ส.ค.ท. ระดมความเห็นปฏิรูปการศึกษาเสนอ คสช. ชูหลักคิด “ตรง แม่นยำ เป็นธรรม” ผู้เรียนได้รับประโยชน์สูงสุด ภายใต้องค์ประกอบหลัก 4 ด้าน ครู - สถานศึกษา - หลักสูตร - งบประมาณ
นายประวิทย์ บึงไสย์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ส.ค.ท. ได้จัดเสวนาระดมความคิดเห็นเรื่องการปฏิรูปการศึกษาไทย ในหัวข้อ “การศึกษาไทยต้องผลิตพลเมืองไทยที่มีบุคลิกอันพึงประสงค์ของสังคมไทย” เพื่อรับฟังความเห็นและสรุปเป็นแนวทางในการปฏิรูปการศึกษาเพื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า การปฏิรูปการศึกษาในครั้งนี้จะต้องไม่มุ่งแก้กฎหมาย แต่ควรเร่งระบายสิ่งที่ค้างคา และสิ่งสำคัญต้องไม่สนองตัณหาความกระหายตำแหน่งบังคับบัญชา โดยมีหลักคิดสำคัญ คือ ผู้เรียนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด “ตรง แม่นยำ เป็นธรรม”
อย่างไรก็ตาม หลักคิดดังกล่าวจะต้องเกิดจากองค์ประกอบหลัก 4 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านครู เน้นให้ครูประจำการตระหนักในบทบาทหน้าที่ มีจรรยาบรรณในวิชาชีพเป็นที่ประจักษ์ และในระยะยาวต้องปรับระบบการผลิตครูใหม่ 2. ด้านสถานศึกษา เน้นให้ปรับปรุงประสิทธิภาพผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล รวมถึงเร่งพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กอย่างจริงจัง และในอนาคตควรมี พ.ร.บ.สถานศึกษานิติบุคคล 3. ด้านหลักสูตร ต้องมีความเหมาะสมกับผู้เรียน เน้นสร้างความเป็นชาติไทย ทันสมัย และแข่งขันกับประชาคมโลกได้ และ 4. ด้านงบประมาณ ต้องจัดสรรให้โรงเรียนโดยตรงและปรับวิธีการจัดสรรที่เสมอภาคและเป็นธรรม ทั้งนี้ ส.ค.ท. จะนำข้อสรุปดังกล่าวเสนอต่อ คสช. พิจารณาโดยเร็วที่สุดต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายประวิทย์ บึงไสย์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ส.ค.ท. ได้จัดเสวนาระดมความคิดเห็นเรื่องการปฏิรูปการศึกษาไทย ในหัวข้อ “การศึกษาไทยต้องผลิตพลเมืองไทยที่มีบุคลิกอันพึงประสงค์ของสังคมไทย” เพื่อรับฟังความเห็นและสรุปเป็นแนวทางในการปฏิรูปการศึกษาเพื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า การปฏิรูปการศึกษาในครั้งนี้จะต้องไม่มุ่งแก้กฎหมาย แต่ควรเร่งระบายสิ่งที่ค้างคา และสิ่งสำคัญต้องไม่สนองตัณหาความกระหายตำแหน่งบังคับบัญชา โดยมีหลักคิดสำคัญ คือ ผู้เรียนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด “ตรง แม่นยำ เป็นธรรม”
อย่างไรก็ตาม หลักคิดดังกล่าวจะต้องเกิดจากองค์ประกอบหลัก 4 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านครู เน้นให้ครูประจำการตระหนักในบทบาทหน้าที่ มีจรรยาบรรณในวิชาชีพเป็นที่ประจักษ์ และในระยะยาวต้องปรับระบบการผลิตครูใหม่ 2. ด้านสถานศึกษา เน้นให้ปรับปรุงประสิทธิภาพผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล รวมถึงเร่งพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กอย่างจริงจัง และในอนาคตควรมี พ.ร.บ.สถานศึกษานิติบุคคล 3. ด้านหลักสูตร ต้องมีความเหมาะสมกับผู้เรียน เน้นสร้างความเป็นชาติไทย ทันสมัย และแข่งขันกับประชาคมโลกได้ และ 4. ด้านงบประมาณ ต้องจัดสรรให้โรงเรียนโดยตรงและปรับวิธีการจัดสรรที่เสมอภาคและเป็นธรรม ทั้งนี้ ส.ค.ท. จะนำข้อสรุปดังกล่าวเสนอต่อ คสช. พิจารณาโดยเร็วที่สุดต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่