xs
xsm
sm
md
lg

เปิดผลสอบ สตง.ชี้ชัด สสส.ใช้งบลดบุหรี่-เหล้า ไม่บรรลุเป้าหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เปิดผลสอบ สตง. ชี้ชัด สสส. ใช้งบไม่บรรลุวัตถุประสงค์ พบลดสูบบุหรี่ - ดื่มเหล้าไม่ได้ตามเป้าหมาย แผนหลัก 3 ปี ไม่กำหนดจำนวนเงินและวงเงินโครงการ อุดหนุนงบไม่ตรงวัตถุประสงค์ ด้านบอร์ดกำหนดทิศทาง สสส. เร่งเคลียร์โครงการรับทุน สสส. หลัง คตร. ชี้เป้าไม่ตรงวัตถุประสงค์ ตีกรอบ 3 เรื่องใช้พิจารณา พร้อมจัดทำเป็นข้อเสนอแนะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือเลขที่ ตผ 0014/4878 ถึงนายกรัฐมนตรีเรื่องการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สินปี 2557 กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงวันที่ 3 กันยายน 2558 โดยมีข้อสรุปรายงาน อาทิ 1. ผลการดำเนินการลดอัตราการสูบบุหรี่ และลดอัตราการดื่มสุราไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 2. การทำแผนหลักระยะ 3 ปี (ปี 2555 - 2557) ไม่มีรายละเอียดโครงการ คือ มีเพียงการกำหนดแผนและวงเงินงบประมาณของแต่ละแผน แต่ไม่มีการกำหนดจำนวนเงิน หรือวงเงินของโครงการที่จะดำเนินงาน ทำให้ไม่สามารถติดตามผลและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. แผนการดำเนินงานปี 2557 ไม่มีการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับแผนหลักระยะ 3 ปี 4. การอนุมัติเงินอุดหนุนโครงการ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เช่น เงินอุดหนุนโครงการสวดมนต์ข้ามปี วงเงิน 33.45 ล้านบาท พบว่า ส่วนใหญ่เป็นค้าจ้างจัดงาน และประชาสัมพันธ์ 23.19 ล้านบาท มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อกลั่นกรองทางวิชาการ จัดตั้งมูลนิธิหลายแห่ง และรับเงินอุดหนุนโครงการจาก สสส. มีการจ่ายเงินอุดหนุนโครงการเป็นค่าจ้างบุคคลที่ไม่ผ่านกระบวนการสรรหาตามระเบียบ เป็นต้น 5. การจ่ายเงินงวดแรกให้โครงการที่อุดหนุนในอัตราสูง โดยไม่มีการดำเนินงาน คือ มีการจ่ายเงินในอัตราสูงถึงร้อยละ 50 - 100 ของวงเงินอนุมัติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อเงินของรัฐ เพราะมีโครงการจำนวนมากที่ครบระยะเวลาแล้ว ไม่เสร็จตามข้อตกลง และ 6. ไม่มีรายงานและติดตามผลการดำเนินงานโครงการที่อุดหนุน

ทั้งนี้ สตง. ได้สรุปว่า จากผลการตรวจสอบดังกล่าวเห็นว่า การดำเนินการไม่บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายการอนุมัติ และการใช้จ่ายเงินที่ไม่โปร่งใสหลายรายการ ตลอดจนค่าใช้จ่ายมีแนวโน้มสูงกว่ารายได้ สตง. จึงเห็นว่า ควรทบทวนการนำส่งเงินบำรุง และนำเข้าสู่งบประมาณแผ่นดินให้มีกลไกป้องกันการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองและฝ่ายอื่น ๆ เพื่อให้การใช้จ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการบริหารจัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และกำหนดแนวทางแก้ไขให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตาม พ.ร.บ. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ว่า ที่ประชุมวางกรอบการพิจารณาใน 3 ประเด็น คือ 1. แผนงานของ สสส.ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ พ.ร.บ. หรือไม่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งในส่วนที่ทำดีก็ต้องสนับสนุน และไม่ได้มีข้อเสนอจะให้ยุบกองทุนแต่อย่างใด 2. แผนการเงิน จัดสรรเหมาะสมหรือไม่อย่างไร และ 3. แผนการบริหารจัดการกองทุน ว่าระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ สอดคล้องกับ พ.ร.บ. หรือไม่ ซึ่งจะพิจารณาตามข้อมูลที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สรุปไว้ ซึ่งมีข้อมูลอยู่แล้วว่ามีกี่โครงการ กี่แผนที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยจะเชิญ คตร. มาให้ข้อมูลเพิ่มในสัปดาห์หน้า เพื่อนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอต่อไป

นพ.เสรี กล่าวว่า เนื่องจากโครงการที่ สสส. สนับสนุนมีจำนวนมาก การพิจารณาจะดูตามกลุ่มงาน และตามโครงการที่ คตร. ได้ชี้มูล ซึ่งบางโครงการอาจจะมีทั้งผิดวัตถุประสงค์เล็กน้อยหรือมาก ซึ่งยังไม่เห็นรายละเอียด โดยการพิจารณาจะต้องฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย ซึ่งจะเชิญ สสส. มาให้ข้อมูลด้วย เพราะหาก คตร. ชี้มูลว่าผิดวัตถุประสงค์มาก แต่หาก สสส. ชี้แจงได้และมีข้อมูลเพียงพอ ก็จะนำไปสู่แนวทางการพัฒนาการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป และจะเชิญประธานคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินการกองทุนและประธานอนุกรรมการตรวจสอบภายใน ที่ทำหน้าที่ในช่วงปี 2555 - 2557 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการชี้มูลไว้มาให้ข้อมูลด้วย เมื่อได้ข้อมูลครบทุกด้านแล้วจึงจะได้ข้อสรุปเป็นแนวทางและข้อเสนอแนะให้ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ในฐานะรองประธานบอร์ด สสส. คนที่ 1 และในฐานะที่ได้รับการมอบหมายจาก คตร. นำไปสู่การตัดสินใจต่อไป

คณะกรรมการชุดนี้ ไม่ได้ตัดสินผิดหรือถูก เพียงแต่เป็นคณะกรรมการที่ทำข้อมูลให้รอบด้านเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจในระดับนโยบาย ส่วนตรวจสอบแล้วจะพบว่า อะไรเป็นขาว เป็นเทา เป็นดำ ก็ต้องมาทำความเข้าใจร่วมกันและเป็นหน้าที่ที่ นพ.ปิยะสกล จะตัดสินใจ ว่า ที่เป็นสีเทาๆ จะเดินต่อจะหยุดหรือจะปรับปรุงอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำงานได้แล้วเสร็จตามกำหนดการ 3 เดือน" นพ.เสรี กล่าวและว่า ส่วนจะมีการสั่งชะลอโครงการหรือไม่นั้น ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น