xs
xsm
sm
md
lg

บ้านมั่นคงชุมชนริมคลองเดินหน้าสร้างบ้านเฟสแรก พม.เร่งสร้างความเข้าใจจัดระเบียบชุมชนริมคลอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยกเสาเอกชุมชนคนรักถิ่น
MGR Online - บ้านมั่นคงชุมชนเดินหน้าก่อสร้างบ้านเฟสแรกในชุมชนริมคลองเปรมประชากรเขตหลักสี่ ขณะที่เครือข่ายชุมชนริมคลองเตรียมทวงสัญญาเช่าที่ดินสร้างบ้านจากกรมธนารักษ์ระยะเวลา 30 ปี ด้านกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เตรียมจัดอบรมชุดมวลชนสัมพันธ์ 5 ชุด ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจเรื่องการจัดระเบียบชุมชนริมคูคลอง ทั้งการสร้างเขื่อนระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมและสร้างบ้านใหม่รองรับ คาดมีนาคม-เมษายนนี้จะเริ่มรื้อย้ายและสร้างบ้านใหม่ได้

วันนี้ (16 มกราคม 2559) ที่ชุมชนคนรักถิ่น ริมคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ได้มีพิธียกเสาเอกบ้านมั่นคงชุมชนคนรักถิ่นที่กำลังจะก่อสร้างบ้านเฟสแรกจำนวน 7 หลัง โดยมีชาวบ้านและสมาชิกเครือข่ายพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมคูคลองประมาณ 100 คน เข้าร่วมในงานดังกล่าว ซึ่งโครงการก่อสร้างบ้านมั่นคงดังกล่าวเป็นแผนงานที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 ก่อนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันจะมีนโยบายการจัดระเบียบชุมชนริมคลองโดยการรื้อย้ายบ้านเรือนที่กีดขวางทางระบายน้ำขึ้นมา

นางสาวดุสิตธร ทิวะกะลิน ประธานชุมชนคนรักถิ่น กล่าวว่า หลังจากพิธียกเสาเอกในวันนี้แล้ว ชาวบ้านก็จะเริ่มก่อสร้างบ้านทันที โดยจะเริ่มจากงานฐานราก การเทพื้นคอนกรีต หลังจากนั้นจึงจะขึ้นโครงสร้างเพื่อก่อสร้างบ้านต่อไป คาดว่าเฟสแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นจะสร้างบ้านในเฟสต่อไปจำนวนประมาณ 30 หลัง และจะทยอยก่อสร้างต่อไปเป็นเฟสๆ รวมทั้งหมด 104 หลัง

“ส่วนเรื่องสัญญาเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์นั้น เครือข่ายพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมคูคลอง จะรวมตัวกันไปทวงสัญญาเช่าจากกรมธนารักษ์ในเร็วๆ นี้ เพราะทางกรมธนารักษ์ พอช. และกทม.ก็ได้ลงนามร่วมกันไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเรื่องการให้เช่าที่ดินเพื่อสร้างบ้านมั่นคง ทางผู้บัญชาการทหารบกที่ลงมาดูข้อมูลชุมชนริมคลองเมื่อเร็วๆ นี้ ท่านก็ได้บอกว่าให้สำนักการระบายน้ำกำหนดแนวสร้างเขื่อนให้ชัดเจน และให้ชาวบ้านเดือดร้อนน้อยที่สุด แม้คลองจะกว้างเพียง 10-20 เมตร ก็ให้สร้างเขื่อนให้ได้ ไม่จำเป็นต้องให้แนวเขื่อนกว้าง 38 เมตรเท่ากันทั้งหมด โดยเฉพาะที่ชุมชนคนรักถิ่น ชาวบ้านก็ได้รื้อย้ายบ้านออกจากคลองแล้ว และเหลือความกว้างให้สร้างเขื่อนได้ไม่น้อยกว่า 25 เมตร ดังนั้นกรมธนารักษ์จึงควรทำสัญญาเช่าที่ดินให้ชาวบ้าน เพื่อให้การก่อสร้างบ้านเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว” ประธานชุมชนคนรักถิ่นกล่าว

สำหรับบ้านที่จะก่อสร้างมีทั้งหมด 4 แบบ คือ 1.บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 15 ตารางวา จำนวน 69 หน่วย, 2.บ้านแฝดแบบ A, จำนวน 4 หน่วย, 3. บ้านแฝดแบบ B ขนาด 12.5 ตารางวา จำนวน 4 หน่วย, และ 4. บ้านตึกแถว 2 ชั้น ขนาด 11 ตารางวา จำนวน 63 หน่วย รวมทั้งหมด 140 หน่วย (ออกแบบเผื่อไว้สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมภายหลัง) สมาชิกสามารถเลือกแบบบ้านได้ตามความเหมาะสมของอาชีพ จำนวนสมาชิก และรายได้ของครอบครัว
บ้านมั่นคงริมคลองบางบัวเขตหลักสี่
ชุมชนคนรักถิ่นตั้งอยู่ริมคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่ มีบ้านเรือนทั้งหมดจำนวน 140 ครัวเรือน ประชากรทั้งหมดประมาณ 700 คน สภาพชุมชนมีลักษณะแออัด ขนานไปกับแนวคลองเปรมประชากร ปลูกสร้างด้วยไม้และคอนกรีต สภาพทรุดโทรม ที่ดินที่ชาวบ้านอยู่อาศัยเป็นที่ดินที่กรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแล เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 9 ไร่เศษชาวบ้านรุ่นแรกๆ ที่เข้ามาอยู่อาศัยที่นี่เริ่มตั้งแต่ปี 2490 มีประมาณ 20 ครัวเรือน ส่วนใหญ่มาจากอยุธยาและปทุมธานี มีอาชีพทำนาและทำอิฐมอญ ภายหลังความเจริญเข้ามา อาชีพดังกล่าวจึงค่อยๆ สูญไป

ชุมชนคนรักถิ่นจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ในปี 2547 มีสมาชิกเริ่มแรก 114 ราย กำหนดออมครัวเรือนละ 100 บาทต่อเดือน ปัจจุบันมีเงินออมรวมกันประมาณ 1.2 ล้านบาท มีสมาชิกจำนวน 104 ราย มีกรรมการ 9 คน ซึ่งจากการจัดทำโครงการบ้านมั่นคงตามแนวทางของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช.นั้น ทางชุมชนได้รับงบประมาณสนับสนุนการก่อสร้างสาธารณูปโภคจาก พอช.ประมาณ 7 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวนี้จะนำมาสร้างถนนภายในชุมชน ระบบไฟฟ้า ประปา บ่อบำบัดน้ำเสียรวม ที่ทำการสหกรณ์เคหสถาน สวนหย่อม ศาลาเอนกประสงค์ และที่จอดรถรวม รวมพื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่ 2 งาน 44 ตารางวา ซึ่งทางชุมชนจะทำสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ระยะเวลา 30 ปี อัตราปีละ 18 บาท/ตารางวา

ด้านสินเชื่อจะขอใช้สินเชื่อจากทาง พอช. รวมทั้งหมดประมาณ 29 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 บาท/ปี ผ่อนชำระคืนภายใน 15 ปี ในอัตราการผ่อนประมาณเดือนละ 2,000 บาทต่อครอบครัว ส่วนเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของสมาชิกนั้น จะดูจากเงื่อนไขต่างๆ เช่น การประเมินวัสดุก่อสร้างที่จะนำกลับมาใช้ได้หลังจากการรื้อถอนบ้าน ประวัติการออมทรัพย์ การเข้าร่วมกิจกรรมชุมชน ความสามารถในการผ่อนชำระคืน ฯลฯ

ด้านการก่อสร้างนั้น นางสาวดุสิตธร กล่าวว่า ชุมชนแบ่งคณะทำงานออกเป็น 4 ฝ่าย คือ 1.ทีมช่าง 2.ทีมข้อมูล 3.ทีมสังคม และ 4.ทีมบริหารจัดการ ซึ่งในระหว่างที่ทำการก่อสร้างก็จะแบ่งการทำงานออกไปอีก เช่น มีทีมสาธารณูปโภค ทีมจัดซื้อ ทีมตรวจรับวัสดุ ทีมตรวจงานก่อสร้าง ฯลฯ นอกจากนี้ก็ยังมีการตรวจสอบเนื้องาน/ตรวจรับงวดงาน โดยให้เจ้าของบ้าน ตัวแทนกลุ่มย่อย ทีมช่างชุมชน และทีมช่างเครือข่ายฯ เข้ามาร่วมตรวจสอบ เพื่อให้การก่อสร้างบ้านของชาวชุมชนคนรักถิ่นมีความโปร่งใส ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้ถูกต้องและคุ้มค่ามากที่สุด
ชุมชนคนรักถิ่น
นายกิตติชัย เรืองมาลัย ประธานชุมชนแจ้งวัฒนะซอย 5 ริมคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่ กล่าวว่า ขณะนี้ชุมชนกำลังเริ่มก่อสร้างบ้านเฟสแรกจำนวน 9 หลัง โดยจะเริ่มจากงานฐานราก การเทพื้นคอนกรีต หลังจากนั้นจึงจะเริ่มสร้างบ้าน โดยใช้วัสดุสำเร็จรูปนำมาประกอบเป็นบ้าน หรือบ้านแบบน็อคดาวน์ที่ชุมชนจ้างบริษัทรับเหมาให้นำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งจะทำให้การก่อสร้างบ้านเสร็จรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 45 วัน ซึ่งหากเป็นไปตามแผนงาน ภายในเดือนมีนาคมนี้การก่อสร้างบ้านเฟสแรกก็จะแล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะทยอยก่อสร้างบ้านในเฟสต่อไป รวมทั้งหมดจำนวน 93 หลัง รูปแบบเป็นบ้านแถว 2 ชั้น ขนาด 4 X 6 ตารางเมตร โดยได้รับสินเชื่อจาก พอช.ประมาณหลังละ 300,000 บาท นอกจากนี้ยังมีเงินสนับสนุนสาธารณูปโภคหลังละ 35,000 บาท และอุดหนุนที่อยู่อาศัยอีกหลังละ 20,000 บาท

นายสยาม นนท์คำจันทร์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการฯ จะจัดอบรมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการมวลชนสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องการจัดระเบียบและพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองในระหว่างวันที่ 20-22 มกราคมนี้ ที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยมีวิทยากรหลายคน เช่น พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ วิชารยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย, นพ.พีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัด กทม. ฯลฯ โดยมีพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. เป็นประธาน หลังจากนั้นจึงจะส่งเจ้าหน้าที่เหล่านี้ลงไปทำงานสร้างความเข้าใจในพื้นที่ชุมชนริมคลองลาดพร้าวที่จะมีการสร้างเขื่อนระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมและการสร้างบ้านมั่นคงรองรับชาวบ้าน

“ชุดปฏิบัติการจะประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จาก พอช. ผู้นำชุมชน สำนักงานเขต ตำรวจ และทหาร รวมทั้งหมด 5 ชุด ชุดละ 25 คน เพื่อสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านเรื่องความจำเป็นในการพัฒนาพื้นที่ริมคลอง ซึ่งนอกจากจะมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ แล้ว ยังสามารถพัฒนาพื้นที่ริมคลองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีเส้นทางขี่จักรยานเลียบคลองจากเขตห้วยขวางไปถึงเขตสายไหมระยะทางกว่า 25 กิโลเมตร มีการเดินเรือในคลองเพื่อเชื่อมเส้นทางคมนาคมกับรถยนต์และรถไฟฟ้า ขณะที่ชาวบ้านก็จะมีโอกาสพัฒนาที่อยู่อาศัย เปลี่ยนจากการบุกรุกเป็นการเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์อย่างถูกกฎหมายระยะยาวไม่ต่ำกว่า 30 ปี โดย พอช.จะสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในการสร้างบ้านใหม่ รวมทั้งจะมีการส่งเสริมอาชีพของชาวบ้านตามแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาลด้วย” นายสยาม กล่าว
วัดแนวเขื่อน
สำหรับการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงริมคลองในปี 2559 จะเริ่มดำเนินการในคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรก่อน จำนวน 26 ชุมชน รวม 3,810 ครัวเรือน ใช้งบ 1,401 ล้านบาทเศษ ส่วนพื้นที่ที่จะดำเนินการอยู่ในเขตสายไหม ดอนเมือง จตุจักร หลักสี่ บางเขน ห้วยขวาง วังทองหลาง และลาดพร้าว คาดว่าจะเริ่มรื้อย้ายบ้านเรือนและก่อสร้างบ้านใหม่ภายในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ส่วนการสร้างเขื่อนคอนกรีตระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมของสำนักการระบายน้ำ กทม.คาดว่าจะเริ่มได้ภายในเดือนมกราคมนี้ รวมระยะทางทั้งหมด (ทั้ง 2 ฝั่ง) 45 กิโลเมตร ระยะเวลาก่อสร้าง 1,260 วัน งบประมาณรวม 1,645 ล้านบาท
แบบบ้านชุมชนแจ้งวัฒนะ
กำลังโหลดความคิดเห็น