แพทย์ชนบทแฉไอ้โม่งสั่งองค์การเภสัชกรรมเปลี่ยนเส้นทางเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐ 75 ล้านบาท เข้ากระทรวงสาธารณสุขเตรียมจัดสรรให้ทีมงานการเมืองชั้น 4 แต่ถูกหมอวิทิต ออกหนังสืออ้างระเบียบขวางไว้ เป็นเหตุต้องเด้ง ผอ.องค์การเภสัชกรรม ประกาศเคลื่อนไหวแตกหัก อารยะขัดขืนทั่วประเทศ ผนึกกำลังสหภาพรัฐวิสาหกิจ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพและเครือข่ายผู้ป่วยทั่วประเทศบุกบ้านนายกยิ่งลักษณ์ 6 มิ.ย.นี้ เรียกร้องให้เลิกพีฟอร์พี ย้ายรมว.สาธารณสุข ก่อนระบบสาธารณสุขของรัฐจะล่มสลาย
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่า จากเอกสารและการเปิดเผยของพยานบุคคลที่ขอสงวนนามในขั้นตอนนี้ ได้ระบุชัดว่ามีไอ้โม้งในกระทรวงสาธารณสุขที่มีอำนาจเหนือบอร์ดองค์การเภสัชกรรม และ สปสช.สั่งเปลี่ยนเส้นทางของเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐหรือเงินที่องค์การเภสัชกรรมต้องจ่ายให้หน่วยงานต่างๆ ที่สั่งซื้อยาและชำระเงินสดภายใน 60 วัน ของปี 2555 จำนวนกว่า 91 ล้านบาท ที่เตรียมจัดส่งให้ รพ.ต่างๆ ตามหนังสือแนะนำของ สตง.และไอ้โม่งได้สั่งให้ สปสช.มีหนังสือลงวันที่ 31 ม.ค. 2556 แจ้งให้องค์การเภสัชกรรมแบ่งเงิน 75 ล้านบาท ส่งเข้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดสรรให้กลุ่มใกล้ชิดการเมืองบนตึกชั้น 4 แต่ถูก นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม มีหนังสือลงวันที่ 4 เม.ย.2556 ขวางไว้ว่าจะส่งเงิน75 ล้านบาทตามสั่งได้ต่อเมื่อมีการจัดทำโครงการสนับสนุน รพ.ต่างๆ อย่างชัดเจนก่อน สร้างความไม่พอใจให้ผู้มีอำนาจทางการเมืองจนต้องสั่ง สปสช.ให้มีหนังสือเมื่อวันที่ 23 เมย. 2556 มอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้พิจารณาโครงการแบบเบ็ดเสร็จเอง โดยไม่คำนึงถึงคำแนะนำของ สตง.
“การขัดขวางไม่ยอมส่งเงิน 75 ล้านบาทตามคำสั่ง สร้างความไม่พอใจจากกลุ่มผู้ใกล้ชิดนักการเมืองบนชั้น 4 ที่พยายามติดตามเร่งรัดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ นพ.วิฑิต โอนเงินดังกล่าวให้ ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การรับรู้ของข้าราชการซี 10 คนหนึ่งที่เคยมีข่าวไม่สนองนโยบายจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดและเกือบถูกย้าย โดยข้าราชการผู้นี้และอีกหลายคนพร้อมจะเปิดเผยตัวและให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงขบวนการถ้ามีการตั้งบุคคลภายนอกที่สังคมไว้วางใจเป็นกรรมการสอบข้อเท็จจริงเหมือนกรณีทุจริตยาและงบไทยเข้มแข็งที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่าผู้มีอำนาจอยู่เหนือบอร์ดองค์การเภสัชกรรม และ สปสช.มีเป้าหมายเข้าไปเปลี่ยนทีมบริหารของบริษัทผลิตน้ำเกลือเอกชนที่องค์การเภสัชกรรมถือหุ้นอยู่ 49% เพื่อเตรียมขยายการผลิตน้ำเกลือป้อนให้กับธุรกิจ รพ.เอกชนในเครือข่ายผู้มีอำนาจทางการเมืองที่ได้ขยายเตรียมการรองรับการเปิดตลาดเสรีอาเซียนไว้แล้ว รวมทั้งกดดันให้องค์การเภสัชกรรมซึ่งมียอดขายปีที่ผ่านมา กว่า 12,000 ล้านบาทให้สนับสนุนบริษัทยาเอกชนและไม่ให้แข่งขันกับบริษัทยาข้ามชาติ แต่ทั้งหมดไม่ได้รับการสนองตอบอย่างเต็มที่จาก นพ.วิทิต เป็นสาเหตุแตกหัก นำไปสู่สำสั่งลับให้ปลดผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น”
ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวต่อว่า เป้าหมายต่อไปของกลุ่มธุรกิจการเมือง คือ เปลี่ยนเส้นทางการเงินสามกองทุนปี 2557 ของ สปสช.กรมบัญชีกลางและประกันสังคมรวมกว่า 212,000 ล้านบาทให้เอื้อกับธุรกิจ รพ.เอกชนที่ผู้มีอำนาจทางการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ได้มีการกว้านซื้อเตรียมขยายตลาดทั่วประเทศรองรับไว้แล้ว
นพ.วชิระ บถพิบูลย์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบทและแกนนำเคลื่อนไหวของกลุ่มคนไม่เอา นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ เป็น รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ รพ.ชุมชมและภาคประชาชนเห็นอันตรายของนโยบายพีฟอร์พี และผลประโยชน์ทับซ้อนเชิงนโยบายที่จะทำให้ระบบสาธารณสุขของรัฐเสียหาย เอื้อประโยชน์ธุรกิจเอกชน เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ไร้ที่พึ่ง ชมรมแพทย์ชนบท เครือข่ายกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เครือข่ายผู้ป่วยทั่วประเทศ เตรียมจับมือกับสหภาพวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม และรัฐวิสาหกิจอื่นๆชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 6 มิย.นี้ และจะเข้าพบนายกยิ่งลักษณ์ที่บ้านพัก เรียกร้องให้ยกเลิกนโยบายพีฟอร์พี ทำลายระบบสาธารณสุข ทำร้ายองค์การเภสัชกรรมของรัฐ และให้ย้าย นพ.ประดิษฐ์ ออกจากกระทรวงสาธารณสุข
อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รพ.ชุมชนทั่วประเทศมีการเคลื่อนอย่างต่อเนื่องไม่เอาพีฟอร์พี และขับไล่ นพ.ประดิษฐ ทุกจังหวัดที่มีกำหนดการไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ และการชุมนุมใหญ่เพื่อให้นายกรัฐมนตรีแก้ไขปัญหา จะมีขึ้นในวันที่ 6 มิย.นี้ โดยจะมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และรถพยาบาลจาก รพ.ชุมชน ต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันตั้งจุดบริการตรวจสุขภาพฟรีให้ประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยรอบๆบริเวณบ้านพักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เห็นว่านโยบายที่ผิดพลาด มีผลประโยชน์แอบแฝง จะทำให้มีการเคลื่อนย้ายแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่อื่นๆจาก รพ.ของรัฐเข้า รพ.เอกชน จากชนบทเข้าเมืองใหญ่ จะเพิ่มความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวมมากขึ้น คนชนบทจะเดือดร้อน
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่า จากเอกสารและการเปิดเผยของพยานบุคคลที่ขอสงวนนามในขั้นตอนนี้ ได้ระบุชัดว่ามีไอ้โม้งในกระทรวงสาธารณสุขที่มีอำนาจเหนือบอร์ดองค์การเภสัชกรรม และ สปสช.สั่งเปลี่ยนเส้นทางของเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐหรือเงินที่องค์การเภสัชกรรมต้องจ่ายให้หน่วยงานต่างๆ ที่สั่งซื้อยาและชำระเงินสดภายใน 60 วัน ของปี 2555 จำนวนกว่า 91 ล้านบาท ที่เตรียมจัดส่งให้ รพ.ต่างๆ ตามหนังสือแนะนำของ สตง.และไอ้โม่งได้สั่งให้ สปสช.มีหนังสือลงวันที่ 31 ม.ค. 2556 แจ้งให้องค์การเภสัชกรรมแบ่งเงิน 75 ล้านบาท ส่งเข้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดสรรให้กลุ่มใกล้ชิดการเมืองบนตึกชั้น 4 แต่ถูก นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม มีหนังสือลงวันที่ 4 เม.ย.2556 ขวางไว้ว่าจะส่งเงิน75 ล้านบาทตามสั่งได้ต่อเมื่อมีการจัดทำโครงการสนับสนุน รพ.ต่างๆ อย่างชัดเจนก่อน สร้างความไม่พอใจให้ผู้มีอำนาจทางการเมืองจนต้องสั่ง สปสช.ให้มีหนังสือเมื่อวันที่ 23 เมย. 2556 มอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้พิจารณาโครงการแบบเบ็ดเสร็จเอง โดยไม่คำนึงถึงคำแนะนำของ สตง.
“การขัดขวางไม่ยอมส่งเงิน 75 ล้านบาทตามคำสั่ง สร้างความไม่พอใจจากกลุ่มผู้ใกล้ชิดนักการเมืองบนชั้น 4 ที่พยายามติดตามเร่งรัดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ นพ.วิฑิต โอนเงินดังกล่าวให้ ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การรับรู้ของข้าราชการซี 10 คนหนึ่งที่เคยมีข่าวไม่สนองนโยบายจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดและเกือบถูกย้าย โดยข้าราชการผู้นี้และอีกหลายคนพร้อมจะเปิดเผยตัวและให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงขบวนการถ้ามีการตั้งบุคคลภายนอกที่สังคมไว้วางใจเป็นกรรมการสอบข้อเท็จจริงเหมือนกรณีทุจริตยาและงบไทยเข้มแข็งที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่าผู้มีอำนาจอยู่เหนือบอร์ดองค์การเภสัชกรรม และ สปสช.มีเป้าหมายเข้าไปเปลี่ยนทีมบริหารของบริษัทผลิตน้ำเกลือเอกชนที่องค์การเภสัชกรรมถือหุ้นอยู่ 49% เพื่อเตรียมขยายการผลิตน้ำเกลือป้อนให้กับธุรกิจ รพ.เอกชนในเครือข่ายผู้มีอำนาจทางการเมืองที่ได้ขยายเตรียมการรองรับการเปิดตลาดเสรีอาเซียนไว้แล้ว รวมทั้งกดดันให้องค์การเภสัชกรรมซึ่งมียอดขายปีที่ผ่านมา กว่า 12,000 ล้านบาทให้สนับสนุนบริษัทยาเอกชนและไม่ให้แข่งขันกับบริษัทยาข้ามชาติ แต่ทั้งหมดไม่ได้รับการสนองตอบอย่างเต็มที่จาก นพ.วิทิต เป็นสาเหตุแตกหัก นำไปสู่สำสั่งลับให้ปลดผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น”
ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวต่อว่า เป้าหมายต่อไปของกลุ่มธุรกิจการเมือง คือ เปลี่ยนเส้นทางการเงินสามกองทุนปี 2557 ของ สปสช.กรมบัญชีกลางและประกันสังคมรวมกว่า 212,000 ล้านบาทให้เอื้อกับธุรกิจ รพ.เอกชนที่ผู้มีอำนาจทางการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ได้มีการกว้านซื้อเตรียมขยายตลาดทั่วประเทศรองรับไว้แล้ว
นพ.วชิระ บถพิบูลย์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบทและแกนนำเคลื่อนไหวของกลุ่มคนไม่เอา นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ เป็น รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ รพ.ชุมชมและภาคประชาชนเห็นอันตรายของนโยบายพีฟอร์พี และผลประโยชน์ทับซ้อนเชิงนโยบายที่จะทำให้ระบบสาธารณสุขของรัฐเสียหาย เอื้อประโยชน์ธุรกิจเอกชน เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ไร้ที่พึ่ง ชมรมแพทย์ชนบท เครือข่ายกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เครือข่ายผู้ป่วยทั่วประเทศ เตรียมจับมือกับสหภาพวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม และรัฐวิสาหกิจอื่นๆชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 6 มิย.นี้ และจะเข้าพบนายกยิ่งลักษณ์ที่บ้านพัก เรียกร้องให้ยกเลิกนโยบายพีฟอร์พี ทำลายระบบสาธารณสุข ทำร้ายองค์การเภสัชกรรมของรัฐ และให้ย้าย นพ.ประดิษฐ์ ออกจากกระทรวงสาธารณสุข
อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รพ.ชุมชนทั่วประเทศมีการเคลื่อนอย่างต่อเนื่องไม่เอาพีฟอร์พี และขับไล่ นพ.ประดิษฐ ทุกจังหวัดที่มีกำหนดการไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ และการชุมนุมใหญ่เพื่อให้นายกรัฐมนตรีแก้ไขปัญหา จะมีขึ้นในวันที่ 6 มิย.นี้ โดยจะมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และรถพยาบาลจาก รพ.ชุมชน ต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันตั้งจุดบริการตรวจสุขภาพฟรีให้ประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยรอบๆบริเวณบ้านพักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เห็นว่านโยบายที่ผิดพลาด มีผลประโยชน์แอบแฝง จะทำให้มีการเคลื่อนย้ายแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่อื่นๆจาก รพ.ของรัฐเข้า รพ.เอกชน จากชนบทเข้าเมืองใหญ่ จะเพิ่มความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวมมากขึ้น คนชนบทจะเดือดร้อน