xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กต๊อก” ปัดยุบทิ้ง สสส. สรุปผลใช้งบถึงมือนายกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - รมว.ยธ.เผยยังไม่มีความคืบหน้าหลังประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องสอบการใช้งบ สสส. คาดเรียกผู้บริหารแจง 26 ต.ค. ด้าน สตง.ส่งรายงานประเมินกองทุน สสส.ถึงมือ “บิ๊กตู่” แล้ว สสส.เร่งเคลียร์โครงการรับทุน

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร สำหรับการเรียกผู้บริหาร สสส.มาชี้แจงน่าจะเป็นวันที่ 26 ต.ค.หลังตนกลับจากประเทศอินโดนีเซีย

เมื่อถามว่า จากนี้งบประมาณ สสส.ใครจะเป็นดูแล พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ไม่มี ต้องใช้ตามระเบียบบริหารราชการว่าด้วยการใช้งบประมาณแผ่นดิน เหมือนทุกงบฯ ของรัฐ ซึ่ง สตง.บอกกับตนว่าก่อนตนมาเป็น รมว.ยุติธรรมนั้นเรื่องการใช้งบฯได้เข้าไปตรวจสอบและเคยเตือน สสส.ไปหลายเรื่องแล้ว

เมื่อถามว่าแนวโน้มจะเป็นการจัดระเบียบ สสส.ใหม่ หรือยกเลิก สสส.เลย รมว.ยุติธรรมตอบว่า ยกเลิก สสส.ไม่ได้ เพราะเป็นโครงการที่ดี แต่ต้องไปดูรายละเอียดว่ามีอะไรบกพร่อง ไม่อย่างนั้นหากกระทรวงคมนาคมทุจริตแล้วยุบกระทรวงคมนาคม อย่างนั้นวุ่นตาย ส่วนการปรับโครงสร้างงบฯ สสส.ใหม่หรือไม่ เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยคุยกัน เพราะเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเลือกนางสุวณา สุวรรณจูฑะ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช.ว่า ก็ต้องมีการตั้งปลัดกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่จบ เพราะต้องดูว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะลงมติเห็นชอบหรือไม่ ถ้า สนช.รับวันนั้นตนก็ต้องมาคิดกันใหม่

เมื่อถามว่านางสุวณามีความสามารถเหมาะสมเป็นกรรมการ ป.ป.ช.หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่าตนไม่ได้เป็นคนพิจารณา เพราะคนที่พิจารณาคือกรรมการสรรหา ป.ป.ช.และ สนช.ไม่ใช่หน้าที่ตน และกระทรวงไม่ได้ส่งไป ไม่เกี่ยวกัน ตนยังบอกนางสุวณาเลยว่า “เฮ้ยปลัด ผมเพิ่งตั้งคุณมาไม่ถึงเดือน ทำไมไม่บอกผม เขาก็บอกว่าประกาศรับกรรมการป.ป.ช.มาทีหลัง นางสุวณาเลยขอโทษ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร” ขณะที่ผู้สื่อข่าวแซวถามว่า เป็นเพราะนางสุวณาเบื่อรัฐมนตรีหรือเปล่า พล.อ.ไพบูลย์หันกลับมาตอบผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า นั่นสิ

*** คตร.สอบ สสส.จบแล้ว ชงต่อ สธ.-ยธ.

พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า สำหรับการตรวจสอบในส่วนของ คตร.จบแล้ว ขณะนี้เรื่องอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงยุติธรรม โดยทั้งสองหน่วยงานกำลังนำข้อมูลจาก คตร.ไปดูว่ามีความบกพร่องอะไรบ้าง การตรวจสอบของ คตร.ที่ผ่านมานั้นก็ทำร่วมกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบว่ามีบางโครงการใช้เงินไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์

*** เอ็นจีโอ ยินดี ศอตช.เรียกตรวจสอบรับทุน สสส.

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ตรวจสอบการใช้งบประมาณสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ และจะตรวจสอบภาคีเครือข่ายที่รับทุน สสส.ด้วย ว่า เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว และทางมูลนิธิฯ ก็พร้อมให้ตรวจสอบด้วย ซึ่งมูลนิธิฯ ได้รับทุนจาก สสส.ในปี 2558 โครงการ “สายด่วน 1663” ให้คำปรึกษาผู้ป่วยหรือผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ซึ่งทำร่วมกับกรมอนามัย


นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กองทุนยังคงเดินหน้าต่อ ต้องดูว่าอะไรที่เหมาะสมก็ทำต่อ อะไรที่ยังเป็นที่สงสัยอยู่ก็ให้ชะลอเอาไว้ แต่ยังไม่ได้กำหนดและตัดสิน ส่วนเรื่องระยะเวลาการตรวจสอบกองทุน สสส.นั้นต้องเสร็จก่อน 3 เดือน ตอนนี้ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว

***เผยงบที่ถูกใช้แบบมีกังขา

มีรายงานว่า นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือเลขที่ ตผ 0014/4878 ถึงนายกรัฐมนตรีเรื่องการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สินปี 2557 กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงวันที่ 3 กันยายน 2558 โดยมีข้อสรุปรายงาน การประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน ปี 2557 กองทุน สสส. เพื่อเสนอต่อถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว ขณะที่ สสส.ได้เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงานฯ พบว่า การบริหารงานที่ผ่านมายังไม่บรรลุผลตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งและเป้าหมายตามแผน มีความไม่โปร่งใสในการดำเนินงาน และขาดการรายงานและติดตามผลของโครงการที่ได้เงินสนับสนุน

โดยพบว่า โครงการที่ไม่บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ในการอนุมัติเงินอุดหนุนโครงการ เช่น เงินอุดหนุนโครงการสวดมนต์ข้ามปี วงเงิน 33.45 ล้านบาท จัดเป็นค่าจ้างจัดงานและประชาสัมพันธ์ เป็นเงิน 23.19 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนการส่งคนไปปฏิบัติงานในองค์การอนามัยโลก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วงเงิน 3.84 ล้านบาท โดยเป็นการตามภารกิจของกรมสรรพาสามิต โดยทั้งสองโครงการไม่ได้ช่วยสร้างเสริมและสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพและการลดการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชาชนตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุน สสส.

มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ สสส. และผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อกลั่นกรองทางวิชาการ จัดตั้งมูลนิธิหลายแห่งและได้เงินอุดหนุนโครงการจากกองทุน สสส. และบางโครงการที่ได้รับเงินอุดหนุนมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติโครงการ ผู้ประสานงานโครงการ และเจ้าหน้าที่กองทุน สสส.ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานในต่างประเทศกับผู้ได้รับทุนตามโครงการ ทำให้มีข้อร้องเรียนหรือกล่าวหาในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน

มีการจ่ายเงินอุดหนุนโครงการเป็นค่าจ้างบุคคล โดยไม่ผ่านกระบวนการสรรหาตามหลักการบริหารงานบุคคล ไม่เป็นไปตามกรอบอัตรากำลังของกองทุน สสส. และบางตำแหน่งไม่เป็นไปตามตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุน สสส.

การจ่ายเงินงวดแรกให้โครงการที่อุดหนุนในอัตราสูง โดยยังไม่มีการดำเนินงาน กล่าวคือมีการจ่ายเงินในอัตราสูง 50-100% ของวงเงินที่อนุมัติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อเงินของรัฐ เนื่องจากมีโครงการดังกล่าวจำนวนมากที่ครบกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จตามข้อตกลง


“ไม่มีการรายงานและติดตามผลการดำเนินงานโครงการที่อุดหนุน โดยมีเพียงการรายงานความก้าวหน้าโครงการและสรุปปัญหาและอุปสรรคโดยผู้ประสานงานโครงการ ทำให้มีโครงการที่ครบกำหนดตามระยะเวลาการดำเนินงานแล้ว ตั้งแต่ปี 2550-2557 แต่ยังไม่สามารถปิดโครงการได้ 1,194 โครงการ”

ในรายงานยังระบุถึงผลการดำเนินงานลดอัตราการสูบบุหรี่และอัตราการดื่มสุราของคนไทยไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ในรายงานระบุว่า ตามแผนหลักระยะ 3 ปี (ปี 2555-2557) เป้าหมายในปี 2557 ต้องลดเหลือ 18.63% (ลดลง 10% จากปี 2552) แต่ผลสำรวจของสำนักงานสถิติ พบว่าปี 2556 และปี 2557 คนไทยมีอัตราการสูบบุหรี่ 19.94 และ 20.7% ตามลำดับ แสดงว่าอัตราการสูบบุหรี่ของคนไทยไม่ได้ลดลงตามเป้าหมายของ สสส.

ขณะที่อัตราการดื่มสุราของคนไทย ตามแผนหลักระยะ 3 ปี (ปี 2555 -2557) กำหนดเป้าหมายปี 2557 เหลือน้อยกว่า 28.5% แต่ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าปี 2556 และปี 2557 คนไทยมีอัตราการดื่มสุรา 32.2% และ 32.3% ตามลำดับ เทียบกับปี 2550 อยู่ที่ระดับ 30% แสดงว่ามีอัตราเพิ่มขึ้น ไม่ได้ลดลง และไม่ได้ตามเป้าหมายของ สสส.

*** สสส.เร่งเคลียร์โครงการรับทุน สสส.

นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการบริหารจัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และกำหนดแนวทางแก้ไขให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตาม พ.ร.บ. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ว่า ที่ประชุมวางกรอบการพิจารณาใน 3 ประเด็น คือ 1.แผนงานของ สสส.ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ พ.ร.บ.หรือไม่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งในส่วนที่ทำดีก็ต้องสนับสนุน และไม่ได้มีข้อเสนอจะให้ยุบกองทุนแต่อย่างใด

2.แผนการเงิน จัดสรรเหมาะสมหรือไม่อย่างไร และ 3.แผนการบริหารจัดการกองทุน ว่าระเบียบข้อบังคับต่างๆ สอดคล้องกับ พ.ร.บ.หรือไม่ ซึ่งจะพิจารณาตามข้อมูลที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สรุปไว้ ซึ่งมีข้อมูลอยู่แล้วว่ามีกี่โครงการ กี่แผนที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยจะเชิญ คตร.มาให้ข้อมูลเพิ่มในสัปดาห์หน้า เพื่อนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอต่อไป

โดยการพิจารณาจะต้องฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย ซึ่งจะเชิญ สสส.มาให้ข้อมูลด้วย เพราะหาก คตร.ชี้มูลว่าผิดวัตถุประสงค์มาก แต่หาก สสส.ชี้แจงได้และมีข้อมูลเพียงพอ ก็จะนำไปสู่แนวทางการพัฒนาการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป และจะเชิญประธานคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินการกองทุนและประธานอนุกรรมการตรวจสอบภายใน ที่ทำหน้าที่ในช่วงปี 2555-2557 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการชี้มูลไว้มาให้ข้อมูลด้วย เมื่อได้ข้อมูลครบทุกด้านแล้วจึงจะได้ข้อสรุปเป็นแนวทางและข้อเสนอแนะให้ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ในฐานะรองประธานบอร์ด สสส.คนที่ 1 และในฐานะที่ได้รับการมอบหมายจากคตร. นำไปสู่การตัดสินใจต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น