“ศศิธารา” สั่งยกเครื่องการบริการ/การขาย องค์การค้าฯ ให้เดินหน้าหาลูกค้ามากขึ้น พร้อมจัดงาน องค์การค้า มาร์เก็ต ขายสินค้าราคาถูก 4 วัน หวังสูงฟันยอดขาย 10 ล้านบาท พร้อมเตรียมทำแผนพิมพ์ตำราเรียนปี 2556 หวั่นแท็บเล็ตทำยอดขายลด
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ต้องการให้องค์การค้าฯ ปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการงานขายใหม่เพื่อให้มีกำไรเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน องค์การค้าฯมีหนี้สินหลักพันล้าน แต่กลับทำยอดขายสินค้าได้ไม่สูงเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเพราะองค์การค้าฯมีช่องทางขายโดยตรงผ่านร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ที่มีอยู่เพียง 9 สาขาเท่านั้น ขณะที่การซื้อขายโดยตรงกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงลูกค้ารายใหญ่ คือ สถานศึกษาในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ก็ยังมียอดขายไม่สูง เพราะติดปัญหาเรื่องการบริการ เพราะฉะนั้น องค์การค้าฯ ต้องปรับแนวทางค้าขายใหม่ โดยจะต้องเข้าหาและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น พร้อมเก็บข้อมูล ข้อเสนอแนะจากลูกค้าและร้านค้าที่เป็นตัวแทนทั่วประเทศมาปรับปรุงงานค้า
“จะมีการจัดงานองค์การค้ามาร์เก็ตระหว่าง 27-30 ก.ค.นี้ ที่ จ.สุรินทร์ เพื่อจัดขายสินค้าราคาถูกจากองค์การค้าฯให้กับผู้บริโภคและสถานศึกษาโดยตรงนำสินค้ายอดนิยมมาจำหน่ายราคาถูกตลอด 4 วัน อาทิเช่น อุปกรณ์ห้องวิทยาศาสตร์ หนังสือเรียน อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน อุปกรณ์กีฬา และตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องทำยอดขายให้ได้ 10 ล้านบาท และจะใช้โอกาสนี้ เชิญตัวแทนร้านค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 100 ราย พร้อมตัวแทนจาก สพฐ.และ สช.มาร่วมพูดคุยถึงปัญหา และไม่สะดวกต่างๆ ในการสั่งซื้อสินค้าจากองค์การค้าฯ เพื่อหาทางปรับปรุงบริการงานขายต่อไป รวมทั้งจะเชิญ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศธ.ซึ่งมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.สุรินทร์ มาร่วมงาน องค์การค้า มาร์เก็ต ด้วย” น.ส.ศศิธารา กล่าว
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้า จะเรียกองค์การค้าฯมาประชุมจัดทำแผนธุรกิจเกี่ยวกับการจัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือเรียนปี 2556 ทั้งนี้ เพราะไม่รู้ว่า เมื่อรัฐบาลแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้น ม.1 ใช้ทุกคนแล้ว ต่อไปจะสั่งซื้อหนังสือเรียนแจกนักเรียน ป.1 เหมือนเดิมหรือไม่ ถ้ามีการสั่งซื้อหนังสือเรียนระดับ ป.1 ลดลง อาจกระทบต่อยอดจำหน่ายหนังสือเรียนขององค์การค้าซึ่งในปี 2555 สามารถจำหน่ายหนังสือเรียนได้ 42 ล้านเล่ม มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท
“องค์การค้าฯ ได้รายงานข้อมูลให้ทราบว่า หนังสือเรียนที่จัดพิมพ์ 42 ล้านเล่มนั้น องค์การค้าฯพิมพ์เองแค่ 22 ล้านเล่ม ที่เหลืออีก 20 ล้านเล่ม จ้างโรงพิมพ์ภาคนอกพิมพ์ ทั้งนี้ เพราะเครื่องพิมพ์ขององค์การค้าฯ เสียอยู่หลายเครื่อง จึงได้สั่งให้ไปศึกษามาว่า ถ้ายอมซ่อมเครื่องเพื่อให้สามารถพิมพ์ตำราเรียนเองแล้ว จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ทำให้ได้กำไรมากขึ้นหรือไม่ หรือซ่อมแล้วไม่คุ้ม ควรจ้างโรงพิมพ์ภายนอกพิมพ์ต่อไป” ปลัด ศธ.กล่าวและว่า
สำหรับการขายที่ดินขององค์การค้าฯ 7 แปลงที่เหลือเพื่อนำเงินมาใช้หนี้นั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีหนังสือตอบกลับมาแล้วว่า องค์การค้าฯสามารถขายที่ดินได้ เพราะฉะนั้น จะให้มีการจ้างบริษัทมาทำราคาประเมินของที่ดินทุกแปลง และเสนอเข้าบอร์ด สกสค.เพื่อขอความเห็นว่า จะขายที่ดินดังกล่าวมาใช้หนี้หรือไม่ หรือจะเก็บไว้ทำโครงการคุรุธานี
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ต้องการให้องค์การค้าฯ ปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการงานขายใหม่เพื่อให้มีกำไรเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน องค์การค้าฯมีหนี้สินหลักพันล้าน แต่กลับทำยอดขายสินค้าได้ไม่สูงเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเพราะองค์การค้าฯมีช่องทางขายโดยตรงผ่านร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ที่มีอยู่เพียง 9 สาขาเท่านั้น ขณะที่การซื้อขายโดยตรงกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงลูกค้ารายใหญ่ คือ สถานศึกษาในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ก็ยังมียอดขายไม่สูง เพราะติดปัญหาเรื่องการบริการ เพราะฉะนั้น องค์การค้าฯ ต้องปรับแนวทางค้าขายใหม่ โดยจะต้องเข้าหาและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น พร้อมเก็บข้อมูล ข้อเสนอแนะจากลูกค้าและร้านค้าที่เป็นตัวแทนทั่วประเทศมาปรับปรุงงานค้า
“จะมีการจัดงานองค์การค้ามาร์เก็ตระหว่าง 27-30 ก.ค.นี้ ที่ จ.สุรินทร์ เพื่อจัดขายสินค้าราคาถูกจากองค์การค้าฯให้กับผู้บริโภคและสถานศึกษาโดยตรงนำสินค้ายอดนิยมมาจำหน่ายราคาถูกตลอด 4 วัน อาทิเช่น อุปกรณ์ห้องวิทยาศาสตร์ หนังสือเรียน อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน อุปกรณ์กีฬา และตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องทำยอดขายให้ได้ 10 ล้านบาท และจะใช้โอกาสนี้ เชิญตัวแทนร้านค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 100 ราย พร้อมตัวแทนจาก สพฐ.และ สช.มาร่วมพูดคุยถึงปัญหา และไม่สะดวกต่างๆ ในการสั่งซื้อสินค้าจากองค์การค้าฯ เพื่อหาทางปรับปรุงบริการงานขายต่อไป รวมทั้งจะเชิญ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศธ.ซึ่งมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.สุรินทร์ มาร่วมงาน องค์การค้า มาร์เก็ต ด้วย” น.ส.ศศิธารา กล่าว
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้า จะเรียกองค์การค้าฯมาประชุมจัดทำแผนธุรกิจเกี่ยวกับการจัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือเรียนปี 2556 ทั้งนี้ เพราะไม่รู้ว่า เมื่อรัฐบาลแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้น ม.1 ใช้ทุกคนแล้ว ต่อไปจะสั่งซื้อหนังสือเรียนแจกนักเรียน ป.1 เหมือนเดิมหรือไม่ ถ้ามีการสั่งซื้อหนังสือเรียนระดับ ป.1 ลดลง อาจกระทบต่อยอดจำหน่ายหนังสือเรียนขององค์การค้าซึ่งในปี 2555 สามารถจำหน่ายหนังสือเรียนได้ 42 ล้านเล่ม มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท
“องค์การค้าฯ ได้รายงานข้อมูลให้ทราบว่า หนังสือเรียนที่จัดพิมพ์ 42 ล้านเล่มนั้น องค์การค้าฯพิมพ์เองแค่ 22 ล้านเล่ม ที่เหลืออีก 20 ล้านเล่ม จ้างโรงพิมพ์ภาคนอกพิมพ์ ทั้งนี้ เพราะเครื่องพิมพ์ขององค์การค้าฯ เสียอยู่หลายเครื่อง จึงได้สั่งให้ไปศึกษามาว่า ถ้ายอมซ่อมเครื่องเพื่อให้สามารถพิมพ์ตำราเรียนเองแล้ว จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ทำให้ได้กำไรมากขึ้นหรือไม่ หรือซ่อมแล้วไม่คุ้ม ควรจ้างโรงพิมพ์ภายนอกพิมพ์ต่อไป” ปลัด ศธ.กล่าวและว่า
สำหรับการขายที่ดินขององค์การค้าฯ 7 แปลงที่เหลือเพื่อนำเงินมาใช้หนี้นั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีหนังสือตอบกลับมาแล้วว่า องค์การค้าฯสามารถขายที่ดินได้ เพราะฉะนั้น จะให้มีการจ้างบริษัทมาทำราคาประเมินของที่ดินทุกแปลง และเสนอเข้าบอร์ด สกสค.เพื่อขอความเห็นว่า จะขายที่ดินดังกล่าวมาใช้หนี้หรือไม่ หรือจะเก็บไว้ทำโครงการคุรุธานี
