สัปดาห์หน้ามีลุ้น! “ธาริต” เผยดีเอสไอเตรียมออกหมายจับผู้กระทำผิดสอบครูผู้ช่วย พร้อมเตรียมส่งหนังสือถึง ก.ค.ศ.และ อ.ก.ค.ศ.จัดการ 344 คนที่มีข้อมูลการตรวจสอบและผลวิเคราะห์ชี้ว่า “โกงการสอบ”
วันนี้ (2 พ.ค.) โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการ ศธ.ในฐานะประธานสอบสวนข้อเท็จจริง ดร.ชอบ ลีซอ ประธานอนุกรรมการฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วย และนางรัตนา ศรีหิรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ร่วมชี้แจงการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ว 12 ต่อคณะอนุกรรรมการ ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ
โดย นายธาริต กล่าวว่า ขณะนี้การสอบสวนของดีเอสไอ เดินมาได้ครึ่งทางแล้ว ซึ่งยืนยันมีการทุริตแน่นอน เพราะดีเอสไอพบหลักฐานต่างๆ เช่น โพยเฉลยข้อสอบ ยางลบเฉลยข้อสอบ แต่ที่บอกว่ามาได้ครึ่งทาง เพราะดีเอสไอยังไม่ได้ออกหมายจับตัวใคร อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์หน้า ดีเอสไอจะมีการออกหมายจับแน่นอน ทั้งนี้ ในประเด็นที่ ดร.ชอบ ลีซอ อดีตผู้ช่วยชาญด้านการทดสอบของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะอนุกรรมการฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลฯ ที่นายเสริมศักดิ์ ตั้งขึ้น ได้ทำการวิเคราะห์คะแนนและฟันธงว่า มีผู้เข้าสอบที่ได้คะแนนเกิน 90% จำนวน 344 คน ใน 131 เขตพื้นที่การศึกษาโกงการสอบแน่นอน เพราะมีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่า คนกลุ่มนี้มีเฉลยข้อสอบนั้น รวมทั้งข้อมูลการสอบสวนที่นายพิษณุ ได้มาเพิ่มเติมนั้น ทางดีเอสไอจะขอสอบทั้ง ดร.ชอบ และ นายพิษณุ เพิ่มเติม จากนั้นจะนำผลการวิเคราะห์ของทั้ง 2 ใส่เข้าอยู่สำนวนสอบสวนของดีเอสไอ
“หลังจากที่อัพเดตผลการสอบสวนจากข้อมูลของ ดร.ชอบ และนายพิษณุ เข้ามาอยู่ในสำนวนของดีเอสไอครบถ้วนแล้ว ภายในสัปดาห์หน้า ดีเอสจะทำหนังสือถึง ก.ค.ศ.และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ทั้ง 131 เขตฯ ว่า สมควรพิจารณายกเลิกการบรรจุทั้ง 344 คน พร้อมส่งสำนวนการสอบสวนทั้งหมดและรายชื่อ 344 คนไปให้ด้วย ทั้งนี้ ผมอยากให้ อ.ก.ค.ศ.ไม่ต้องกังวลใจว่า จะถูกฟ้องกลับหากยกเลิกการบรรจุทั้ง 344 คน เพราะผมมั่นใจว่าคนกลุ่มนี้ไม่กล้าฟ้องศาลปกครอง เพราะกลัวเบิกความเท็จ จะโดนคดีอาญาซ้ำอีก 1 คดี และจริงๆ แล้ว ถ้ามีการฟ้องร้องจริงๆ ก็ต้องเป็นการฟ้องหน่วยงานไม่ใช่ฟ้อง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ อ.ก.ค.ศ.จะมีความผิดต่อเมื่อเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง แต่นี่ดีเอสไอก็มีหนังสือไปถึง อ.ก.ค.ศ.และมีผลการวิเคราะห์ของ ดร.ชอบ และนายพิษณุ รองรับ แล้วจะถือว่า อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ประมาทเลินเล่อร้ายแรงได้อย่างไร “
ด้านนายพิษณุ กล่าวว่า วันนี้ตนเองขอกล่าวโทษทั้ง 344 คนต่อหน้า รมช.ศึกษาธิการ และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ว่าทุจริต เพราะจากการสอบสวนค่อนข้างชัดเจนว่ามีการทุจริต โดยคณะกรรมการชุดตนนั้นได้ข้อมูลจากผู้ที่ร่วมในกระบวนการสอบเอง ว่ามีวิธีการทุจริตอย่างไร ซึ่งการทุจริตครั้งนี้ไม่ใช่กระทำแค่เพียงเอเย่นต์เท่านั้น แต่มีการนำไปขายต่อทำให้เกิดการทุจริตวงกว้าง
นายประเสริฐ บุญเรือง ประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 กล่าวว่า สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 มีผู้สอบบรรจุได้ 2 คน และมีคะแนนสูงมาก 198 คะแนนและถือว่าผิดปกติ ซึ่งการรับฟังชี้แจงในวันนี้ ตนคิดว่าหากมีหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่แจ้งมาว่าการสอบครูผู้ช่วยที่ผ่านมามีการทุจริตคิดว่าการประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯบุรีรัมย์ เขต 1 สามารถยกเลิกผลการสอบได้ หรือจะใช้เฉพาะหนังสือของ สพฐ.ที่แจ้งผลการวิเคราะห์ข้อมูลผลการคัดเลือกครูผู้ช่วยที่วิเคราะห์โดยนายชอบก็สามารถนำไปยกเลิกการสอบได้ ซึ่งในวันนี้นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.ได้ทำหนังสือแจ้งไปให้เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศทราบแล้ว
ทั้งนี้ เอกสารการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติของคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลฯ ได้สรุปได้ 4 ประเด็นได้แก่ 1.คะแนนผลการสอบคัดเลือกมีลักษณะผิดปกติในช่วงปลายสุดของการแจกแจงความถี่ 2.ข้อมูลมีความสอดคล้องกับข้อสงสัยว่าคำเฉลยของข้อ 34 มีการรั่วไหล 3.มีผู้ที่กระทำส่อไปในทางไม่สุจริตโดยนำเฉลยออกไปลอกในห้องสอบอย่างน้อย 344 คน และ 4.คะแนนของกลุ่มผู้ที่กระทำที่ส่อไปในทางไม่สุจริจมีการแจกแจกความถี่แตกต่างจากกลุ่มปกติอย่างชัดเจน ทั้งนี้จากข้อมูลดังกล่าวค่อนข้างชัดเจนที่จะนำไปยกเลิกการสอบได้ โดยถือว่าเป็นขาดคุณสมบัติตามมาตรา 30(13) ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ด้านผู้แทน อ.ก.ค.ศ.สพม.เขต 20 กล่าวว่า สพม.เขต20 พบผู้มีคะแนนสูงผิดปกติจำนวน 3 ราย และเชื่อว่าไม่ได้ ได้มาโดยสุจริต แต่เท่าที่ถามผู้เข้าสอบว่าถ้า อ.ก.ค.ศ.ประกาศยกเลิกเพิกถอนแล้วจะฟ้อง อ.ก.ค.ศ.หรือไม่ ซึ่งทุกคนบอกว่าต้องฟ้องศาลปกครองแน่นอน ดังนั้นจึงอยากให้แน่ใจว่าหลักฐานพยานที่ดีเอสไอจะส่งให้ อ.ก.ค.ศ.มีความชัดเจน ทั้งนี้ตนเห็นว่า เมื่อคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายพิษณุเป็นประธาน และดีเอสไอ พูดเหมือนกับว่ารู้ตัวแล้วว่าใครผิด ทำไมไม่จับตัวการใหญ่ก่อน และค่อยขยายผลมาจัดการกับผู้ที่ทำการทุจริต