xs
xsm
sm
md
lg

จ่อทบทวนบรรจุพนักงาน ก.สธ.ดับฝันไม่ได้เงินเดือนเพิ่มเท่าคุยโว!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สธ.เล็งทบทวนบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงาน ก.สธ.หลังผ่านประเมินถึง 98% จากอัตรา 1.4 แสนราย รับเกินคาดไว้มาก ทำงบประมาณไม่พอ แถมเงินเดือนเพิ่มไม่มากเท่าขายฝัน เคาะใช้เกณฑ์วงเงิน เขตละไม่เกิน 10% ระบุคนผ่านประเมินมีสิทธิก่อน โยนโรงพยาบาลและเขตพิจารณาใครได้สิทธิ
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
วันนี้ (30 ก.ย.) ที่โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในการประชุมชี้แจงระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยพนักงานกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2556 ว่า การบรรจุลูกจ้างชั่วคราว สธ.เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พนักงาน ก.สธ.) หากจะบรรจุทั้งหมด 1.4 แสนคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวนที่คาดไว้ 1.2 แสนคน ทั้งที่ควรจะลดลงไป 7,500 คน จากการบรรจุเป็นข้าราชการนั้น จะทำให้วงเงินเพิ่มขึ้น ดังนั้น จะให้ทุกคนได้รับสิทธิสวัสดิการเท่าเดิมเหมือนที่เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งวงเงินที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละเขตบริการสุขภาพร้อยละ 10 เป็นเงินจำนวน 2,973 พันล้านบาท เฉลี่ยเขตละ 150-160 ล้านบาท และเงินที่จะต้องใช้สำหรับเยียวยา เช่น กรณีผู้ที่ทำงานมามากกว่า 10 ปี ไม่ควรได้รับเงินเดือนเท่ากับผู้ที่ทำงาน 6 เดือน เป็นต้น อีกประมาณ 465 ล้านบาท และหากปรับเงินเดือนเพิ่มเป็นคนละ 15,000 บาทต่อเดือน จะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นราว 5,485 ล้านบาท

“การพิจารณาบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงาน ก.สธ.จะใช้เกณฑ์กรอบวงเงินเพิ่มขึ้นเขตละ 10% เป็นตัวพิจารณา ส่วนใครจะได้ยกฐานะและเงินเพิ่มขึ้นเท่าไรเป็นการพิจารณาของโรงพยาบาลและเขตบริการสุขภาพ ผมอยากให้ลูกจ้างชั่วคราวตรวจสอบตัวเองด้วยว่า จำนวนลูกจ้างชั่วคราวที่เพิ่มขึ้นเกินความต้องการหรือมีความจำเป็นต้องจ้างหรือไม่ ซึ่งส่วนที่เพิ่มขึ้นแล้วก็แล้วกันไปเป็นหน้าที่ที่กระทรวงต้องดูแล แต่หากมีการลาออกก็ไม่ควรจ้างเพิ่มขึ้น” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.ประดิษฐ กล่าวในการประชุมผู้บริการ สธ.ในประเด็นเดียวกันว่า สำหรับพนักงาน ก.สธ.จำนวน 1.4 แสนคน คงต้องทยอยรับและยอมรับว่ารายได้ของพนักงาน ก.สธ.อาจจะไม่เพิ่มอย่างที่คิด แต่ขอให้ชี้แจงว่าจะมีสวัสดิการด้านอื่นๆ มาทดแทน โดยขอให้ผู้บริหารกลับไปทบทวนเรื่องเกณฑ์การเยียวยา เช่น ประเด็นของวุฒิการศึกษาจะต้องไม่ไปลดรายได้ของผู้ที่ทำงานมานานให้น้อยกว่าเดิม และอยากให้ผูบริหารทบทวนในเรื่องของเขตบริการและการวัดภาระงานจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อเชื่อมโยงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบและทำให้อัตรากำลังของข้าราชการได้บรรจุโดยเร็ว เพื่อลดภาระของเงินบำรุงของโรงพยาบาล นอกจากนี้ จะมีการหารือเพิ่อเพิ่มรายได้ให้กับระบบ อาทิ วันที่ 1 ตุลาคม 2556 จะมีการหารือกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในการเพิ่มกำไรจากการใช้ยาสามัญนำมาทดแทน เป็นต้น อีกทั้งให้กลับไปทบทวนการประเมินผลลูกจ้างชั่วคราวที่ผ่านการประเมินถึงร้อยละ 98 เพราะหากช่วยกันลดสัดส่วนการจ่ายค่าตอบแทนร้อยละ 60 ลงได้จะมีเงินนำไปพัฒนาระบบเพิ่มขึ้น

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า เบื้องต้นจากที่มีการหารือกันในคณะกรรมการพนักงาน ก.สธ.จะดำเนินการโดยให้พิจารณาลูกจ้างชั่วคราวที่ผ่านการประเมินแล้วร้อยละ 98 ยกฐานะเข้าสู่ระบบการเป็นพนักงาน ก.สธ. ภายใต้วงเงินที่เขตบริการสุขภาพจะได้เพิ่มขึ้นเขตละร้อยละ 10 ของค่าจ้างเดิม ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2556 ทั้งนี้ ในการพิจารณาว่าลูกจ้างชั่วคราวคนใดจะได้เป็นพนักงาน ก.สธ.และด้วยเงินเดือนเท่าไรเป็นอำนาจของคณะกรรมการโรงพยาบาลและคณะกรรมการเขตพื้นที่ในการพิจารณาทบทวน แต่ต้องไม่เกินกรอบวงเงินร้อยละ 10 ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เงินเดือนจะต้องไม่ต่ำกว่าเงินเดือนเดิมที่เคยได้รับหรือไม่ต่ำกว่าอัตราขั้นต่ำของแต่ละตำแหน่งที่กำหนดไว้ ส่วนผู้ที่ยังไม่ผ่านการประเมินอีกร้อยละ 2 สามารถเข้ารับการประเมินได้ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2556 โดยแต่ละเขตบริการสุขภาพจะต้องดำเนินการจัดทำกรอบอัตรากำลังให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2556 และจะยกฐานะย้อนหลังให้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556

นางกนกพร สุขสนิท ประธานภาคีลูกจ้างชั่วคราวของรัฐแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พอใจในแนวทางแก้ปัญหาของ รมว.สธ.ที่จะให้คงอัตราค่าตอบแทนเท่าเดิมแต่อยากให้เพิ่มค่าประสบการณ์ด้วย ส่วนจะเป็นอัตราเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับเงินที่เหลือจากร้อยละ 10 ที่เขตจะได้รับเพิ่ม ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านการประเมินอีกร้อยละ 2 อยากให้มีการประเมินอย่างโปร่งใส เพราะบางพื้นที่ไม่ผ่านจากการที่หัวหน้าไม่ชอบ


กำลังโหลดความคิดเห็น