สพฐ.ฟื้นแนวคิดนำระบบบัตรเดบิตให้ผู้ปกครองนำไปใช้ซื้อชุด นร.และอุปกรณ์การเรียนเอง เล็งชง “พงศ์เทพ” พิจารณา เลขา กพฐ.ระบุเรื่องนี้ชะงักไปในสมัย “สุชาติ” พร้อมชี้ระบบดังกล่าวจะทำให้การบริหารงบมีประสิทธิภาพขึ้น ระบุ ที่ผ่านมา ไม่มีหลักประกันว่าเงินเรียนฟรีที่จัดสรรให้ ร.ร.ถูกนำไปใช้อย่างสมประโยชน์ 100%
วันนี้ (2 ม.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ฟื้นแนวคิดจัดสรรงบประมาณโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ให้นักเรียนในสังกัดผ่านทางระบบบัตรเดบิต (Debit Card) หรือ บัตรสมาร์ทเพิร์ส (Smart Purse) ซึ่งภายใต้โครงการเรียนฟรีฯนั้น รัฐจะต้องจัดสรรเงินเรียนฟรีฯ ในส่วนของค่าเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนวงเงิน 800 บาทต่อคนต่อปี ให้แก่นักเรียนโดยตรงเพื่อที่ผู้ปกครองจะนำไปจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนเอง ทั้งนี้ โดย สพฐ.เตรียมเสนอระบบการจัดสรรเงินค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนตามแนวทางดังกล่าวให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พิจารณา
อย่างไรก็ตาม การจัดสรรเงินใน 2 รายการดังกล่าวผ่านทางบัตรเดบิตนั้น จะทำให้การจัดสรรบริหารงบประมาณเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ปกครองนักเรียนนำเป็นเงินอุดหนุนรายหัว ได้นำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์มากขึ้น ที่ผ่านมา ไม่สามารถติดตามได้ว่างบประมาณดังกล่าวที่จัดสรรให้แก่ผู้ปกครองนักเรียนผ่านทางโรงเรียนนั้น ถูกนำไปใช้ประโยชน์ตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ นอกจากนี้ นักเรียนและผู้ปกครองจะสามารถเลือกรายการสินค้าที่ตรงความต้องการ โดยการใช้จ่ายเงินในบัตรไม่ได้กำหนดระยะเวลา ทำให้เกิดความยืดหยุ่น สามารถใช้ได้ตามความจำเป็น พร้อมกันนี้ยังเป็นการฝึกความรับผิดชอบให้แก่เด็ก
“งบประมาณโครงการเรียนฟรีฯ กว่า 4 หมื่นล้านบาทต่อปี ที่จัดสรรให้นักเรียนผ่านทางโรงเรียนนั้น ยังไม่มีหลักประกันว่าได้ใช้สมประโยชน์ 100% หรือไม่ นอกจากนี้ ยังเคยมีข้อมูลว่า เงินไม่ถึงตัวเด็ก เป็นต้น ดังนั้น ระบบนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความสูญเปล่าในการใช้งบประมาณที่อาจเกิดขึ้นได้ อีกทั้งในอนาคตหากระบบนี้สามารถใช้ได้จริงจะทำให้การบริหารจัดการอุดหนุดง บประมาณต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะระบบถูกควบคุมด้วยเลขประจำตัว 13 หลัก”นายชินภัทร กล่าวและว่า ทั้งนี้ การจัดสรรงบประมาณผ่านระบบนี้ คืองบลงทุนสำหรับจัดทำบัตรและค่าใช้จ่ายในการใช้เงินผ่านบัตร ซึ่งได้มีการหารือเบื้องต้นไว้กับธนาคารออมสินแล้ว อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้เคยได้รับความเห็นชอบจาก ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.ศึกษาธิการมาแล้ว แต่ขณะนั้นยังไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า สพฐ.ได้รวบรวมตัวเลขครุภัณฑ์เพื่อเสนอของบประมาณประจำปี 2557 โดยหลักๆ จะเป็นงบลงทุนสำหรับการซ่อมแซมอาคารเรียนที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม มีอายุมากกว่า 30 ปี ซึ่งมีอยู่มากนับหมื่นหลังในโรงเรียนระดับประถมศึกษาทั่วประเทศ วงเงินการซ่อมแซมประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะหากปล่อยให้พังจะเกิดอันตราย
วันนี้ (2 ม.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ฟื้นแนวคิดจัดสรรงบประมาณโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ให้นักเรียนในสังกัดผ่านทางระบบบัตรเดบิต (Debit Card) หรือ บัตรสมาร์ทเพิร์ส (Smart Purse) ซึ่งภายใต้โครงการเรียนฟรีฯนั้น รัฐจะต้องจัดสรรเงินเรียนฟรีฯ ในส่วนของค่าเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนวงเงิน 800 บาทต่อคนต่อปี ให้แก่นักเรียนโดยตรงเพื่อที่ผู้ปกครองจะนำไปจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนเอง ทั้งนี้ โดย สพฐ.เตรียมเสนอระบบการจัดสรรเงินค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนตามแนวทางดังกล่าวให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พิจารณา
อย่างไรก็ตาม การจัดสรรเงินใน 2 รายการดังกล่าวผ่านทางบัตรเดบิตนั้น จะทำให้การจัดสรรบริหารงบประมาณเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ปกครองนักเรียนนำเป็นเงินอุดหนุนรายหัว ได้นำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์มากขึ้น ที่ผ่านมา ไม่สามารถติดตามได้ว่างบประมาณดังกล่าวที่จัดสรรให้แก่ผู้ปกครองนักเรียนผ่านทางโรงเรียนนั้น ถูกนำไปใช้ประโยชน์ตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ นอกจากนี้ นักเรียนและผู้ปกครองจะสามารถเลือกรายการสินค้าที่ตรงความต้องการ โดยการใช้จ่ายเงินในบัตรไม่ได้กำหนดระยะเวลา ทำให้เกิดความยืดหยุ่น สามารถใช้ได้ตามความจำเป็น พร้อมกันนี้ยังเป็นการฝึกความรับผิดชอบให้แก่เด็ก
“งบประมาณโครงการเรียนฟรีฯ กว่า 4 หมื่นล้านบาทต่อปี ที่จัดสรรให้นักเรียนผ่านทางโรงเรียนนั้น ยังไม่มีหลักประกันว่าได้ใช้สมประโยชน์ 100% หรือไม่ นอกจากนี้ ยังเคยมีข้อมูลว่า เงินไม่ถึงตัวเด็ก เป็นต้น ดังนั้น ระบบนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความสูญเปล่าในการใช้งบประมาณที่อาจเกิดขึ้นได้ อีกทั้งในอนาคตหากระบบนี้สามารถใช้ได้จริงจะทำให้การบริหารจัดการอุดหนุดง บประมาณต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะระบบถูกควบคุมด้วยเลขประจำตัว 13 หลัก”นายชินภัทร กล่าวและว่า ทั้งนี้ การจัดสรรงบประมาณผ่านระบบนี้ คืองบลงทุนสำหรับจัดทำบัตรและค่าใช้จ่ายในการใช้เงินผ่านบัตร ซึ่งได้มีการหารือเบื้องต้นไว้กับธนาคารออมสินแล้ว อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้เคยได้รับความเห็นชอบจาก ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.ศึกษาธิการมาแล้ว แต่ขณะนั้นยังไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า สพฐ.ได้รวบรวมตัวเลขครุภัณฑ์เพื่อเสนอของบประมาณประจำปี 2557 โดยหลักๆ จะเป็นงบลงทุนสำหรับการซ่อมแซมอาคารเรียนที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม มีอายุมากกว่า 30 ปี ซึ่งมีอยู่มากนับหมื่นหลังในโรงเรียนระดับประถมศึกษาทั่วประเทศ วงเงินการซ่อมแซมประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะหากปล่อยให้พังจะเกิดอันตราย