ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อธิบดีกรมธนารักษ์นำคณะลงพื้นที่ตรวจดูทำเลที่ตั้งที่ดินราชพัสดุ 2 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 9 ไร่ ย่านช้างคลาน ติดโรงเรียนเรยีนาฯ กลางเมืองเชียงใหม่ เบื้องต้นเตรียมพัฒนาพื้นที่แปลงแรก 7 ไร่กว่า เพื่อก่อสร้างคอนโดมิเนียม 6 อาคาร รวมประมาณ 600 หน่วย สนองนโยบายรัฐบาลในการจัดหาที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย เผยเร่งออกแบบและคัดเลือกเอกชนเข้าลงทุนให้ได้ภายในไตรมาสแรกปี 59 นี้
วันนี้ (15 ม.ค. 59) นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ นำคณะลงพื้นที่ตรวจที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชม.25 เนื้อที่ 2 ไร่ 17 ตารางวา และแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชม.1698 เนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวา รวมเนื้อที่ 9 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา ที่ตั้งอยู่ระหว่าง โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1(เชียงใหม่) บนถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางกรมธนารักษ์เตรียมที่จะทำการพัฒนาที่ดินราชพัสดุดังกล่าวเพื่อจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้ อธิบดีกรมธนารักษ์เปิดเผยว่า ที่ดินราชพัสดุทั้ง 2 แปลง รวมเนื้อที่ 9 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา มีมูลค่าที่ดินตามราคาประเมินกว่า 168 ล้านบาท โดยแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชม.25 เนื้อที่ 2 ไร่ 17 ตารางวา มีราคาตารางวาละ 54,000 บาท รวมมูลค่าที่ดิน 44,118,000 บาท ส่วนแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชม.1698 เนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวา มีราคาตารางวาละ 44,000 บาท รวมมูลค่าที่ดิน 124,640,000 บาท ซึ่งขณะนี้ทางกรมธนารักษ์เตรียมที่จะทำการพัฒนาที่ดินดังกล่าวเพื่อจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายของรัฐบาล
โดยเบื้องต้นจะทำการพัฒนาที่ดินแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชม.1698 เนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวาก่อน ส่วนแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชม.25 เนื้อที่ 2 ไร่ 17 ตารางวา จะมีการพิจารณาในลำดับต่อไป ทั้งนี้โครงการจัดทำที่อยู่อาศัยดังกล่าวกำหนดจะทำการก่อสร้างเป็นอาคารชุดหรือคอนโดมีเนียม 6 หลัง รวมทั้งสิ้นประมาณ 480-600 หน่วย แต่ละหน่วยมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 32 ตารางเมตร และมีราคาขายหน่วยละประมาณ 600,000 บาท ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้จะเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่มีรายได้น้อย เนื่องจากที่ดินแปลงนี้อยู่ในเขตสีน้ำเงินของผังเมืองที่กำหนดการใช้ประโยชน์เพื่อสถาบันราชการ การศาสนา การศึกษาและการสาธารณูปโภค
สำหรับการลงทุนจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยดังกล่าวนั้น อธิบดีกรมธนารักษ์ระบุว่า เบื้องต้นกำหนดว่าอาจจะให้เป็นการลงทุนโดยผู้ประกอบการเอกชนที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับสิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าวระยาว 30 ปี แล้วทำการก่อสร้างตามแบบที่กรมธนารักษ์ออกแบบหรือพัฒนาแบบให้ดีกว่า ซึ่งกระบวนการออกแบบและพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการเอกชนที่มีความเหมาะสมที่สุดนั้น จะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 นี้ ส่วนการก่อสร้างคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี