xs
xsm
sm
md
lg

ชู สสส.ต้นแบบอาเซียน ป้องกันโรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รมช.สธ. ยก สสส. ต้นแบบอาเซียน ส่งเสริมป้องกันโรค - กลไกคุมยาสูบ ระบุโรคจากบุหรี่ทำอาเซียน แบกรับค่ารักษาเพิ่ม 13.7 เท่า

วันนี้ (25 ก.ย.) ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการภูมิภาคอาเซียน เรื่อง ระบบงบประมาณที่ยั่งยืนเพื่อสนับสนุนการควบคุมยาสูบ (ASEAN Regional Workshop on Sustainable Funding for Tobacco Control) จัดโดยมูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ (Southeast Asia Tobacco Control Alliance-SEATCA) ร่วมกับ สสส. มีผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง องค์การปกครองระดับท้องถิ่น นักวิชาการ จากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 8 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชา และ สิงคโปร์ ตลอดจนผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรนานาชาติ อาทิ องค์การอนามัยโลก ภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก (WHO-WPRO) และ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เข้าร่วมกว่า 80 คน

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า การส่งเสริมสุขภาพและการส่งเสริมป้องกันโรคเป็นสิ่งที่ทุกประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะหากมุ่งเน้นแต่เฉพาะเรื่องการรักษาโรคจะส่งผลต่อระบบการเงิน สำหรับไทยนับว่าโชคดีที่มีการตั้ง สสส. มากว่า 10 ปี โดยได้รับงบประมาณจากภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ปีละ 3,000 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินงานค่อนข้างมีความโดดเด่น ได้แก่ 1. ใช้งบประมาณไม่มากแต่สามารถทำให้คนในสังคมตื่นตัวและสนใจการดูแลสุขภาพมากขึ้น และไม่ได้ดำเนินแต่เฉพาะเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพในเรื่องอื่นๆ ด้วย รวมถึงมีนวัตกรรมเชิงวิธีการที่เชิญชวนคนมาทำงานสร้างเสริมสุขภาพร่วมกัน 2. ไม่ดำเนินการผ่านระบบราชการ แต่เป็นการร่วมมือกันกับภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจและภาคส่วนต่างๆ ของสังคม และ 3. มีการจัดการ ดูแลและตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างรัดกุม ด้วยจุดเด่นทั้งหมดนี้ทำให้สสส.ไทยเป็นตัวอย่างในการดำเนินการเรื่องส่งเสริมป้องกันโรคให้ประเทศต่างๆ ในอาเซียน ซึ่งจะนำมาสู่การทำงานร่วมกัน

“ปีหน้าจะเข้าสู่สังคมอาเซียน ในส่วนของสังคมและวัฒนธรรมนั้น ประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีข้อตกลงร่วมกันในการที่จะควบคุมการบริโภคยาสูบ ซึ่งจะมีทั้งมาตรการด้านภาษียาสูบ การจัดตั้งกองทุนสสส.ในประเทศต่างๆ ปัจจุบันประเทศลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม มีการจัดตั้งกองทุน สสส. แล้ว” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า บุหรี่เป็นสาเหตุการเสียชีวิต และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญเชื่อมโยงกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆ โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากยาสูบมากถึง 6 ล้านคนทั่วโลก และคาดการณ์ว่า ในปี 2573 จะมีผู้เสียชีวิตจากยาสูบเพิ่มขึ้นถึง 8 ล้านคนต่อปี หากไม่มีการดำเนินการเร่งด่วนระงับการระบาดของยาสูบ ซึ่งกลุ่มประเทศที่รายได้น้อยและปานกลาง ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจากยาสูบที่สูงมาก เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และ มาเลเซีย ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจากยาสูบสูงขึ้น 1.2 - 13.7 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากภาษียาสูบที่รัฐบาลได้รับ

ด้าน น.ส.บังอร ฤทธิภักดี ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ กล่าวว่า สสส. มีงบประมาณบริหารกองทุนมาจากภาษีสรรพสามิตจากสุราและยาสูบ 2% ซึ่งถือเป็นกลไกการเงินการคลังที่ยั่งยืนเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ มีผลการดำเนินงาน มีแนวปฏิบัติที่โดด ที่เป็นต้นแบบของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ทั้งนี้ การสร้างเสริมสุขภาพ และการควบคุมการบริโภคยาสูบถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกประเทศ จากประสบการณ์ของประเทศไทย ที่มีการเก็บภาษีเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แสดงกลไกที่ดีที่สุดบนพื้นฐานของหลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย เพราะถือเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายด้านสุขภาพและรายรับทางการคลัง โดยไม่รบกวนงบประมาณปกติของรัฐบาลเพื่อการบริหารและพัฒนาประเทศได้อย่างเต็มที่

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่





กำลังโหลดความคิดเห็น