xs
xsm
sm
md
lg

พม.เตรียมส่งทีมมวลชนสัมพันธ์ลงพื้นที่ รับ กทม.สร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมคลองลาดพร้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสมพร ใช้บางยาง
MGR online - กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พม. เปิดอบรมชุดปฏิบัติการมวลชนสัมพันธ์ ก่อนลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านชุมชนริมคลองลาดพร้าวและเปรมประชากร 26 ชุมชน 3,810 ครัวเรือน ที่มีกำหนดรื้อย้ายบ้านเรือนออกภายในเดือนมีนาคม - เมษายน นี้ รับแผน กทม. นำร่องเริ่มสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมหลังเซ็นสัญญากับบริษัทผู้รับเหมา 1,600 ล้านบาท ด้าน พอช. เตรียมที่ดินทหาร, รฟม. และอาคารชุดเป็นที่พักชั่วคราวของชาวบ้านระหว่างรื้อย้ายและสร้างบ้านใหม่

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2559 นายสมพร ใช้บางยาง ประธานคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมชุดปฏิบัติการมวลชนสัมพันธ์แก้ไขปัญหาชุมชนริมคลอง ที่ห้องประชุมกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 100 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สำนักการระบายน้ำ กทม. เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมจากเขตต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่ชุมชนริมคลอง และผู้นำชุมชนริมคลอง

นายสมพร กล่าวว่า โครงการอบรมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นหลักสูตรที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำลำน้ำสาธารณะและการจัดระเบียบชุมชนริมคลอง โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย 3 ปี (พ.ศ. 2559 - 2561) แล้ว และเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง ระหว่างสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กรมธนารักษ์ และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ชาวชุมชนได้เช่าที่ดินริมคลองจากกรมธนารักษ์เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยเป็นระยะเวลา 30 ปี เป็นการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ร่วมกันพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

นางวาสนา ศิลป์เบ็ญจพร ผู้อำนวยการกองระบบคลอง สำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวถึงแผนการบริหารจัดการน้ำและการสร้างเขื่อนริมคลองลาดพร้าวว่า รัฐบาลมีนโยบายการสร้างเขื่อนระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในลำคลองสายหลักในกรุงเทพฯ รวม 9 คลอง แต่จะดำเนินการในคลองลาดพร้าว เพื่อเป็นโครงการนำร่องก่อน เริ่มจากอุโมงค์เขื่อนยักษ์พระราม 9 บริเวณปากคลองลาดพร้าว เขตห้วยขวาง ไปทางประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ เขตสายไหม มีความยาวประมาณ 22 กิโลเมตรเศษ รวมความยาวของเขื่อนทั้ง 2 ฝั่งประมาณ 45 กิโลเมตร โดย กทม. ได้ลงนามในสัญญาจ้างกับบริษัทรับเหมาไปแล้วเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา งบประมาณรวม 1,645 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมด 1,260 วัน โดยบริษัทรับเหมาจะเริ่มก่อสร้างเขื่อนในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของชุนชนน้อยก่อน ระยะความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 20 % ของความยาวเขื่อนทั้งหมด ส่วนที่เหลือทางสำนักการระบายน้ำจะประสานกับทาง พอช.ว่าชุมชนใดที่พร้อมจะรื้อย้ายเพื่อสร้างเขื่อนต่อไป

“หากการสร้างเขื่อนระบายน้ำในคลองลาดพร้าวแล้วเสร็จ จะช่วยให้การระบายน้ำจากทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ เป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ กทม.จะเสนองบประมาณเพื่อก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำในคลองเปรมประชากรขึ้นมาด้วย ส่วนอุโมงค์ระบายน้ำคลองบางซื่อกำลังก่อสร้าง ซึ่งหากอุโมงค์ทั้ง 2 สองแห่งแล้วเสร็จจะช่วยระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในกรุงเทพฯ โดยน้ำจากทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ จะไหลลงสู่คลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าวผ่านอุโมงค์เขื่อนยักษ์ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อออกทะเลต่อไป” ผู้อำนวยการกองระบบคลอง กล่าว

สำหรับโครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเพื่อป้องกันน้ำท่วมในช่วงแรก (พ.ศ. 2559 - 2561) ประกอบด้วย การก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตและประตูระบายน้ำในคลองลาดพร้าว (คลองบางบัว - คลองถนน - คลองสอง) จากอุโมงค์เขื่อนยักษ์พระราม 9 - รามคำแหง ไปยังประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ เขตสายไหม เพื่อระบายน้ำลงทะเลโดยจะสร้างเป็นเขื่อนคอนกรีต คสล. ความยาว 40,000 เมตร และ 5,300 เมตร รั้วเหล็กกันตกความยาว 43,000 เมตร และประตูระบายน้ำ 1 แห่ง ระยะเวลาก่อสร้าง 1,260 วัน งบประมาณจำนวน 2,426 ล้านบาทเศษ โดยบริษัท ริเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ประมูลงานได้ในวงเงิน 1,645 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างเขื่อนในช่วงแรกความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร ในพื้นที่ริมคลองเขตห้วยขวาง วังทองหลาง และลาดพร้าวได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
นายสยาม นนท์คำจันทร์
นายสยาม นนท์คำจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 - 22 มกราคม 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้วิธีการทำงานมวลชน หลังจากนั้น ผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมดจะลงพื้นที่ชุมชนริมคลองลาดพร้าวเพื่อสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านกรณีการสร้างเขื่อนระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมของ กทม. และแผนงานด้านที่อยู่อาศัยรองรับชาวบ้านที่จะต้องรื้อย้ายบ้านเรือนออกจากแนวคลองและแนวสร้างเขื่อน ซึ่งตามแผนงานบริษัทรับเหมาจะเริ่มก่อสร้างเขื่อนภายในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนการรื้อย้ายชุมชนและก่อสร้างบ้านจะเริ่มในเดือนมีนาคม - เมษายน นี้

“ตอนนี้ทาง พอช. ได้เจรจากับหน่วยงานเจ้าของที่ดินเพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้แก่ชาวบ้านในระหว่างที่รื้อย้ายและก่อสร้างบ้านใหม่ เช่น ที่ดินของทหารบริเวณกองพลทหารราบที่ 11 เขตบางเขน ที่ดินของรถไฟฟ้ามหานครย่านพระรามเก้า และอาคารชุดของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ กระทรวงการคลัง ทั้งหมดนี้สามารถรองรับชาวบ้านได้ประมาณ 1,000 ครอบครัว” นายสยาม กล่าวและว่า หากเป็นไปตามแผนงานการก่อสร้างบ้านและชุมชนใหม่จะแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี 2559 นี้

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ พอช. ได้จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองตามโครงการบ้านมั่นคง เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล ระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2559 - 2561) มีเป้าหมาย 74 ชุมชน รวม 11,004 ครัวเรือน มีผู้รับผลประโยชน์ 64,869 คน ใช้งบประมาณรวม 4,061 ล้านบาทเศษ แยกเป็น 1. งบสนับสนุนสาธารณูปโภคและที่อยู่อาศัย 880 ล้านบาท 2. ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและเสียโอกาส 880 ล้านบาท 3.สนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 2,200 ล้านบาท และ 4. สำรวจและจัดทำฐานข้อมูลเพื่อพัฒนาองค์กรชาวบ้าน และติดตามประเมินผล 100 ล้านบาท โดยในปี 2559 จะเริ่มดำเนินการในคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรก่อน จำนวน 26 ชุมชน รวม 3,810 ครัวเรือน ใช้งบ 1,401 ล้านบาทเศษ ส่วนพื้นที่ที่จะดำเนินการอยู่ในเขตสายไหม ดอนเมือง จตุจักร หลักสี่ และห้วยขวาง
ทหารร่วมอบรมทีมมวลชนสัมพันธ์
กำลังโหลดความคิดเห็น