น่าห่วง! อัตราการสูบบุหรี่ไทยไม่ลดลง WHO ยอมรับมีมาตรการป้องกันยาสูบแจ๋วในเขตเมือง แต่ต้องเพิ่มการควบคุมเขตชนบท โดยเฉพาะการขึ้นภาษียาเส้น พ่วงเสริมความเข้มแข็งระดับจังหวัด
วันนี้ (21 พ.ย.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังพบคณะผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเข้าติดตามนโยบายการควบคุมการบริโภคยาสูบของประเทศไทย ว่า สถานการณ์การบริโภคยาสูบของไทยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการบริโภคยาสูบคงที่ ปริมาณผู้สูบบุหรี่ไม่ลดลงจาก 11 ล้านคนมากนัก โดยสัดส่วนการสูบบุหรี่ยังอยู่ในเพศชายมากกว่าเพศหญิง และสถานการณ์ปัญหาอยู่ในชนบทมากกว่าเขตเมือง และเมื่อพิจารณาพบว่าสัดส่วนการสูบยาเส้นเป็นครึ่งหนึ่งของผู้สูบบุหรี่แบบมวน โดยจากการพูดคุยกับ WHO ในมาตรการต่างๆ ที่ประเทศไทยทำอยู่นั้น ถือว่าขณะนี้ไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรการป้องกันการบริโภคยาสูบในแถวหน้าของโลก อย่างไรก็ตาม WHO ได้แสดงความเห็นว่า ไทยทำงานเรื่องบุหรี่ในเขตเมืองถือว่าชนะ แต่ยังต้องเร่งสร้างกลไกต่างๆ เพื่อให้สามารถควบคุมการบริโภคในเขตชนบทเพิ่มเติม
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการที่ WHO แนะนำให้ไทยเพิ่มเติม 2 เรื่อง คือ 1. การเสริมความเข้มแข็งในโครงสร้างระดับจังหวัด เพื่อทำให้มาตรการป้องกันการบริโภคได้ผลยิ่งขึ้น เช่น การบังคับใช้กฎหมาย การให้ความรู้ และ 2.การขึ้นภาษียาเส้น ซึ่งจะมีการเสนอต่อกระทรวงการคลังเร็วๆ นี้ โดยคาดว่าจะต้องปรับขึ้นอีกประมาณ 2 - 3 เท่า 3. การปรับเรื่องการรณรงค์และให้บริการการเลิกบุหรี่ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ครอบคลุม ทั้งนี้ ข้อเสนอ WHO สอดคล้องกับมาตรการที่ไทยกำลังทำ ในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการบริโภคยาสูบ ซึ่งกำลังเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในด้านต่างๆ เช่น การห้ามโฆษณาในสื่ออินเทอร์เน็ต ช่องทางการโฆษณาแบบใหม่ๆ การส่งเสริมการขาย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในกฎหมายฉบับใหม่ที่มีการปรับปรุง เชื่อว่า จะสามารถทำให้มาตรการควบคุมการบริโภคมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (21 พ.ย.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังพบคณะผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเข้าติดตามนโยบายการควบคุมการบริโภคยาสูบของประเทศไทย ว่า สถานการณ์การบริโภคยาสูบของไทยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการบริโภคยาสูบคงที่ ปริมาณผู้สูบบุหรี่ไม่ลดลงจาก 11 ล้านคนมากนัก โดยสัดส่วนการสูบบุหรี่ยังอยู่ในเพศชายมากกว่าเพศหญิง และสถานการณ์ปัญหาอยู่ในชนบทมากกว่าเขตเมือง และเมื่อพิจารณาพบว่าสัดส่วนการสูบยาเส้นเป็นครึ่งหนึ่งของผู้สูบบุหรี่แบบมวน โดยจากการพูดคุยกับ WHO ในมาตรการต่างๆ ที่ประเทศไทยทำอยู่นั้น ถือว่าขณะนี้ไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรการป้องกันการบริโภคยาสูบในแถวหน้าของโลก อย่างไรก็ตาม WHO ได้แสดงความเห็นว่า ไทยทำงานเรื่องบุหรี่ในเขตเมืองถือว่าชนะ แต่ยังต้องเร่งสร้างกลไกต่างๆ เพื่อให้สามารถควบคุมการบริโภคในเขตชนบทเพิ่มเติม
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการที่ WHO แนะนำให้ไทยเพิ่มเติม 2 เรื่อง คือ 1. การเสริมความเข้มแข็งในโครงสร้างระดับจังหวัด เพื่อทำให้มาตรการป้องกันการบริโภคได้ผลยิ่งขึ้น เช่น การบังคับใช้กฎหมาย การให้ความรู้ และ 2.การขึ้นภาษียาเส้น ซึ่งจะมีการเสนอต่อกระทรวงการคลังเร็วๆ นี้ โดยคาดว่าจะต้องปรับขึ้นอีกประมาณ 2 - 3 เท่า 3. การปรับเรื่องการรณรงค์และให้บริการการเลิกบุหรี่ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ครอบคลุม ทั้งนี้ ข้อเสนอ WHO สอดคล้องกับมาตรการที่ไทยกำลังทำ ในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการบริโภคยาสูบ ซึ่งกำลังเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในด้านต่างๆ เช่น การห้ามโฆษณาในสื่ออินเทอร์เน็ต ช่องทางการโฆษณาแบบใหม่ๆ การส่งเสริมการขาย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในกฎหมายฉบับใหม่ที่มีการปรับปรุง เชื่อว่า จะสามารถทำให้มาตรการควบคุมการบริโภคมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
