“จาตุรนต์” จ่อโละเกณฑ์โยกย้ายครู ชี้ไม่ควรเน้นความสมัครใจ หรือให้ครูได้กลับไปอยู่บ้านเกิดเป็นหลัก ต้องเน้นคุณภาพการจัดการศึกษา และความเท่าเทียมของจำนวนครู ร.ร.ขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก พร้อมเสนอใช้วิธีตัดโอนอัตราครูจาก ร.ร.ใหญ่ที่ครูกระจุกตัวแน่นไปยัง ร.ร.ที่ขาด ระบุยังไม่มีข้อยุติ แต่ฝากการบ้านให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ไปคิด รวมทั้งให้คิดระบบประเมินความดีความชอบที่มาจากการทำงานจริงเพื่อให้ครูตื่นตัวแข่งขันทำงาน ไม่ใช่ทำงานเช้าชามเย็นชามก็ได้ความดีความชอบ
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่โรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวระหว่างเปิดประชุมสัมมนา อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ ว่า ศธ.มีนโยบายจะแก้ปัญหาครูขาดแคลน โดยจะเริ่มจากแก้ปัญหาการกระจุกตัวของครูในโรงเรียนขนาดใหญ่ ส่งผลให้โรงเรียนขนาดเล็กเจอภาวะขาดแคลนครูอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มสาระวิชาหลัก ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ทำให้ครูที่มีอยู่ส่วนใหญ่ต้องสอนทั้งไม่ตรงกับสาขาวิชาที่ตนเองจบการศึกษามายิ่งเท่ากับเป็นการซ้ำเติมปัญหาขาดแคลนครูให้มากขึ้นไปอีก ดังนั้น จึงอยากให้มีการเกลี่ยครูจากโรงเรียนที่มีครูเกินไปในโรงเรียนที่มีครูขาด
อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์การโยกย้ายของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในปัจจุบันไม่เปิดช่องให้ ศธ.เข้าไปบริหารจัดการครูได้อย่างเต็มที่ เพราะหลักเกณฑ์การโยกย้ายนั้นมีรายละเอียดต่างๆ มากมาย เช่น การโยกย้ายจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจของครู ซึ่งตามข้อเท็จจริงแล้วครูที่เกินอยู่ในโรงเรียนขนาดใหญ่ก็จะไม่มีใครสมัครใจย้ายไปอยู่โรงเรียนอื่น หรือแม้แต่หลักเกณฑ์การย้ายให้ครูกลับภูมิลำเนา ก็ไม้ได้พิจารณาว่าเมื่อครูได้กลับไปอยู่ภูมิลำเนาแล้วได้สอนตรงตามวิชาเอกหรือไม่กลายเป็นแก้ปัญหาหนึ่งแต่ไปซ้ำเติมปัญหาขาดแคลนครูเพิ่มขึ้น เป็นต้น
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า การบริหารงานบุคคลที่ไม่มีประสิทธิภาพนี้ จึงทำให้เกิดปัญหาการกระจุกตัวของครูในโรงเรียนใหญ่ และทำให้เกิดการดูดครูจากโรงเรียนเล็กมาโรงเรียนใหญ่สร้างความไม่เท่าเทียมกัน และเมื่อโรงเรียนขนาดเล็กประสบภาวะขาดแคลนครู ก็ไม่ต้องหวังว่าการพัฒนาคุณภาพการเรียนการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ จะประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ตนจึงมอบหมายให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯไปรวบรวมปัญหาทั้งหมดว่า หลักเกณฑ์ใดบ้างที่ติดขัดไม่สามารถกระจายครูได้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ ก.ค.ศ.ปรับแก้หลักเกณฑ์ดังกล่าว
“ข้อเสนออย่างหนึ่งสำหรับการแก้ปัญหาครูเกินและครูขาด คือ การตัดโอนอัตราจากโรงเรียนที่มีครูเกินไปยังโรงเรียนที่มีครูขาด ซึ่งจะเป็นการบังคับโดยอัตโนมัติให้ครูต้องย้ายตามอัตราไปในโรงเรียนที่ขาดครู แต่ข้อเสนอดังกล่าวยังไม่เป็นข้อยุติ ต้องรอให้ ก.ค.ศ.ไปศึกษารายละเอียดก่อน ขณะเดียวกัน จะให้ศึกษาหลักเกณฑ์การโยกย้ายในภาพรวมด้วย โดยผมได้ให้นโยบายว่า หลักเกณฑ์การโยกย้ายไม่ควรคำนึงถึงความสมัครใจ และดูแลให้ครูที่อยู่ภูมิลำเนาได้ย้ายกลับบ้าน ซึ่งสิ่งที่ถูกต้องจะต้องคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ในการจัดการศึกษา ความเท่าเทียมระหว่างโรงเรียนที่ไม่ปล่อย ความเป็นธรรม และส่งเสริมให้ครูมีโอกาสพัฒนาตนเองด้วย ซึ่งนอกจากหลักเกณฑ์การโยกย้ายแล้วได้ฝากให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ไปรับปรุงเกณฑ์พิจารณาความดีความชอบด้วย เพราะปัจจุบันไม่ว่าครูจะทำหน้าที่การสอน หรือไม่ตั้งใจทำหน้าที่ครูก็จะได้รับการพิจารณาความดีความชอบทุกคน จึงเท่ากับว่า อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ และผู้บริหารโรงเรียนไม่ได้มีหน้าที่พิจารณาความดีความชอบเลย ดังนั้นจึงอยากให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯปรับเกณฑ์การพิจารณาความดีความชอบด้วย เพื่อให้เป็นไปตามผลการปฏิบัติงานจริงของครู ซึ่งจะส่งเสริมให้ครูทำงานแข่งขันกันมากขึ้น” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว