคลองลาดพร้าวเขตห้วยขวางมีทั้งหมด 7 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนซอยลาดพร้าว 45, ชุมชนร่วมใจพิบูล 2, ชุมชนซอยลาดพร้าว 80, ชุมชนประชาอุทิศ, ชุมชนหลังสมาคมโรงเรียนไทย-ญี่ปุ่น, ชุมชนบึงพระราม 9 และชุมชนบึงพระราม 9 พัฒนา รวมทั้งหมดประมาณ 1,200 ครัวเรือนเศษ ประชากรทั้งหมดประมาณ 4,000 คน
