เคาะ! แนวทางเยียวยา “ดร.คณิต” ย้ำกำหนดอัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำ หากได้ค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายรวม P4P ต่ำกว่าค่าตอบแทนเดิม เผยเหลือเพียงแนวทางการจ่ายเงินและวิธีทำงาน ด้าน รพศ./รพท.พอใจ พร้อมเดินหน้าต่อ
ดร.คณิต แสงสุพรรณ คณะทำงานจัดทำข้อเสนอการดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานจัดทำข้อเสนอการดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุป 3 เรื่อง คือ 1.แนวทางการเยียวยา 2.แนวทางการจัดทำตัวชี้วัดและการวัดประเมินผล (KPI) และ 3.การจัดทำระเบียบปฏิบัติฉบับใหม่ โดยเรื่องแนวทางการเยียวยา ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน คือ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง “แนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือ สำหรับกำลังคนด้านสาธารณสุข ที่ได้รับค่าตอบแทนในอัตราใหม่” ซึ่งหากมีผู้ใดได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย รวมกับค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเดิมฉบับที่ 8 และ 9 สธ.จะพิจารณากำหนดอัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งเรื่องดังกล่าวเหลือเพียงแนวทางการจ่ายเงิน และวิธีทำงานเท่านั้น โดยประมาณการณ์ตัวเลขขั้นต้น โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) อาจจะใช้ประมาณ 427 ล้านบาท โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) ใช้ประมาณ 388 ล้านบาท
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัด สธ.กล่าวว่า การเยียวยาจะดำเนินตามแนวทางโดยยึดค่าตอบแทนฉบับ 8, 9 และค่าตอบแทนที่ลดจากฉบับ 4, 6 และ 7 โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.56 เป็นต้นมา และจะให้การเยียวยาในทุกสาขาวิชาชีพ ส่วนงบประมาณจะพิจารณาจากเงินบำรุง และส่วนที่เหลือจะขออนุมัติงบประมาณตามมติ ครม.วันที่ 31 มี.ค. 56 ต่อไป ส่วนเรื่องการคิด KPI นั้น แต่ละกลุ่มอยู่ระหว่างการจัดทำและหารือ คาดว่าประมาณ 1-1 เดือนครึ่ง จะได้แนวทางที่ชัดเจน เพื่อเดินทางพร้อมกันทั้งระบบในเดือน ต.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปดังกล่าวถือว่าทุกคนพร้อมจะเดินหน้าไปพรัอมกัน
ด้าน นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางในประเด็นการจ่ายเงินช่วยเหลือสำหรับกำลังคนด้านสาธารณสุขที่ได้รับค่าตอบแทนในอัตราใหม่ทั้งในส่วนที่เข้าสู่กระบวนการแล้วและยังไม่ได้เข้า มีความเห็นร่วมกันว่า การจ่ายเงินจะอยู่ในกรอบเวลาตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงอย่างช้าไม่เกินเดือนตุลาคม 2556 ซึ่งในระหว่างนี้โรงพยาบาลทุกแห่งต้องเข้าสู่กระบวนการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปมีความยินดีอย่างยิ่งที่น้องๆ โรงพยาบาลชุมชนจะได้เข้ามาร่วมกันพัฒนาและปรับปรุงในรายละเอียดเพื่อช่วยให้การจ่ายค่าตอบแทนนี้เป็นธรรมยิ่งขึ้น สามารถลดความเหลื่อมล้ำในวิชาชีพ และระหว่างวิชาชีพ บุคลากรได้รับค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับการปฏิบัติงานที่เป็นจริง เช่น พยาบาล ซึ่งเป็นที่ทราบทั่วไปว่ามีภาระงานที่หนักมากในโรงพยาบาลทุกแห่ง ภายใต้การจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานก็จะได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น และที่สำคัญที่สุดจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ, คุณภาพของทั้งตัวบุคลากรและองค์กร ทำให้บริการสุขภาพประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ทุกคนคงอยากจะเห็นการพัฒนาของโรงพยาบาลทุกระดับ สามารถดูแลประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองได้อย่างเต็มที่ มีระบบการส่งต่อที่ดีและเหมาะสม ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งจากนี้ไปคณะทำงานจะใช้เวลาไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้เพื่อร่วมกันปรับปรุงรายละเอียดการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน และกำหนดตัวชี้วัดทั้งส่วนบุคคลและองค์กร
ดร.คณิต แสงสุพรรณ คณะทำงานจัดทำข้อเสนอการดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานจัดทำข้อเสนอการดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุป 3 เรื่อง คือ 1.แนวทางการเยียวยา 2.แนวทางการจัดทำตัวชี้วัดและการวัดประเมินผล (KPI) และ 3.การจัดทำระเบียบปฏิบัติฉบับใหม่ โดยเรื่องแนวทางการเยียวยา ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน คือ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง “แนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือ สำหรับกำลังคนด้านสาธารณสุข ที่ได้รับค่าตอบแทนในอัตราใหม่” ซึ่งหากมีผู้ใดได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย รวมกับค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเดิมฉบับที่ 8 และ 9 สธ.จะพิจารณากำหนดอัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งเรื่องดังกล่าวเหลือเพียงแนวทางการจ่ายเงิน และวิธีทำงานเท่านั้น โดยประมาณการณ์ตัวเลขขั้นต้น โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) อาจจะใช้ประมาณ 427 ล้านบาท โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) ใช้ประมาณ 388 ล้านบาท
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัด สธ.กล่าวว่า การเยียวยาจะดำเนินตามแนวทางโดยยึดค่าตอบแทนฉบับ 8, 9 และค่าตอบแทนที่ลดจากฉบับ 4, 6 และ 7 โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.56 เป็นต้นมา และจะให้การเยียวยาในทุกสาขาวิชาชีพ ส่วนงบประมาณจะพิจารณาจากเงินบำรุง และส่วนที่เหลือจะขออนุมัติงบประมาณตามมติ ครม.วันที่ 31 มี.ค. 56 ต่อไป ส่วนเรื่องการคิด KPI นั้น แต่ละกลุ่มอยู่ระหว่างการจัดทำและหารือ คาดว่าประมาณ 1-1 เดือนครึ่ง จะได้แนวทางที่ชัดเจน เพื่อเดินทางพร้อมกันทั้งระบบในเดือน ต.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปดังกล่าวถือว่าทุกคนพร้อมจะเดินหน้าไปพรัอมกัน
ด้าน นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางในประเด็นการจ่ายเงินช่วยเหลือสำหรับกำลังคนด้านสาธารณสุขที่ได้รับค่าตอบแทนในอัตราใหม่ทั้งในส่วนที่เข้าสู่กระบวนการแล้วและยังไม่ได้เข้า มีความเห็นร่วมกันว่า การจ่ายเงินจะอยู่ในกรอบเวลาตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงอย่างช้าไม่เกินเดือนตุลาคม 2556 ซึ่งในระหว่างนี้โรงพยาบาลทุกแห่งต้องเข้าสู่กระบวนการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปมีความยินดีอย่างยิ่งที่น้องๆ โรงพยาบาลชุมชนจะได้เข้ามาร่วมกันพัฒนาและปรับปรุงในรายละเอียดเพื่อช่วยให้การจ่ายค่าตอบแทนนี้เป็นธรรมยิ่งขึ้น สามารถลดความเหลื่อมล้ำในวิชาชีพ และระหว่างวิชาชีพ บุคลากรได้รับค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับการปฏิบัติงานที่เป็นจริง เช่น พยาบาล ซึ่งเป็นที่ทราบทั่วไปว่ามีภาระงานที่หนักมากในโรงพยาบาลทุกแห่ง ภายใต้การจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานก็จะได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น และที่สำคัญที่สุดจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ, คุณภาพของทั้งตัวบุคลากรและองค์กร ทำให้บริการสุขภาพประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ทุกคนคงอยากจะเห็นการพัฒนาของโรงพยาบาลทุกระดับ สามารถดูแลประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองได้อย่างเต็มที่ มีระบบการส่งต่อที่ดีและเหมาะสม ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งจากนี้ไปคณะทำงานจะใช้เวลาไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้เพื่อร่วมกันปรับปรุงรายละเอียดการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน และกำหนดตัวชี้วัดทั้งส่วนบุคคลและองค์กร
