xs
xsm
sm
md
lg

แฉเครื่องตรวจน้ำตาล สธ.ล็อกสเปกเกาหลีทำรัฐสูญเงิน 115 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แพทย์ชนบทแฉมีกลุ่มคนใกล้ชิดนักการเมืองในกระทรวงสาธารณสุขอยู่เบื้องหลังล็อกสเปกให้ยี่ห้อเกาหลี สั่งตั้งงบเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดชนิดพกพาสำหรับ อสม.จำนวน 81,685 เครื่อง ราคาเครื่องละ 1,800 รวมเป็นเงิน 147 ล้านบาท ขายสูงกว่าที่องค์การเภสัชกรรมขายอยู่ในขณะนี้ถึง 4.5 เท่า ทำรัฐสูญเงินงวดแรกกว่า 115 ล้านบาท และจะต้องถูกผูกขาดซื้อแถบตรวจ เสียเงินอีกปีละกว่า 100 ล้านบาท จี้หมอประดิษฐตั้งคนกลางสอบข้อเท็จจริง และฟ้อง DSI เอาคนทุจริตหากินกับการสูบเลือดผู้ป่วยเบาหวานมาลงโทษ เพื่อทำกระทรวงสาธารณสุขให้สะอาด ตามนโยบายที่ประกาศไว้

วันนี้ (30 เม.ย.) นพ.วชิระ บถพิบูลย์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่า มีผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งข้อมูลเอกสารขบวนการเตรียมการทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดชนิดพกพาสำหรับ อสม.มูลค่าการจัดซื้องวดแรกกว่า 147 ล้านบาท ว่ามีกลุ่มนักธุรกิจที่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจทางการเมืองในกระทรวงสาธารณสุข เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยมีข่าวเกี่ยวข้องกับความพยายามจะทุจริตการจัดซื้อครุภัณฑ์กว่า 500 ล้านบาท จากงบค่าเสื่อมของ สปสช.ในส่วนที่เป็นอำนาจของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในสมัย นายวิทยา บุรณศิริ เป็น รมว.สาธารณสุข ในครั้งนี้กลุ่มบุคคลดังกล่าวอาศัยอำนาจของนักการเมือง สั่งให้ตั้งงบจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลดังกล่าวด้วยการล็อกสเปกให้ได้ยี่ห้อจากประเทศเกาหลี ที่พวกตนติดต่อไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยตั้งราคาเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดแถมแถบตรวจจำนวน 50 แถบ ราคาชุดละ 1,800 บาท แพงกว่าที่องค์การเภสัชกรรมขายอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้ที่ราคาเพียง 400 บาท ถึง 4.5 เท่า ทำให้รัฐสูญเสียเงินงวดแรกนี้กว่า 115 ล้านบาท และมีแผนผูกขาดขายแถบตรวจน้ำตาลในเลือดที่ตั้งราคาสูงกว่าองค์การเภสัชกรรมกว่าเท่าตัว โดย อสม.ทั่วประเทศต้องใช้ตรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานในชุมชนกว่าปีละ 20 ล้านครั้ง เป็นเงินที่ต้องสูญเสียเพิ่มเติมตกปีละกว่า 100 ล้านบาทต่อเนื่องทุกปี
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่ได้รับ เรื่องนี้เดิมมีคำสั่งจากผู้มีอำนาจทางการเมืองในกระทรวงสาธารณสุขให้จัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในส่วนกลางทั้งหมดกว่า 80,000 เครื่อง เพราะสะดวกกับการเบิกจ่ายเงิน โดยมอบหมายให้รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขท่านหนึ่งเป็นประธานกำหนด TOR การจัดซื้อ แต่มีผู้ใหญ่ที่เคยมีประสบการณ์กรณีทุจริตยา ได้ให้คำแนะนำรองปลัดฯ ให้กระจายความเสี่ยงมอบอำนาจให้ สสจ.ทุกจังหวัดเป็นผู้จัดซื้อแทน สร้างความไม่พอใจให้กับผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง จนมีข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ในกระทรวงสาธารณสุขว่าจะย้ายรองปลัดฯ คนหนึ่งไปเป็นผู้ตรวจราชการ

เรื่องนี้มีการเตรียมการทุจริตอย่างแน่นอน ถ้าไม่มีการสั่งระงับจะทำให้รัฐต้องซื้อแพงกว่าที่องค์การเภสัชกรรมขาย สูญเงินทันทีกว่า 115 ล้านบาท และจะต้องสูญเงินอีกปีละกว่า100 ล้านบาทต่อเนื่องทุกปีจนกว่าจะเลิกใช้เครื่องดังกล่าว จึงขอเรียกร้องให้ รมว.สาธารณสุข ส่งเรื่องฟ้อง DSI ให้เข้าตรวจสอบอย่างจริงจังเหมือนที่ทำกับองค์การเภสัชกรรมในกรณีการสร้างโรงงานผลิตวัคซีนล่าช้าและการพบสารปนเปื้อนของยาพาราเซตามอล และตั้งคนนอกเป็นกรรมการสอบข้อเท็จจริง เหมือนกรณีทุจริตงบไทยเข้มแข็ง จนอดีต รมว.สาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ ต้องแสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้สังคมมั่นใจความโปร่งใสของกระทรวงสาธารณสุข” นพ.วชิระ กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดขายชุดตรวจน้ำตาลในเลือดมีการแข่งขันสูง ทำให้ราคาขายลดลงทุกปีประกอบกับค่าเงินบาทไทยแข็งอย่างต่อเนื่องยิ่งทำให้ราคาถูกลงอย่างมาก และเมื่อวันที่ 9 ก.พ.2553 องค์การเภสัชกรรมได้มีใบเสนอราคาขายแถบตรวจน้ำตาลในเลือด 50 ชิ้น/กล่อง ในราคา 400 บาท ซื้อ 10 กล่องแถมฟรี 4 กล่อง พร้อมวางเครื่องตรวจน้ำตาลเครื่องใหม่ 40 เครื่อง (กล่องละ 4 เครื่อง) ให้ฟรี โดยมีเจ้าหน้าที่สอนการใช้เครื่องและทดสอบดูแลทุกเครื่องตลอดการใช้งาน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขยุคนี้ ได้มีหนังสือสั่งการลงวันที่ 27 ก.พ.2556 ให้ สสจ.ทุกจังหวัด ดำเนินการจัดซื้อโดยตั้งงบประมาณไว้ที่เครื่องตรวจเครื่องละ 1,800 บาท แถมแถบตรวจ 50 แถบ พร้อมอบรมการใช้เครื่อง ราคาที่ตั้งไว้สูงกว่าขององค์การเภสัชกรรมที่ขายอยู่ในท้องตลาดถึง 4.5 เท่าตัว และเฉพาะแถบตรวจมีข่าวว่าจะขายสูงกว่า 2 เท่าตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น