มาเลเซีย - เกาหลีใต้ ชู สสส. ไทยต้นแบบทำงานสร้างเสริมสุขภาพของเอเชีย ตรงกรอบสากลงานสร้างเสริมสุขภาพตามกฎบัตรออตตาวา ชี้ ปัญหาสังคมมีหลายมิติ ขอผู้นำประเทศให้ความสำคัญ เชื่อก้าวผ่านข้อขัดแย้ง ช่วยแก้ปัญหาสุขภาพและสังคมที่ซับซ้อน
ตันสรี ดร.นาเซีย บิน โหมด อาชรัฟ (Tansri Dr. Nasir bin Mohd Ashraf) ประธานคณะกรรมการบริหาร สสส. มาเลเซีย (MySihat) กล่าวภายหลังการศึกษาเรียนรู้การดำเนินงานของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อวันที่ 26 - 27 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า ตนทราบกระแสข่าวการตรวจสอบการทำงานของ สสส. ไทย และการพยายามจำกัดขอบเขตการทำงานให้เป็นเพียงเรื่องเหล้า บุหรี่ ซึ่งตนมองว่า การทำงานของ สสส. ไทย ทำถูกต้องแล้วที่สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพของคนไทยให้เป็นไปตามกฎบัตรออตตาวา 5 ประการ ที่เน้นสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวมทั้งในระดับบุคคลและสังคม สสส. ไทย มีกลไกและวิธีการทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคประชาสังคม และชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นจุดเด่นและเป็นต้นแบบรูปธรรมการทำงานที่ MySihat ตั้งใจมาเรียนรู้ พร้อมร่วมแบ่งปันผลงานเด่นของทั้ง 2 องค์กร เพื่อต่อยอดความร่วมมือทั้งในระดับอาเซียนและนานาชาติต่อไป ซึ่งปัจจุบัน สสส. ไทย เป็นแหล่งเรียนรู้องค์กรสร้างเสริมสุขภาพต้นแบบที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
“โครงการต่าง ๆ ของ สสส. นับเป็นผลลัพธ์เชิงประจักษ์ที่ชี้ชัดประสิทธิภาพการทำงานของ สสส. ไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมามาเลเซียได้มีโอกาสเรียนรู้การทำงานของ สสส. ไทยตั้งแต่ปี 2552 จนสามารถก่อตั้งเป็นองค์สร้างเสริมสุขภาพ MySihat ได้สำเร็จ นำไปสู่การขับเคลื่อนโครงการเมืองปลอดบุหรี่ เริ่มจากเมืองประวัติศาสตร์มะละกาในปี 2553 จนปัจจุบันครอบคลุมหลายเมืองในทุกรัฐของประเทศมาเลเซีย ซึ่งโครงการพื้นที่ปลอดบุหรี่ก็ได้แนวคิดมาจาก สสส. ไทย ที่มีการสนับสนุนเมืองให้มีผลทางปฏิบัติจากกฎหมายพื้นที่สาธารณะปลอดบุหรี่ 100%” ประธานคณะกรรมการบริหาร สสส. มาเลเซีย กล่าว
ด้าน ดร.จาง ซัค อิล (Dr.Suck IL Jang) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สสส.เกาหลีใต้ (K Health) กล่าวว่า สสส. เกาหลีใต้ มุ่งหวังที่จะเรียนรู้กระบวนการขับเคลื่อน พ.ร.บ. สสส. ของไทย เพื่อนำไปปรับปรุงกฎหมายของ สสส. เกาหลีใต้ ให้เอื้อต่อการขับเคลื่อนงานแบบมีประสิทธิภาพ เหมือนกับโครงสร้างกองทุนของ สสส. ไทย ในเวทีสร้างเสริมสุขภาพสากล สสส. ไทยถือเป็นองค์กรต้นแบบในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ทำงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพในทุกมิติ ทั้ง กาย จิต และสังคม และมีบทบาทสำคัญช่วยผลักดันให้เกิดการก่อตั้ง สสส. เกาหลีใต้จนสำเร็จ
“ผมรู้สึกแปลกใจที่ทราบว่ารัฐบาลไทยกำลังเพ่งเล็ง และตรวจสอบกรอบการทำงานของ สสส. ไทย เพราะ สสส. ไทยเป็นที่รับรู้และยอมรับไปทั่วโลกว่า ทำงานได้ตรงกับกรอบสากลของงานสร้างเสริมสุขภาพและทรงประสิทธิภาพที่สุดองค์กรหนึ่ง ผมมองว่าทั้ง สสส. ไทย และ สสส. เกาหลีใต้ สามารถขยายการทำงานออกไปได้อีกมาก เพราะปัจจุบันเราต่างกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาสังคมในหลากหลายมิติ ทั้งความขัดแย้ง ความยากจน และความไม่เท่าเทียมต่าง ๆ หากเราในฐานะผู้นำการสร้างเสริมสุขภาพ สามารถทำงานได้โดยอิสระ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้นำประเทศ ผมเชื่อว่า เราจะสามารถก้าวผ่านข้อขัดแย้งเหล่านี้ไปได้ เพราะผู้นำของทุกประเทศ คือ บุคคลสำคัญที่มีบทบาทต่อความสำเร็จของงานสร้างเสริมสุขภาพในประเทศนั้น ๆ” ดร.จาง กล่าว
ด้าน ทพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ รักษาการผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2554 - 2558 มีองค์กรสากล และผู้แทนประเทศต่าง ๆ ให้ความสนใจมาศึกษาการดำเนินงานของ สสส. ไทย ประมาณ 1,000 คน จากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยกว่าร้อยละ 80 เป็นระดับ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้บริหาร และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานระหว่างองค์กร และแสวงหาแนวทางพัฒนาความร่วมมือ เพื่อต่อยอดพัฒนางานสร้างเสริมสุขภาพของแต่ละประเทศ ส่งผลต่อสุขภาพอันดีของประชาชนไทยและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกตามทิศทางนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและของรัฐบาล
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่