“อมรวิชช์” เผย สปช. เห็นพ้องแนวทางการพัฒนาประเทศ ชี้ต้องกระจายอำนาจสู่พื้นที่ และทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมจัดทำข้อมูลระดับพื้นที่ รวมทั้งมุ่งพัฒนาการศึกษาทุกระดับ โดยเฉพาะปฐมวัย ขอให้หน่วยงานที่มีผลงานวิจัย ร่วมหรือเสนอแนะแนวทางพัฒนาหวังนำมาเป็นข้อสรุปและทำแผนเชิงนโยบาย
นายอมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ (สสค.) และ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า จากการประชุมของสปช.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือเกี่ยวกับนโยบายของรัฐ ทั้งในด้านการบริหารจัดการท้องถิ่นพื้นที่ ด้านสาธารณสุข และ การศึกษา ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่า จะพัฒนาประเทศต้องดำเนินการ 3 เรื่องหลักๆ คือ 1. กระจายอำนาจสู่พื้นที่ท้องถิ่น โดยส่วนกลางต้องมีระบบในการกระจายอำนาจสู่ระดับท้องถิ่นอย่างชัดเจน เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากการจำกัดอำนาจอยู่ในส่วนกลางเพียงอย่างเดียวกว่าจะไปถึงท้องถิ่น ถึงโรงเรียน ถึงเด็กจริงๆ ต้องใช้เวลานาน การพัฒนาไม่มีความต่อเนื่อง และมีข้อจำกัดอีกมากมาย 2. การพัฒนาการศึกษาทุกภาคส่วน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภาครัฐ โรงพยาบาล ท้องถิ่น และโรงเรียนเท่านั้น แต่ภาคประชาสังคม และวัดต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา และ3.ชุมชนท้องถิ่นจะเข้มแข็งได้ รัฐต้องส่งเสริมให้มีการจัดทำข้อมูลเพื่อการพัฒนาระดับพื้นที่ ที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนกลางเพียงอย่างเดียว แต่ทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ต้องมีข้อมูลพื้นที่ของตนเอง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและรองรับการวางแผนต่างๆของพื้นที่ เช่น การศึกษาต้องเร่งพัฒนาข้อมูลระบบการติดตามเด็กออกกลางคัน เด็กที่ไม่มีพัฒนาการตามช่วงวัย หรือเด็กกลุ่มเสียงต่างๆ ซึ่งถ้ามีข้อมูลที่ชัดเจนก็จะนำไปสู่การช่วยเหลือเด็กได้ทันที เป็นต้น
“หลังจากนี้ สปช. จะนำข้อเสนอ ผลงานวิจัย หรือโครงการต่างๆของหน่วยงานที่มีการดำเนินการพัฒนาการศึกษาปฐมวัยอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่นโยบาย เช่น สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ (สสค.) สถาบันรามจิตติ และสถาบันราชานุกูล ที่ดำเนินงานเสริมสร้างพัฒนาการและเชาว์ปัญญาของเด็ก (ไอคิว อีคิว) ที่มีระบบสารสนเทศในการส่งต่อข้อมูลด้านสุขภาพของภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ นำร่องใน 4 จังหวัด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็จะมีการรวบรวม เพื่อนำไปจัดทำเป็นนโยบายพัฒนาการศึกษาปฐมวัย เพื่อขยายผลไปสู่หน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่าง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดังนั้น หน่วยงานใดที่มีข้อมูล หรืออยากเสนอแนะแนวทางการจัดการศึกษา พัฒนาการศึกษาปฐมวัย อยากให้มาร่วมกับ สสค. หรือเสนอมาที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปและขยายผลในเชิงนโยบายต่อไป” นายอมรวิชช์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายอมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ (สสค.) และ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า จากการประชุมของสปช.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือเกี่ยวกับนโยบายของรัฐ ทั้งในด้านการบริหารจัดการท้องถิ่นพื้นที่ ด้านสาธารณสุข และ การศึกษา ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่า จะพัฒนาประเทศต้องดำเนินการ 3 เรื่องหลักๆ คือ 1. กระจายอำนาจสู่พื้นที่ท้องถิ่น โดยส่วนกลางต้องมีระบบในการกระจายอำนาจสู่ระดับท้องถิ่นอย่างชัดเจน เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากการจำกัดอำนาจอยู่ในส่วนกลางเพียงอย่างเดียวกว่าจะไปถึงท้องถิ่น ถึงโรงเรียน ถึงเด็กจริงๆ ต้องใช้เวลานาน การพัฒนาไม่มีความต่อเนื่อง และมีข้อจำกัดอีกมากมาย 2. การพัฒนาการศึกษาทุกภาคส่วน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภาครัฐ โรงพยาบาล ท้องถิ่น และโรงเรียนเท่านั้น แต่ภาคประชาสังคม และวัดต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา และ3.ชุมชนท้องถิ่นจะเข้มแข็งได้ รัฐต้องส่งเสริมให้มีการจัดทำข้อมูลเพื่อการพัฒนาระดับพื้นที่ ที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนกลางเพียงอย่างเดียว แต่ทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ต้องมีข้อมูลพื้นที่ของตนเอง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและรองรับการวางแผนต่างๆของพื้นที่ เช่น การศึกษาต้องเร่งพัฒนาข้อมูลระบบการติดตามเด็กออกกลางคัน เด็กที่ไม่มีพัฒนาการตามช่วงวัย หรือเด็กกลุ่มเสียงต่างๆ ซึ่งถ้ามีข้อมูลที่ชัดเจนก็จะนำไปสู่การช่วยเหลือเด็กได้ทันที เป็นต้น
“หลังจากนี้ สปช. จะนำข้อเสนอ ผลงานวิจัย หรือโครงการต่างๆของหน่วยงานที่มีการดำเนินการพัฒนาการศึกษาปฐมวัยอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่นโยบาย เช่น สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ (สสค.) สถาบันรามจิตติ และสถาบันราชานุกูล ที่ดำเนินงานเสริมสร้างพัฒนาการและเชาว์ปัญญาของเด็ก (ไอคิว อีคิว) ที่มีระบบสารสนเทศในการส่งต่อข้อมูลด้านสุขภาพของภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ นำร่องใน 4 จังหวัด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็จะมีการรวบรวม เพื่อนำไปจัดทำเป็นนโยบายพัฒนาการศึกษาปฐมวัย เพื่อขยายผลไปสู่หน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่าง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดังนั้น หน่วยงานใดที่มีข้อมูล หรืออยากเสนอแนะแนวทางการจัดการศึกษา พัฒนาการศึกษาปฐมวัย อยากให้มาร่วมกับ สสค. หรือเสนอมาที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปและขยายผลในเชิงนโยบายต่อไป” นายอมรวิชช์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่