ดีเอสไอสอบทุจริตครูผู้ช่วยไม่เจอพัวพันรายใหญ่ใน ศธ.พบเพียง 4 เขตพื้นที่ “เสริมศักดิ์” เตรียมยกเลิกผลการสอบครู 6 ราย พร้อมหารือ ก.ค.ศ.เลื่อนสอบเดือน เม.ย.ออกไป เกร็งคนได้คะแนนสูงจากการโกงมาสอบอีก
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลการสอบสวนทุจริตสอบครูผู้ช่วย ว่า ดีเอสไอเสนอให้ ศธ.พิจารณายกเลิกการสอบใน 4 เขตพื้นที่การศึกษาที่พบการทุจริตชัดเจน ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต 3 สพป.อุดรธานี เขต 3 สพป.ยโสธร เขต 1 และ สพป.นครราชสีมา เขต 2 ดังนั้น การประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ จึงเตรียมเสนอให้ยกเลิกการสอบเป็นรายบุคคลในสพป.ทั้ง 4 เขต ตามข้อมูลที่ดีเอสไอระบุว่า มีผู้ผ่านการคัดเลือกใน สพป.ทั้ง 4 เขตมีพฤติกรรมทุจริตสอบรวมจำนวน 6 ราย โดยอยู่ใน สพป.ขอนแก่น เขต 3 จำนวน 3 ราย ที่เหลืออีก 3 เขต พบเขตละ 1 คน ก็คงเสนอให้ยกเลิกผลสอบของบุคคลเหล่านี้ รวมถึงจะเสนอให้ยกเลิกผลสอบของผู้ผ่านการคัดเลือกอีก 1 รายใน สพป.นครปฐม เขต 1 ซึ่งทีมสอบสวนของ ศธ.ตรวจสอบพบผู้ทุจริตรายนี้เองและเจ้าตัวได้รับสารภาพแล้ว นอกจากนั้น ตนจะให้ สพฐ.ตั้งกรรมการสอบสวนผู้อำนวยการ สพป.ทั้ง 4 แห่ง รวมทั้งฝ่ายบุคคลด้วย เพราะถือว่าผลสอบของดีเอสไอระบุชัดเจนแล้วว่า มีการทุจริตการสอบในพื้นที่ดังกล่าว
นายเสริมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการหารือใน ก.ค.ศ.ด้วยว่า การสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการครูในเดือน เม.ย.นี้ จำเป็นจะต้องเลื่อนออกไปหรือไม่ เพื่อให้รอให้การสอบสวนผู้ที่ทำคะแนนสอบได้สูงผิดปกติจำนวน 486 รายเสร็จสิ้นก่อน ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอและทีมสอบสวนของ ศธ.กำลังเร่งสอบอยู่ แต่คงต้องใช้เวลาเพราะมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก และในระหว่างที่ยังตรวจสอบไม่เสร็จ ก็ไม่มีสิทธิห้ามบุคคลเหล่านี้ให้ไปสมัครสอบครูในเดือน เม.ย.เพราะฉะนั้น ควรรอให้ผลสอบออกมาชัดเจนว่า ใครบ้างที่ทุจริตเพื่อไม่ให้เขามีสิทธิไปสมัครสอบคัดเลือกครูอีก อย่างไรก็ตาม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายให้มหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกข้อสอบคัดเลือกครูแทน ขณะที่ทาง สพฐ.ก็อยากกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้จัดสอบครูเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดีเอสไอได้เชื่อมโยงการทุจริตสอบครูผู้ช่วยกับผู้บริหารในส่วนกลางหรือไม่ นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้น ดีเอสไอระบุว่า การทุจริตสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้มีการทำเป็นกระบวนการระหว่างเจ้าหน้าที่ในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและผู้เข้าสอบ แต่ที่ยังไม่มีการระบุชื่อผู้กระทำผิด เพราะการสอบสวนที่ผ่านมาเป็นแค่การสอบสวนเบื้องต้น อาจจะยังได้พยานหลักฐานมาไม่มาก หลังจากนี้ เมื่อมีการรับเป็นคดีพิเศษแล้ว การสอบสวนน่าจะเข้มข้นขึ้น ให้รอดูผลสอบดัวกล่าว อย่าเพิ่งใจร้อน
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลการสอบสวนทุจริตสอบครูผู้ช่วย ว่า ดีเอสไอเสนอให้ ศธ.พิจารณายกเลิกการสอบใน 4 เขตพื้นที่การศึกษาที่พบการทุจริตชัดเจน ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต 3 สพป.อุดรธานี เขต 3 สพป.ยโสธร เขต 1 และ สพป.นครราชสีมา เขต 2 ดังนั้น การประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ จึงเตรียมเสนอให้ยกเลิกการสอบเป็นรายบุคคลในสพป.ทั้ง 4 เขต ตามข้อมูลที่ดีเอสไอระบุว่า มีผู้ผ่านการคัดเลือกใน สพป.ทั้ง 4 เขตมีพฤติกรรมทุจริตสอบรวมจำนวน 6 ราย โดยอยู่ใน สพป.ขอนแก่น เขต 3 จำนวน 3 ราย ที่เหลืออีก 3 เขต พบเขตละ 1 คน ก็คงเสนอให้ยกเลิกผลสอบของบุคคลเหล่านี้ รวมถึงจะเสนอให้ยกเลิกผลสอบของผู้ผ่านการคัดเลือกอีก 1 รายใน สพป.นครปฐม เขต 1 ซึ่งทีมสอบสวนของ ศธ.ตรวจสอบพบผู้ทุจริตรายนี้เองและเจ้าตัวได้รับสารภาพแล้ว นอกจากนั้น ตนจะให้ สพฐ.ตั้งกรรมการสอบสวนผู้อำนวยการ สพป.ทั้ง 4 แห่ง รวมทั้งฝ่ายบุคคลด้วย เพราะถือว่าผลสอบของดีเอสไอระบุชัดเจนแล้วว่า มีการทุจริตการสอบในพื้นที่ดังกล่าว
นายเสริมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการหารือใน ก.ค.ศ.ด้วยว่า การสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการครูในเดือน เม.ย.นี้ จำเป็นจะต้องเลื่อนออกไปหรือไม่ เพื่อให้รอให้การสอบสวนผู้ที่ทำคะแนนสอบได้สูงผิดปกติจำนวน 486 รายเสร็จสิ้นก่อน ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอและทีมสอบสวนของ ศธ.กำลังเร่งสอบอยู่ แต่คงต้องใช้เวลาเพราะมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก และในระหว่างที่ยังตรวจสอบไม่เสร็จ ก็ไม่มีสิทธิห้ามบุคคลเหล่านี้ให้ไปสมัครสอบครูในเดือน เม.ย.เพราะฉะนั้น ควรรอให้ผลสอบออกมาชัดเจนว่า ใครบ้างที่ทุจริตเพื่อไม่ให้เขามีสิทธิไปสมัครสอบคัดเลือกครูอีก อย่างไรก็ตาม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายให้มหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกข้อสอบคัดเลือกครูแทน ขณะที่ทาง สพฐ.ก็อยากกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้จัดสอบครูเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดีเอสไอได้เชื่อมโยงการทุจริตสอบครูผู้ช่วยกับผู้บริหารในส่วนกลางหรือไม่ นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้น ดีเอสไอระบุว่า การทุจริตสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้มีการทำเป็นกระบวนการระหว่างเจ้าหน้าที่ในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและผู้เข้าสอบ แต่ที่ยังไม่มีการระบุชื่อผู้กระทำผิด เพราะการสอบสวนที่ผ่านมาเป็นแค่การสอบสวนเบื้องต้น อาจจะยังได้พยานหลักฐานมาไม่มาก หลังจากนี้ เมื่อมีการรับเป็นคดีพิเศษแล้ว การสอบสวนน่าจะเข้มข้นขึ้น ให้รอดูผลสอบดัวกล่าว อย่าเพิ่งใจร้อน