งบซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสะดุด! เหตุราคาจริงสูงกว่าวงเงิน

งบซื้อครุภัณฑ์ สธ.มีปัญหา ยังซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 115 เครื่องไม่ได้ เหตุราคาจริงสูงกว่าวงเงินที่สำนักงบฯตั้งไว้ รองปลัด สธ.สั่งต่อรองราคาใหม่ ส่วนงบค่าเสื่อมเตรียมเปลี่ยนแนวทางกระจายงบใหม่ แหล่งข่าวเผยงบก่อสร้างไทยเข้มแข็งมีโรงพยาบาล 6 แห่งเสี่ยงก่อสร้างไม่เสร็จ เหตุทำงานช้า

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ตามโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 หรือโครงการเงินกู้ดีพีแอล จำนวน 3,273 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลในสังกัด สธ.ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ขณะนี้ได้กระจายงบดังกล่าวให้สถานพยาบาลดำเนินการจัดซื้อแล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 115 เครื่อง ซึ่งอยู่ระหว่างการต่อรองราคาใหม่ เนื่องจากเดิมทีสำนักงบประมาณอนุมัติวงเงินเครื่องละ 1.3 ล้านบาท แต่ในความเป็นจริงอยู่ที่ 1.4-1.5 ล้านบาท เพราะรวมค่าติดตั้งด้วย จึงมอบให้ นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัด สธ.เป็นผู้ดูแล ส่วนงบลงทุนก่อสร้างจากโครงการเงินกู้ดีพีแอล ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามความคืบหน้าการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง

ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า เรื่องเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 115 เครื่อง ได้ขอให้แต่ละแห่งไปทำการต่อรองราคาให้อยู่ในกรอบวงเงินที่สำนักงบฯ กำหนด หรือไม่ก็ต้องเปิดซองประกวดราคาใหม่อีกครั้ง โดยให้เร่งดำเนินการให้มีความชัดเจนภายใน มิ.ย.นี้ ส่วนงบประมาณประจำปี 2556 ซึ่งรัฐบาลมีการเร่งรัดเรื่องนี้ให้ใช้งบประมาณแล้วเสร็จในวันที่ 31 ก.ค. สธ.จึงขอให้ทุกพื้นที่รีบดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยจะยึดวันที่ 24 ก.ค.หากโรงพยาบาลใดดำเนินการตามสัญญาไม่ได้ สธ.จะเปลี่ยนแปลงรายการและสถานที่ใหม่ก่อนนำเข้า ครม.ภายในวันที่ 31 ก.ค.จึงขอให้เร่งดำเนินการ โดยเฉพาะสถานพยาบาล 6 แห่ง คือ รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ รพ.ชุมพร รพ.ราชบุรี รพ.หาดใหญ่ รพ.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ อ.นาทวี จ.สงขลา และ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส

“ส่วนเรื่องงบค่าเสื่อมในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า วงเงิน 4,858 ล้านกว่าบาท เพื่อก่อสร้างอาคารบริการต่างๆ และจัดซื้อครุภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์นั้น จะมีการเปลี่ยนแนวทางใหม่ จากเดิมสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะให้โรงพยาบาลทั้งประเทศ 10% เปลี่ยนแนวทางใหม่ก่อนกระจายงบฯ จะให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามระเบียบพัสดุ เปิดซองประกวดราคาก่อน หาก สธ.พิจารณาราคาเห็นว่าเหมาะสม จึงจะโอนเงินให้โรงพยาบาล ทั้งนี้ ขอให้ทุกโรงพยาบาลรายงานผลการประกวดราคากลับมา สธ.ภายในวันที่ 15 ส.ค." รองปลัด สธ.กล่าว

แหล่งข่าว สธ. เปิดเผยข้อมูลการใช้งบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งฯ ในส่วนการก่อสร้างของ สธ.พบว่ามีการดำเนินการแล้วเสร็จ 728 รายการ ยังเหลือ 42 รายการ วงเงิน 533 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลตาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องพื้นที่ ผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการเสร็จทันวันที่ 30 ก.ย.ทำให้อาจต้องเสนอ ครม.ใหม่เพื่อขอยืดเวลาอีกครั้ง