หัวหน้า คสช.ออกคำสั่ง 93/2557 ยกโทษปลดออกจากราชการ พล.ต.อ.พัชรวาท อดีต ผบ.ตร.ชี้ทำตามคําพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่พิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งลงโทษ เผยศึกยืดเยื้อข้ามมา หลัง ป.ป.ช.ฟันอาญา-วินัยร้ายแรงยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เจ้าตัวพยายามดิ้น หวั่นมีประวัติด่างพร้อยจนชนะคดี
วันนี้ (24 ก.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนพิเศษ 139 ง วันที่ 23 ก.ค. 2557 ได้ตีพิมพ์คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 93/2557 เรื่องยกโทษปลดออกจากราชการ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ระบุว่า โดยที่ศาลปกครองกลางได้มีคําพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 99/2554 ลงวันที่ 28 ก.พ. 2557 ให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับแจ้งมติของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในการประชุมครั้งที่ 17/2552 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2552 และครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2553 ที่ให้สั่งยกโทษปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ออกจากราชการตามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ 228/2552 ลงวันที่ 19 ต.ค. 2552 ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คําพิพากษาถึงที่สุดนั้น
เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลปกครองกลางซึ่งถึงที่สุดข้างต้น หัวหน้า คสช. ในฐานะผู้ใช้อํานาจนายกรัฐมนตรี ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 10/2557 เรื่อง ให้อํานาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เป็นอํานาจหน้าที่ของหัวหน้า คสช. ลงวันที่ 22 พ.ค. 2557 จึงอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 72 (1) และมาตรา 105 แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ประกอบกับข้อ 18 (2) (ง) ข้อ 21 และข้อ 23 แห่งกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. 2547 มีคําสั่งให้ยกโทษปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากราชการตามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ ที่ 228/2552 ลงวันที่ 19 ต.ค. 2552 ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 17 ก.ค. 2557 ลงชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.
อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งลงโทษปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากราชการ ตามมติ ก.ตร.ภายใน 60 วันนับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด หลัง พล.ต.อ.พัชรวาทยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ละเลยต่อหน้าที่ไม่ดำเนินการเพิกถอนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 228/2552 ลงวันที่ 19 ต.ค. 2552 ซึ่งลงโทษปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ทั้งที่ ก.ตร. ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 17/2552 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2552 ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทไม่ได้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้สั่งยกโทษ กรณีผู้ฟ้องคดีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปราบปรามผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กำลังชุมนุมในพื้นที่บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 พล.ต.อ.พัชรวาท ได้มีหนังสือหลายฉบับให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามมติ ก.ตร.ดังกล่าวแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้ดำเนินการแต่อย่างใด ทำให้ผู้ฟ้องคดีเดือดร้อนเสียหาย
สำหรับ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นน้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (บิ๊กป้อม) ประธานที่ปรึกษา คสช. และเป็นพี่ใหญ่แห่งนายทหารบูรพาพยัคฆ์ ที่ผ่านมาเคยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปราบปรามผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กำลังชุมนุมในพื้นที่บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 ซึ่งพบว่าตำรวจมีการใช้แก๊สน้ำตาแบบยิง และตำรวจจงใจยิงใส่ผู้ชุมนุมโดยตรงซึ่งผิดหลักการสากล ทำให้ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิต มีผู้บาดเจ็บและพิการจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2552 โดย พล.ต.อ.พัชรวาทมีมูลความผิดทางอาญา และความผิดวินัยร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 79 กระทั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี หลังการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ผ่านไป 2 วัน แต่เจ้าตัวได้ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าต้องการพักผ่อน
ต่อมา พล.ต.อ.พัชรวาทได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. พร้อมกับ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.ภ.อุดรธานี กระทั่งวันที่ 12 ก.พ. 2553 ที่ประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 2/2553 รับรองมติที่ ก.ตร. รับอุทธรณ์ พล.ต.อ.พัชรวาท, พล.ต.ท.สุชาติ และพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กลับเข้ารับราชการตามเดิม โดย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. (ในขณะนั้น) ให้เรียกตัว พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กลับเข้ารับราชการตามเดิม ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องส่งเรื่องให้นายอภิสิทธิ์ แต่นายอภิสิทธิ์ได้ส่งเรื่องสอบถามกลับมายัง ก.ตร. และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทั่งกฤษฎีกายืนยันกลับไปว่านายอภิสิทธิ์ต้องปฏิบัติตามมติ ก.ตร. นายอภิสิทธิ์จึงสอบถามกลับไปที่ ป.ป.ช.อีกครั้ง กระทั่งหลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบสภา พล.ต.อ.พัชรวาท ตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อให้พิพากษายกเลิกคำสั่งปลด และให้นายกฯ เร่งคืนตำแหน่ง เนื่องจากมีผลทางประวัติการทำงาน กระทั่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งดังกล่าว แต่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้ดำเนินการ กระทั่งในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้า คสช. นั้นจึงได้ดำเนินการคืนตำแหน่ง ผบ.ตร.ให้ พล.ต.อ.พัชรวาทในที่สุด