xs
xsm
sm
md
lg

สทศ.จ่อใช้ O-Net วัดความห่วยตัวเอง พร้อมสำรวจ ร.ร.ขยายสอบ e-Testing

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์
มอบ สทศ.สำรวจ ร.ร.ที่มีความพร้อมเพื่อขยายผลจัดสอบ e-Testing ให้กว้างขวางกว่าที่ดำเนินการเพียง 9 ศูนย์ในมหา’ลัย พร้อมเผย สทศ.กำหนดให้ความผิดพลาดของการจัดสอบ O-Net เป็นตัวชี้วัดในการประเมินผลงานของ ผอ.สทศ.ด้วยเหตุที่ผ่านมาการทดสอบ O-Net มีความผิดพลาดบ่อยครั้ง

ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.ที่มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินการวัดและประเมินผลการการทดสอบทางการศึกษา ของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) โดยเฉพาะเรื่องของการนำคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) มาใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการจบการศึกษาและวัดผลการศึกษามากขึ้น ดังนั้น ที่ประชุมได้ให้ข้อสังเกตแก่ สทศ.ว่าในเรื่องของการทดสอบวัดและประเมินผลนั้นจะทำเช่นไรให้ข้อสอบ O-Net มีมาตรฐานมากขึ้นและไม่เกิดปัญหาตามที่ปรากฎเป็นข่าวเช่นที่ผ่านมา ซึ่ง สทศ.ระบุว่าตระหนักในปัญหาดังกล่าวและขณะนี้ได้กำหนดให้เรื่องดังกล่าวเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในการประเมินผลงานของ ผอ.สทศ.ด้วย

นอกจากนี้ สทศ.ได้รายงานความคืบหน้าการพัฒนาการสอบด้วยระบบ e-Testing หรือ การสอบหน้าคอมพิวเตอร์ โดยขณะนี้ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัย 9 แห่งทั่วประเทศเป็นศูนย์กลางจัดสอบให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ อาทิ มหาวิทยาลัยนเรศวร ม.เทคโนโลยีสุรนารี ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่าต่อไประบบการสอบ e-Testing จะเข้ามามีบทบาทและเป็นมาตรฐานการจัดสอบในอนาคต ตัวอย่างเด่นชัดที่สุด คือ โครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ ของประเทศสมาชิกองค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ หรือ PISA ที่จะดำเนินการในปี ค.ศ.2015 นั้นได้เปลี่ยนรูปแบบการสอบใหม่โดยสอบหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งการประเมิน PISA นั้นประเมินผู้เรียนกว่า 60 ประเทศนั่นหมายถึงว่าต่อไปการสอบหน้าคอมพิวเตอร์จะเป็นมาตรฐานระดับโลก เพราะฉะนั้น ขอให้ สทศ.ไปเพิ่มแนวทางการพัฒนามาตรฐานการจัดสอบ e-Testing เพื่อลงไปสู่โรงเรียนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอให้ สทศ.ไปสำรวจโรงเรียนที่มีความพร้อมที่จะดำเนินการจัดสอบ e-Testing โดยอาจจะไปเริ่มในโรงเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กว่า 10,000 โรงที่มีการเชื่อมโยงโครงการข่ายอินเตอร์เน็ตในระบบยูนิเน็ต (Uni-Net) ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นต้น เพราะหากจะเริ่มแค่เพียง 9 ศูนย์อาจจะช้าเกินไป


กำลังโหลดความคิดเห็น