xs
xsm
sm
md
lg

“หมอวิชัย” ชี้ นายกฯ ขอโทษบอร์ด สสส.สัญญาณดี เอ็นจีโอขอคืนตำแหน่งคนถูกปลด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“หมอวิชัย” ชี้ นายกฯ ขอโทษบอร์ด สสส. เป็นสัญญาณดี เผยยังไม่พบกระบวนการแทรกแซงสรรหาบอร์ดใหม่ “ภาคประชาสังคม” แนะคืนตำแหน่งบอร์ด สสส. ช่วยคำขอโทษนายกฯ เป็นรูปธรรม

วันนี้ (16 ม.ค.) นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตรองประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (บอร์ด สสส.) คนที่ 2 กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี จะมีการออกคำสั่งวันที่ 18 ม.ค. นี้ ให้ สสส. สามารถดำเนินการจัดประชุมบอร์ด สสส. ได้ และขอโทษกรณีออกคำสั่งปลด 7 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. ว่า ตนยังไม่มีโอกาสได้ฟังคำสัมภาษณ์ทั้งหมดของนายกฯ แต่เข้าใจว่า การที่นายกฯ กล่าวขอโทษผู้อาวุโส น่าจะหมายถึง ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และระบุถึงการปลดกรรมการทั้ง 7 ท่าน ทำให้การดำเนินงานของ สสส. ต้องหยุดชะงัก เพราะไม่สามารถประชุมบอร์ดได้ เนื่องจากองค์ประกอบไม่ครบ ดังนั้น จึงต้องดำเนินการให้ สสส. จัดประชุมได้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณและเป็นจุดตั้งต้นที่ดี โดยส่วนตัวแล้วก็หวังที่จะทำอย่างไรให้ สสส. กลับมาทำงานได้ตามปกติตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย คงต้องติดตามกันต่อไป

นพ.วิชัย กล่าวถึงกระแสข่าวมีกระบวนการแทรกแซงการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ว่า โดยกระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้น ถ้าดูตามคำสั่ง ม.44 กำหนดชัดว่า กระบวนการสรรหาให้เป็นไปตามผู้มีอำนาจหน้าที่สรรหาตามระเบียบที่กำหนดไว้เดิม ซึ่งระเบียบฯ ของ สสส. กำหนดองค์ประกอบของกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ไว้ชัดเจน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนภาคี ผู้แทนเจ้าหน้าที่ และบุคลากรต่าง ๆ ตามองค์กรประกอบกำหนด อีกทั้งหากดูจากขั้นตอนการสรรหาผู้จัดการกองทุน สสส. เพื่อดำรงตำแหน่งแทน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ อดีตผู้จัดการ สสส. ที่ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วนั้น เท่าที่ตนได้ติดตามก็ไม่พบว่ามีกระบวนการที่พยายามแทรกแซงแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีคำสั่งให้คืนตำแหน่งให้กรรมการ สสส. ที่ถูกปลดจะกลับมาดำรงตำแหน่งหรือไม่ นพ.วิชัย กล่าวว่า คงตอบแทนกรรมการคนอื่นไม่ได้ เนื่องจากบางท่านก็เสียความรู้สึกไปแล้ว และการกลับมาอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนอีก สำหรับตัวเองมองว่า ต้องคิดถึงประโยชน์ของคนส่วนมาก และเน้นให้งานเดินหน้าได้ ซึ่งก่อนหน้าจะมีคำสั่งมาตรา 44 บอร์ด สสส. มีมติปรับปรุงระเบียบ และกำหนดให้กรรมการในบอร์ด สสส. เลือกนั่งตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ระหว่างบอร์ดฯ หรือมูลนิธิฯ ซึ่งตนทำงานหลายที่ พิจารณาแล้วว่าควรออกจาก สสส. ดีกว่า แต่มาตรา 44 ออกคำสั่งมาก่อน อย่างไรก็ตาม หากต้องกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม มองว่าอาจเข้าไปช่วยให้งานเดินหน้าต่อไป แต่ตนก็จะแสดงเจตนารมณ์ลาออกจากบอร์ดอยู่ดี แต่ความเป็นจริงอาจไม่มีคำสั่งแบบนี้ก็ได้ เพราะข่าวก็ยังสับสนอยู่ว่า ตกลงนายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งให้เดินหน้ารูปแบบใดกันแน่

นายวันชัย บุญประชา เลขานุการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า ตนขอชื่นชมนายกฯ ที่กล้าหาญในการออกมาขอโทษ ซึ่งโดยปกติแล้วจะเห็นผู้นำน้อยมาก เมื่อรู้สึกว่าตนเองทำอะไรพลาดไปแล้วจะออกมาขอโทษ แต่สิ่งที่จะต้องติดตามกันต่อไป คือ นายกฯ จะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปจัดการแก้ไขได้หรือไม่ เนื่องจากนายกฯ ระบุว่าไม่พบการทุจริต ดังนั้นเพื่อให้คำขอโทษของนายกฯ เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ควรดำเนินการคืนตำแหน่งให้แก่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ สสส. เพราะ สสส.ได้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องไม่ให้ผู้มีตำแหน่งอยู่ในองค์กรที่รับทุน สสส. เข้ามาเป็นคณะกรรมการกองทุนฯ ไปแล้ว ดังนั้น ควรคืนตำแหน่งท่านได้ตัดสินใจเองว่าจะลาออกจากกรรมการฯ สสส. หรือมูลนิธิ เพราะต้องถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละท่าน รวมทั้งขอให้สั่งการให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) ยกเลิกการชะลอการดำเนินงานของ สสส. ด้วย

“ภาคประชาสังคมขอชื่นชมท่านนายกฯ และจะติดตามว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการดำเนินงานให้คำพูดของท่านนายกฯ เกิดเป็นรูปธรรมหรือไม่ ซึ่งการที่จะปฏิรูป สสส. ให้เป็นเครื่องมือของสังคมอย่างแท้จริงนั้น ต้องเปิดเวทีให้ประชาชน หน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันสร้างสรรค์ ไม่ใช่เพียงแต่คนในระบบราชการ เพราะ สสส. เป็นองค์กรนวัตกรรมทางสุขภาพ ตั้งขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดทางราชการในการทำงานด้านสุขภาพ ไม่ควรมองต้องอคติหรือจับผิด แต่ควรเปิดให้ประชาชนมาช่วยกันปฏิรูป” นายวันชัย กล่าว และว่า ในส่วนของประเด็นภาษีซึ่งเป็นความเดือดร้อนของภาคีฯ ขอฝากให้ สสส. เร่งหารือร่วมกับกรมสรรพากรเพื่อหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น