xs
xsm
sm
md
lg

จี้ออก กม.ห้ามการเมืองยุ่งการศึกษา ชี้แทรกแซงจนเสียระบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วงเสวนาปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศไทย จี้ออกกฎหมายห้ามการเมืองยุ่งเกี่ยวการศึกษา ปิดช่องแทรกแทรงทำเสียระบบ ส่งเสริมการเรียนเน้นคุณธรรม ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง

วันนี้ (19 ก.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิลแกรมด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพฯ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเวทีสาธารณะ : ปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศไทย ครั้งที่ 1 โดยมีนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ ที่ปรึกษาด้านสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายวรากรณ์ สามโกเศศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดศธ. ผู้บริหารองค์กรหลักของศธ. พร้อมด้วยนักวิชาการเข้าร่วมประมาณ 100 คน เข้าร่วม
 
นายยงยุทธ กล่าวว่า คสช.ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษา เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปประเทศ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าสังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำสูง ซึ่งนำไปสู่การแตกแยก จึงต้องใช้การศึกษาเป็นกุญแจนำไปสู่สังคมที่สงบและสมานฉันท์ โดยต้องสร้างวิจารณญาณให้กับประชาชน รวมทั้งต้องทำให้ระบบการศึกษามีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปการศึกษาเพื่อการปฏิรูปประเทศต้องเน้นปฏิรูปการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และต้องสร้างโอกาสที่ดี สร้างครูดี หลักสูตรดี โรงเรียนดี การเรียนรู้ดี เพื่อนำไปสู่งานดี ขณะเดียวกันต้องมีการปฏิรูประบบการเงินโดยจัดบัตรทองการศึกษาให้ผู้เรียนเลือกที่เรียนได้ และการอุดหนุนของรัฐต้องเป็นไปตามผลการประเมินที่สังคมยอมรับ ซึ่งเป็นการประเมินจากความนิยมของผู้เรียน ต้องดึงครูกลับสู่ห้องเรียน และต้องส่งเสริมให้คนเก่งในสายวิชาชีพอื่น มีโอกาสเป็นครูมากขึ้น

นายวรากรณ์ สามโกเศศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. กล่าวว่า ปัญหาการจัดการศึกษาคือทุกฝ่ายขาดความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวอย่างต่อเนื่องของการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการศึกษาชาติ และเมื่อมีการเปลี่ยนคนเปลี่ยนพรรคการเมืองก็เปลี่ยนนโยบาย จึงต้องปิดช่องไม่ให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงจนทำให้การศึกษาเสียระบบ นักการเมืองต้องไม่เอาใจครู ระบบการบริหารจัดการศึกษาต้องมีผู้รับผิดและรับชอบ ต้องมีหลักสูตรและระบบการสอนที่สร้างการคิดเป็น ใฝ่รู้ และมีคุณธรรม ต้องเปิดโอกาสให้คนดีคนเก่งมาเป็นครูโดยไม่ยึดติดอยู่กับใบประกอบวิชาชีพ

นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของศธ. เท่านั้น โดยสาเหตุที่ต้องร่วมกันปฏิรูปเพราะ ปัจจุบันเด็กไทยมีปัญหาใน 3 ประการ คือ มีปัญหาความรู้ในการเอาตัวรอด ความรู้ในการแข่งขัน และความรู้เพื่อพัฒนาประเทศ โดยต้องสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่งต้องเริ่มจากที่บ้าน ถัดมาคือคนในสังคมที่จะต้องเข้ามาสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้สมบูรณ์

ศ.กิตติคุณสุมน อมรวิวัฒน์ อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา กล่าวว่า สิ่งที่เราลืมไปคือการปฏิรูปอุดมศึกษา เรามักจะคิดว่าคณาจารย์ และมหาวิทยาลัยมีคุณภาพแล้วทั้งที่จริง ไม่ใช่ ขณะที่คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นกระบี่ที่ไร้พลัง ไม่มีอำนาจในการกำกับดูแลหรือจัดการกับมหาวิทยาลัยไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขในแง่ของกฎหมาย อีกประเด็นจะต้องคิดใหม่ในเรื่องการวัดและประเมินผลการศึกษา เพราะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการเรียนรู้ ที่ยังไม่สามารถปลูกฝังในเรื่องคุณธรรมความดีงามให้กับเด็กและเยาวชนได้

นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การปฏิรูปครั้งนี้ควรจะเร่งเขียนกฎหมายให้ส่วนกลางมีอำนาจลดลง กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและเอกชนเข้ามามีบทบาทในการจัดการศึกษามากขึ้น รวมถึงป้องกันไม่ให้การเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการศึกษา ขณะเดียวกันต้องปฏิรูประบบหลักสูตรใหม่ และนำค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการใส่เข้าไปในการปฏิรูปหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ด้วย

นางสุทธศรี กล่าวว่า ศธ.จะนำข้อสรุปที่ได้จากการเสวนาครั้งนี้ เสนอคสช.พิจารณาประมาณต้นเดือนสิงหาคม

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่





กำลังโหลดความคิดเห็น